2 เม.ย. เวลา 15:41 • การศึกษา

Our First Meet.

สวัสดีครับ
นี่เป็นโพสต์แรกของเพจนี้ อย่างแรกผมก็ต้องแนะนำตัวเองก่อนนะครับ สำหรับใครที่ไม่รู้จักผม ผมชื่อ "โอห์ม" นะครับ หรือจะเรียก โอม ก็ได้ สำหรับเพจนี้ผมอยากจะเอาไว้แชร์ประสบการณ์ของตัวเองเอาไว้ครับ จริงๆก็เห็นว่าสร้างรายได้ได้ด้วยก็เลยสนใจขึ้นมา5555 อีกอย่างก็เหมือนมีที่เอาไว้ระบายด้วยก็เลยยิ่งสนใจขึ้นมาน่ะครับ เอาเป็นว่าวันนี้เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่าครับ สำหรับเรื่องแรกที่ผมอยากเล่าเลยก็คือ.....
การเรียนใน ม.ปลาย
Ohm
เนื่องจากว่าปีนี้ผมเรียนจบ ม.6แล้วววว ก็เลยอยากจะมาเล่าเรื่องนี้ให้ทุกๆคนได้ฟังกันถือว่าแชร์ประสบการณ์ไปในตัวนะครับ เรื่องนี้ต้องย้อนไปประมาณ 3 ปีที่แล้ว ผมยังจำตัวเองได้ครับว่าตอนนั้นผมเป็นเด็กอายุ 15 ตอนนั้นก็กำลังจะเรียนจบม.3 ซึ่งผมก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วยแล้วก็ซึมๆไปด้วย ตอนนั้นมีเหตุการณ์ต่างๆมากมายเลยครับที่เกิดขึ้นในชีวิตผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว เรื่องการเรียน แล้วก็มีเรื่องเงินเข้ามาอีก.... ในตอนนั้นผมค่อนข้างจะเศร้าเลยล่ะครับ
แต่ผมก็ฮึดกลับมาได้! ตอนนั้นต้องขอบคุณเพื่อนๆที่คอยซัพพอร์ตกันมาจริงๆครับ การมีเพื่อนเอาไว้ระบายปัญหาของเราหรือการมีคนที่คอยรับฟังเรา มันดีจริงๆครับ ทีนี้ผมได้โควตาในการต่อม.4ที่ รร เดิมโดยไม่ต้องไปสอบแข่งกับเด็กที่จะเข้ามาใหม่ มีข้อแม้คือว่าเกรดเฉลี่ยรวมของผมต้องไม่ต่ำกว่า 2.5 ซึ่งผมสบายๆอยู่แล้ว พอถึงเวลาเลือกสายที่ต้องเรียนมันก็ลำบากใจอยู่นิดๆนะครับ
การเลือกสาย
Ohm
เรื่องนี้มันก็มีสตอรี่ของมันนะครับ ผมจะเล่าให้ฟัง คือว่า ในตอนแรกนั้นก่อนที่ผมจะตัดสินใจต่อสามัญ ผมก็เล็งๆฝั่งอาชีพเอาไว้บ้าง พอดีตระกูลผมตั้งแต่ปู่เป็นช่างมาสายนี้กันผมดเลย มีผมนี่แหละที่แหวกแนวออกมาจากตรงนั้น ก็รู้สึกผิดอยู่นิดๆครับ 😓😓 แต่ก็นะผมไม่ได้ถนัดของแบบนั้น ผมเลยเลือกที่จะขอต่อสามัญดีกว่า
และแล้วเวลานั้นก็มาถึงครับ เวลาที่ผมจะต้องเลือกสาขา/แผน ที่จะเรียน ตอนนั้นในใจผมมี 2 แผนคือ
  • วิทย์-คณิต (สายสุดฮิตที่บ้านไหนก็อยากให้ลูกเรียน)
  • ภาษา-สังคม (สายที่เป็นรองลงมาส่วนใหญ่คนที่เรียนสายนี้จะถนัดภาษาและเกลียด วิชาคำนวณกับวิทยาศาตร์มาอยู่แล้วในความคิดผมนะ)
ในตอนนั้นบอกได้เลยว่าผมเทใจแบบ 60(วิทย์-คณิต)/40(สังคม) ที่ผมเทใจให้สังคมไป เป็นเพราะผมชอบประวัติ/สังคม อย่แล้ว บวกกับอยากเรียนรัฐศาสตร์ IR(ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ)อีก แต่ที่ผมต้องหยุดชะงักก็เพราะว่ามันมีเรียนภาษาจีน! เป็นภาษาจีนแบบเข้มข้นซะด้วย ซึ่งพื้นเดิมผมเกลียดวิชานี้เข้าไส้อยู่แล้วล่ะครับ5555 ด้วยแบบนั้นผมก็เลยเลือกที่จะปล่อยไปดีกว่า แล้วก็มาจบที่วิทย์-คณิต(แผนนี้พ่อกับแม่อยากให้เรียนด้วย) ผมก็เลยแบบเห้อ เอาก็เอาวะ 😒😒
ต้องบอกก่อนว่าพื้นเดิมผมก็จบวิทย์-คณิตมาในช่วงม.ต้น แต่ตอนนั้นผมรู้สึกเซ็งๆกับปัญหาชีวิตอยากลองเรียนอย่างอื่นที่เราสนใจมันดู แต่สุดท้ายก็กลับมาเรียนแผนนี้อยู่ดี ก็จนมาถึงวันที่ผมได้เลือกห้อง(ไม่รู้ที่อื่นมีไหมแต่ผมเลือกห้องลงได้)นั่นแหละครับเป็นครั้งแรกนับจากตอนป.6ที่ต้องอยู่อยกห้องกับเพื่อนก็รู้สึกเสียใจอยู่นะครับแต่ว่าอยู่คนเดียวมันก็ได้อะไรใหม่ๆมาเหมือนกันอย่างเพื่อนใหม่ๆ ได้ทำความรู้จักกับคนรอบข้างใหม่ๆ สังคมใหม่ บอกตามตรงช่วงแรกผมปรับตัวไม่ทันเลยครับ ช่วงนั้นผมแย่จริงๆ
ปัญหาตอนเรียนม.ปลาย
ปัญหาเลยคือผมดันได้เป็นหัวหน้าห้องซะงั้น ไม่รู้ด้วยเหตุผลอะไรมันทำให้ผมรู้สึกหนักอึ้งกับภาระงานอะครับ แต่ตอนนั้นยังดีที่เป็นช่วงโควิด ทำให้ผมกระจุกอยู่แต่หน้าคอมไม่ต้องไปวิ่งเอางานอะไรแบบที่หัวหน้าห้องเขาทำตอนอยู่ รร กัน แต่ผมก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ภายในใจด้วย คงจะเป็นเพราะเรื่องที่บ้านที่ตอนนั้นเศรษฐกิจของเราไปได้ไม่ค่อยดีเลย รถก็ถูกยึด ตอนนั้นเราแย่จริงๆครับ ผมทำใจรับไม่ได้ ผมยังเสียใจมาจนถึงตอนนี้เลย เหตุผลนี้เป็นเหตุผลหลักๆเลยครับที่ทำให้ ม.ปลายของผมมันขมมาก
ช่วงม.4 มันก็จะมีเรียนแบบที่ รร บ้างกับออนไลน์บ้าง สลับกันไปมา คุณเชื่อไหม ผมไม่ส่งงานอะไรเลย ผมเข้าเรียนเฉพาะช่วงที่อยากเข้า วิชาที่อยากเรียน แล้วก็ส่งเฉพาะงานที่อยากทำ ตอนนั้นยัง hurt กับเรื่องพวกนี้อยู่น่ะครับ ก็แย่เอาการเลย มีโดดเรียน มีเข้าห้องปกครอง บลาๆๆ มันก็เซ็งๆอะครับช่วงนั้น จะว่าไปผมก็คิดถึงตัวเองในตอนนั้นนะว่าเรานี่ก็กล้าเนาะ ที่ทำแบบนั้น หากย้อนเวลาไปได้ ผมก็คงจะทำอยู่ดีแหละครับ55555 รู้สึกสบายใจนะครับที่ได้โดดเรียน ข้ามวิชาที่ตัวเองไม่ชอบ ใช้เวลาไปทำอย่างอื่นแทน
ช่วงม.5-6 ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ได้เรียนที่ รร ครับ จริงๆก็เรียนมาตั้งแต่ม.4 เทอมที่ 2 แล้วซึ่งช่วงนี้เนี่ยจะเป็นชาวงที่ผมเลยระยำที่สุดเลยครับว่าไปแล้วก็มาพูดถึงช่วงนี้เป็นหัวข้อแยกดีกว่าครับ
ประสบกาณ์แย่ๆตอนม.ปลาย
ต้องเริ่มจากตอนปิดเทอม ม.4 เลยครับน่าจะปิดเทอม 2 ผมเนี่ยตอนนั้นเศร้ากับเกรดตัวเองอยู่ ผมติด 0! ไม่เคยติด 0 มาก่อนในชีวิต เป็น 0 ตัวแรกเลยครับแล้วมันก็มาหลายวิชาด้วย ตอนนั้นก็ท้อๆไปอะครับ เรื่องนี้ผมจะไม่ค่อยบอกพ่อกับแม่ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่จริงๆ สำหรับในตอนนั้นผมก็ทำงานแก้ 0 ไปตามปกติจนส่งผ่าน แต่มีอยู่หนึ่งตัวที่ผมไม่ได้แก้คือ มผ.จิตอาสา ของผมจะเป็นเรื่องคะแนนบัตร ผมโดดเรียนบ่อยถูกหักไปเยอะจนติด การแก้ก็ไม่ยากครับแค่ไปติดต่อขอแก้ที่ห้องปกครอง แล้วก็จะได้เป็นงานจิตอาสาไปทำ
ตอนนั้นผมไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ครับว่าผมติด เพราะถ้าเขาถามหาเหตุผลว่าติดได้ไงเขาก็จะสาวไปรู้เข้าว่าผมมโดดเรียน คือเขาไม่รู้ว่าผมโดดเรียนครับ รู้แค่ว่าผมไม่ส่งงานเกรดเลยแย่ ด้วยเหตุนี้ผมก็เลยไม่กล้าบอกเขา ซึ่งผมเหยียบเรื่องนี้ไว้จนถึงม.6เทอมสุดท้ายผมก็ไปแก้เพราะมันจะไม่จบ สุดท้ายผมก็ต้องบอกแม่ไปว่าเพราะอะไร หุๆ แต่ในช่วงที่ไม่ได้แก้ ผมรู้สึกทุกข์ร้อนใจมาก และมันก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมได้รู้จักเหล้าเป็นครั้งแรก
แต่สุดท้ายแล้วผมก็เรียนๆเล่นๆจนจบมาได้ครับ มาขยันเอาเทอมสุดท้ายซึ่งเกรดเฉลี่ยรวมมันก็อยู่ที่ 2.xx ซึ่งผมก็พอใจครับเพราะเกรดนี้มันก็มีที่มาจากตัวผมเอง แต่ก็ว่านะ เกรดต่ำเตี้ยแบบนี้ผมก็ยังติดมหาลัยนะ555 ก็ไม่รู้ว่าสอบ TGAT แล้วคะแนนมันออกมาเยอะจัง โชคดีด้วยที่มหาลัยนั้นใช้แค่ TGAT ยื่นเข้ารอบโควตา ตอนนั้นผมมีโควตาภาคตะวันออกเฉียงเหนืออยู่ผมก็เลยยื่นจนติด IR นั้นแหละครับ HOORAYYYYYY!🎉🎉 ตอนนี้ก็รอไปรายงานตัวครับ ชีวิตมหาลัยกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!!
ผมก็ตกใจนะที่ผมจบม.6 มาได้ แปลกดีจริงๆ ไม่คิดว่าจะจบเลยครับ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้กับรุ่นน้องทุกๆคนที่กำลังเรียนอยู่นะครับ ขอให้ประสบการณ์ของผมเป็นบทเรียนให้ใครหลายๆคนนะครับ สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ พูดออกมาเยอะเกิน5555 ยังไงก็ ขอให้ทุกๆคนโชคดีนะครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบ ไว้วันหลังถ้าผมยังไม่ท้อแท้หรือโมโหไปซะก่อนก็ไว้จะมาเล่าอีกนะครับ รอบหน้าคงจะเป็นเรื่องการเข้ามหาลัยแล้วแหละ ไว้เจอกันนะครับ
บ๊าย บายจ้า~~~~
ヾ(•ω•`)o
โฆษณา