2 เม.ย. 2024 เวลา 11:03 • ประวัติศาสตร์

ยุคทองของจีนโบราณ

อาจจะเรียกได้ว่ายุค “ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty)” เป็นยุคที่เรียกได้ว่าเป็น “ยุคทอง” แห่งประวัติศาสตร์จีน
ราชวงศ์ถังนั้นปกครองปกครองประเทศจีนตั้งแต่ค.ศ.618-907 (พ.ศ.1161-1450) และเป็นช่วงเวลาที่ศิลปะ กาพย์ กลอนต่างๆ รุ่งเรือง มีการพัฒนาการพิมพ์และนวัตกรรมต่างๆ เช่น ดินปืน ซึ่งช่วยเปลี่ยนประวัติศาสตร์โลก
ตลอดช่วงเวลาของราชวงศ์ถัง ศาสนาพุทธนั้นได้แทรกซึมเข้ามาในระบอบการปกครอง และถึงแม้ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงเวลาที่รุ่งเรืองในหลายๆ ด้าน แต่ก็มาถึงจุดสิ้นสุดในที่สุด
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร? มีจุดเริ่มต้นและจุดจบอย่างไร?
ลองมาหาคำตอบกันครับ
หลังจากที่ “ราชวงศ์ฮั่น (Han Dynasty)” ล่มสลายในปีค.ศ.220 (พ.ศ.763) สี่ศตวรรษต่อมานั้นก็เป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความรุนแรง รบราฆ่าฟัน เกิดขุนศึกต่างๆ และการรุกรานจากชนต่างชาติ
ต่อมา “ราชวงศ์สุย (Sui Dynasty)” ได้ปราบปรามขุนศึกก๊กต่างๆ และรวบอำนาจได้สำเร็จ ปกครองแผ่นดินจีนตั้งแต่ค.ศ.581-618 (พ.ศ.1124-1161) และได้ดำเนินการปรับปรุงด้านต่างๆ มากมาย ทั้งขุดคลองใหญ่เชื่อมที่ราบทางตะวันออกกับแม่น้ำทางเหนือเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังมีการปรับปรุง “กำแพงเมืองจีน (Great Wall of China)”
แต่การปรับปรุงขนานใหญ่นี้ก็ไม่ใช่ว่าจะได้มาฟรีๆ ชาวนาต่างถูกขูดรีดภาษีอย่างหนักและถูกบังคับใช้แรงงาน ซึ่งหลังจากราชวงศ์สุยครองอำนาจมาได้นาน 37 ปี ราชวงศ์สุยก็ล่มสลายเนื่องจากการจลาจลของประชาชนที่ทนไม่ไหวหลังจากที่จีนแพ้สงครามต่อเกาหลี
ท่ามกลางความวุ่นวาย “ตระกูลหลี่ (Li Family)” ได้เข้ายึดอำนาจและก่อตั้ง “ราชวงศ์ถัง (Tang Dynasty)”
ในปีค.ศ.618 (พ.ศ.1161) “หลี่หยวน (Li Yuan)” ได้ปราบดาภิเษกเป็น “จักรพรรดิถังเกาจู (Emperor Gaozu of Tang)” ปฐมกษัตริย์ราชวงศ์ถัง และยังคงนำนโยบายและการปกครองแบบราชวงศ์สุยมาใช้
หลังจากนั้น “เจ้าชายไทจง (Taizong)” พระราชโอรสของพระองค์ได้สังหารพระพี่น้องและพระราชนัดดา ก่อนจะบังคับให้จักรพรรดิถังเกาจูสละราชสมบัติ และสถาปนาองค์เป็น “จักรพรรดิถังไทจง (Emperor Taizong of Tang)” ในปีค.ศ.626 (พ.ศ.1169)
จักรพรรดิถังเกาจู (Emperor Gaozu of Tang)
และยุคทองของจีนจึงได้เริ่มต้นขึ้นจริงๆ
จักรพรรดิถังไทจงทรงปฏิรูประบอบรัฐบาลทั้งในส่วนของรัฐบาลกลางและรัฐบาลของแต่ละแว่นแคว้น ทำให้มีขนาดเล็กลง ซึ่งทำให้ประหยัดเงินงบประมาณได้มาก มีเสบียงตุนไว้พอสำหรับกรณีที่เกิดภาวะอดอยาก อีกทั้งยังสามารถช่วยเหลือชาวนาชาวไร่ได้หากเกิดภาวะน้ำท่วมหรือภัยธรรมชาติต่างๆ
พระองค์ยังจัดตั้งระบบที่โยกย้ายทหารที่มีความรู้ไปอยู่ในภาคขุนนาง และพระองค์ยังทรงจัดตั้งระบอบสอบเข้ารับราชการ โดยวิธีการนี้จะทำให้ได้คนเก่งที่มีความรู้ความสามารถ ไม่ใช่ได้แต่คนจากตระกูลที่เส้นสายใหญ่โตแต่ไม่มีความสามารถ
จักรพรรดิถังไทจง (Emperor Taizong of Tang)
นอกจากนั้น พระองค์ยังสามารถยึดครองส่วนหนึ่งของมองโกเลียได้ และสนับสนุนการสำรวจเส้นทางสายไหม โดยในรัชสมัยของพระองค์ ประชาชนอยู่ดีกินดี อีกทั้งยังมีการพัฒนาระบบการพิมพ์และคิดค้นดินปืน
จักรพรรดิถังไทจงสวรรคตในปีค.ศ.649 (พ.ศ.1192) และพระราชโอรสของพระองค์ นั่นคือ “เจ้าชายหลี่จื้อ (Li Zhi)” ก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็น “จักรพรรดิถังเกาจง (Emperor Gaozong of Tang)”
หนึ่งในนางสนมของจักรพรรดิถังไทจงคือ “บูเช็กเทียน (Wu Zetian)” และจักรพรรดิถังเกาจง รัชกาลใหม่แห่งราชวงศ์ถังก็ทรงหลงรักบูเช็กเทียนอย่างหนัก และทรงมีรับสั่งให้บูเช็กเทียนอยู่ข้างพระองค์ตลอดเวลา
จักรพรรดิถังเกาจง (Emperor Gaozong of Tang)
บูเช็กเทียนได้ทำให้จักรพรรดิถังเกาจงหลงอย่างหนักจนทรงลืมพระมเหสีและหญิงอื่น และเมื่อถึงปีค.ศ.660 (พ.ศ.1203) บูเช็กเทียนก็ได้อำนาจ ออกว่าราชการต่างๆ แทนจักรพรรดิถังเกาจงที่ทรงพระประชวร
ภายใต้การบริหารของบูเช็กเทียน มีการเปิดเส้นทางการค้าทางบกหลายเส้นทาง ทำให้การค้ารุ่งเรืองอย่างมาก โดยสินค้าที่สำคัญก็เช่น ผ้าต่างๆ แร่ และเครื่องเทศ ซึ่งความรุ่งเรืองทางการค้านี้ก็ทำให้วัฒนธรรมและสังคมของจีนมีการปรับเปลี่ยนไปด้วย
บูเช็กเทียนยังส่งเสริมสิทธิสตรี ทำให้ประชาชนนิยมบูเช็กเทียนเป็นอย่างมาก และเมื่อจักรพรรดิถังเกาจงสวรรคตในปีค.ศ.683 (พ.ศ.1226) บูเช็กเทียนก็ยังคุมอำนาจผ่านพระราชโอรสทั้งสอง ก่อนจะตั้งตนเป็นจักรพรรดินีในปีค.ศ.690 (พ.ศ.1233)
บูเช็กเทียน (Wu Zetian)
หากแต่ความรุ่งเรืองของพระนางบูเช็กเทียนก็อยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากต่อมาพระองค์ก็ถูกบังคับให้สละราชสมบัติ ก่อนจะสวรรคตในปีค.ศ.705 (พ.ศ.1248)
หลังจากนั้น พระราชนัดดาของพระองค์ก็ได้ขึ้นเป็น “จักรพรรดิถังเสวียนจง (Emperor Xuanzong of Tang)” และก็ได้มีการปฏิรูปขนานใหญ่
ในรัชสมัยของจักรพรรดิถังเสวียนจงในระหว่างค.ศ.712-756 (พ.ศ.1255-1299) เป็นช่วงเวลาที่จีนเปิดรับวัฒนธรรมด้านต่างๆ จากต่างแดนเป็นจำนวนมาก มีการเปิดรับวัฒนธรรมจากอินเดีย และพระองค์ยังทรงเปิดรับให้นักบวชจากศาสนาพุทธและลัทธิเต๋าเข้าทำงานในราชสำนัก โดยเมื่อถึงปีค.ศ.845 (พ.ศ.1388) ก็มีพระจากศาสนาพุทธทั่วราชอาณาจักรกว่า 360,000 รูป
จักรพรรดิถังเสวียนจง (Emperor Xuanzong of Tang)
นอกจากนั้น ด้านดนตรีและบทกวีก็รุ่งเรือง มีการส่งเสริมคนเก่งมีความสามารถจำนวนมาก หากแต่จุดจบความรุ่งเรืองก็มาถึง
จักรพรรดิถังเสวียนจงทรงตกหลุมรักนางสนมที่มีนามว่า “หยางกุ้ยเฟย (Yang Guifei)” และก็ทรงตกหลุมรักซะจนไม่เป็นอันทำอะไร ไม่สนพระทัยในราชกิจการงาน ไม่ทรงออกว่าราชการ และยังทรงแต่งตั้งครอบครัวของหยางกุ้ยเฟยให้มีตำแหน่งระดับสูงในราชการ
เมื่อเป็นเช่นนี้ ขุนศึกจากทางเหนือที่ชื่อ “อันหลู่ซาน (An Lushan)” จึงก่อกบฏ ทำให้จักรพรรดิถังเสวียนจงต้องสละราชสมบัติ ส่งผลให้อาณาจักรจีนอ่อนแอและต้องเสียดินแดนทางตะวันตกเป็นจำนวนมาก สูญเสียชีวิตผู้คนนับล้าน โดยบางแหล่งข้อมูลก็กล่าวว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตนั้นสูงถึง 36 ล้านคน ซึ่งเท่ากับ 6% ของประชากรโลกในเวลานั้น
และตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 9 ราชวงศ์จีนก็เริ่มเสื่อมถอย เกิดการแย่งชิงอำนาจไปมา รัฐบาลกลางอ่อนแอ แผ่นดินแตกแยกเป็นแว่นแคว้นต่างๆ
อันหลู่ซาน (An Lushan)
และหลังจากความเสื่อมถอยในแผ่นดินจีนตั้งแต่ราวค.ศ.880 (พ.ศ.1423) ผู้รุกรานจากทางเหนือก็ได้รุกรานและทำลายราชวงศ์ถังรวมทั้งยุคทองของจีนโบราณ
นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์ช่วงหนึ่งของความรุ่งเรืองและเสื่อมถอยของแผ่นดินจีน
โฆษณา