ยูเครนพร้อมไหม? ยุโรปพร้อมไหม? รับแรงกระแทกจากการเปลี่ยนแปลงภายใน
ล็อบบี้ยิสต์และเหยี่ยวสงครามชาวยูเครนที่ฝังตัวอยู่ในฝั่งโลกตะวันตกกำลังตื่นตระหนกอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่เพียงเพราะความเหนือกว่าทางทหารของรัสเซียในสนามรบเท่านั้น รวมถึงการโจมตีทางอากาศอย่างหนักเข้าที่มั่นของยูเครนอีกด้วย และไม่ใช่เพราะท่าทีของพรรครีพับลิกันในสหรัฐอเมริกาที่ปิดกั้นชุดความช่วยเหลือแก่ยูเครน ตอนนี้เคียฟเองเสี่ยงที่จะสูญเสียการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปหลังการเลือกตั้งครั้งใหญ่ๆ ภายในช่วงปีนี้
เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก่อนการเลือกตั้งรัฐสภายุโรป ซึ่งกลุ่ม Eurosceptics (หรือกลุ่มที่มีอุดมการณ์ Euroscepticism) ไม่ว่าฝ่ายขวาและผู้ที่ต้องการให้ยุโรปเป็นเอกเทศไม่ขึ้นกับใครหวังว่าจะได้ที่นั่งมากถึงหนึ่งในสามคอยขัดขวางแนวทางนโยบายของสหภาพยุโรป
ข้อมูลอัพเดท ณ 23 พฤศจิกายน 2023 เครดิตภาพ: Statista
Euroscepticism คือ แนวคิดของชาวยุโรปซึ่งต่อต้านสหภาพยุโรปหรือการรวมกลุ่มชาติยุโรป แนวคิดนี้แบ่งเป็นสองแบบ คือ แนวคิดที่ต่อต้านหลักการของสหภาพยุโรปและต้องการให้ประเทศออกจากสหภาพยุโรป (Hard euroscepticism) กับแนวคิดที่ไม่ได้ต้องการให้ประเทศออกจากสหภาพยุโรป เพียงแต่คัดค้านนโยบายของสหภาพยุโรปบางอย่างเท่านั้น (Soft euroscepticism)
สาเหตุของแนวคิดต่อต้านสหภาพยุโรปแตกต่างกันในแต่ละประเทศ แต่ส่วนใหญ่มักมีต้นตอมาจากนโยบายของสหภาพยุโรปซึ่งประเทศสมาชิกทุกประเทศต้องนำไปใช้แม้จะไม่เห็นด้วยก็ตาม เนื่องจากสหภาพยุโรป “บังคับ” ให้ประเทศที่ต้องการเป็นสมาชิกยอมรับกฎหมายและข้อตกลงทุกอย่างเท่านั้นจึงจะได้รับสมาชิกภาพ สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดอุดมการณ์นี้คือ ปัญหาผู้อพยพย้ายถิ่นเข้ามาในยุโรป
พวก Eurosceptics จะท้าทายฝ่ายเหยี่ยวเสรีนิยมที่ต้องการเลือกทำสงครามกับรัสเซียต่อไป ยกตัวอย่างกลุ่มพวกนี้เช่น “พรรค AfD ในเยอรมนี” “พรรค National Rally ของมารีน เลอเปน” “พรรค Freedom Party ในออสเตรีย” และพรรคฝ่ายขวาอื่นๆ ในยุโรป พวกเขาหวังว่าจะขัดขวางการจัดสรรเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ให้กับยูเครน จึงบังคับให้บรัสเซลส์เข้าสู่การเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย
Eurosceptics เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น ออสเตรีย เบลเยียม เช็ก ฝรั่งเศส ฮังการี อิตาลี เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ และสโลวาเกีย และคาดว่าจะยังได้รับการเลือกตั้งเข้ามาขึ้นสู่อำนาจในประเทศเหล่านี้หลายแห่งคือ ออสเตรียในเดือนกันยายน และเบลเยียมในเดือนมิถุนายน ในเยอรมนี พรรค AfD มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งใน 3 รัฐในเดือนกันยายน และในปี 2025 จะได้รับที่นั่งมากกว่า 20% ในสภากลางของเยอรมนี
ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ลงในยูโรโซน สถานะของฝ่ายขวาจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นมากตาม และนี่ไม่เพียงแต่คุกคามที่จะทำลายนโยบายทั้งหมดของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับยูเครนเท่านั้น แต่มันยังทำให้เกิดคำถามถึงอนาคตของสหภาพยุโรปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทรัมป์ชนะเลือกตั้งซึ่งเขาตั้งใจจะสนับสนุนสิทธิของยุโรปในการกำหนดนโยบายของตัวเองโดยไม่ขึ้นกับสหรัฐอเมริกา
บทความต้นเรื่องอ้างอิงได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
2nd Apr 2024
- ■แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: The Economist>
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
