3 เม.ย. เวลา 08:40 • ไลฟ์สไตล์

วิธีเหล่านี้จะไม่ทำให้คุณตกเป็นเหยื่อของการถูก Gaslighting (การถูกปั่นหัว) อีกเลย

Gaslighting คือ การกดขี่ทางอารมณ์หรือความรู้สึกในรูปแบบหนึ่งที่ส่งผลไปสู่การควบคุมจิตใจของอีกฝ่าย เป็นการที่ใครบางคนพยายามใช้คำพูดหรือการกระทำเพื่อปั่นหัว ทำให้ใครอีกคนรู้สึกสับสนในตัวเอง ทำให้ตั้งคำถามกับการกระทำของตนเอง เกิดความไม่มั่นใจว่าสิ่งที่ตนทำนั้นถูกหรือผิด จนกระทั่งเชื่ออย่างสนิทใจว่าตนเองเป็นฝ่ายผิด และมีความเข้าใจผิดๆ ซึ่งการ Gaslighting นั่นเป็นสิ่งที่หลายคนประสบพบเจอ โดยรายงานของตำรวจได้เปิดเผยเอาไว้ว่า 95% ของผู้คนที่ถูก Gaslighting นั้น เป็นผู้หญิง
จริงๆแล้วการจะรับมือเมื่อเราถูก Gaslighting นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เหล่านักจิตวิทยาก็ได้รวบรวมวิธีการโต้ตอบหรือการแสดงออกที่จะช่วยให้คุณหลุดจากสถานการณ์เลวร้ายนั้นได้
เมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังทำการ Gaslighting คุณ ให้คุณพยายามประเมินสถานการณ์และเลือกตอบโต้ไปว่า “ฉันยังไม่มีอารมณ์ที่จะมาเถียงกับคุณ” “ เราคุยกันจบเพียงเท่านี้” หรือ “คุณไม่สามารถบอกได้หรอกว่าฉันรู้สึกอะไร” การโต้ตอบเหล่านี้จะช่วยให้เปอร์เซ็นที่คุณจะถูก Gaslighting นั้นน้อยลง
แต่ในบรรดาการตอบโต้ทั้งหมด มีประโยคที่ได้ผลดีที่สุด นั่นก็คือ “ฉันว่าเราสองคนคิดต่างกันนะ” ยกตัวอย่างเช่น แบร์รี่เดินชนโต๊ะทำงานของแอนนา จนแก้วกาแฟบนโต๊ะแอนนาหกใส่คอมพิวเตอร์ของเธอ ทำให้เธอไม่สามารถทำงานที่ต้องส่งภายในวันนั้นได้ทัน แอนนาต้องการคำขอโทษจากแบร์รี่ แบร์รี่ได้กล่าวขอโทษ แต่เขาก็พูดเสริมอีกว่า ก็เพราะแอนนานั่นแหละที่วางแก้วกาแฟไว้ตรงนี้เอง เขาเลยเดินชน
ถ้าแอนนาตกเป็นเหยื่อของการ Gaslighting จากแบร์รี่ แอนนาก็จะตั้งคำถามกับการกระทำของตนเอง และทำให้เธอเข้าใจว่าเธอเป็นคนผิดจากเหตุการณ์นี้ แต่ถ้าแอนนาสามารถประเมินสถานการณ์ได้ดี และรับรู้ว่าไม่ใช่ความผิดของตนแต่อย่างใด แอนนาก็จะตอบแบร์รี่ไปว่า “ฉันว่าเราสองคนคิดต่างกันนะ เพราะฉันมั่นใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของฉัน” จะเห็นได้ว่าแอนนาปกป้องตัวเองได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
นี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างสถานการณ์ที่เห็นได้ชัดเจน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วนั้น การ Gaslighting ในบทสนทนาค่อนข้างซับซ้อนมากกว่านี้ จนทำให้คนที่ตกเป็นเหยื่อนั้นไม่สามารถประเมินสถานการณ์ตรงหน้าได้ และส่งผลให้พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างไร และเหยื่อส่วนมากมักจะโดน Gaslighting จากคนที่ตนรักหรือนับถือโดยง่าย
ทุกคนล้วนเคยเป็นเหยื่อของการถูก Gaslighting แต่ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็อาจจะเคย Gaslighting ผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวเช่นกัน เพราะการ Gaslighting มักแฝงอยู่ในการกระทำหรือคำพูดเล็กๆน้อยๆเสมอ จนทำให้อีกฝ่ายไม่รู้ตัวว่ากำลังโดน Gaslight อยู่ แม้แต่ผู้พูดเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยเช่นกัน
การ Gaslighting นั้นไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ นอกจากจะทำให้อีกฝ่ายไม่มีความมั่นใจในตัวเองแล้ว จะทำให้ผู้ที่ชอบ Gaslighting ไม่มองเห็นความผิดของตนเอง ส่งผลไปสู่การอยู่ร่วมกับผู้อื่นยากขึ้นด้วย ทางที่ดีที่สุดคือเมื่อผิดก็ยอมรับผิดและขอโทษออกไปอย่างจริงใจจะดีกว่านะ
โฆษณา