4 เม.ย. เวลา 12:17 • ไลฟ์สไตล์

ศักยภาพที่ถูกซ่อนเร้น

เคยเจอปัญหาที่ข้ามไม่ได้กันรึป่าว? เป็นปัญหาที่ดูใหญ่เกินตัวแบบมากๆ แค่มองเฉยๆก็ทำเอารู้สึกหมดหวังและท้อใจ
ผมเชื่อว่าใครๆก็เคยสัมผัสกับความรู้สึกตายซากแบบนั้นกันมาทั้งนั้น โดยมันก็จะมีตั้งแต่ปัญหาที่อาจไม่ได้ส่งผลกับชีวิตมาก ไปจนเป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตข้างหน้าแบบสุดๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นปัญหาแบบเล่นเกมแล้วผ่านบอสตัวนี้ไปไม่ได้กับปัญหาแบบหางานหรือเข้าเรียนตามที่คาดหวังไม่ได้ ซึ่งถึงมันอาจจะเป็นคำพูดที่ดูจะตบหัวไปหน่อยแต่เอาน่า ไม่ตายหรอกปัญหาแค่นี้เอง~
แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่ามันจะเป็นปัญหาที่เล็กหรือใหญ่ทุกปัญหามีทางแก้เสมอแค่คุณจะหามันเจอมั้ยเท่านั้นเอง แต่แน่นอนปัญหาแบบเฉพาะจุดแบบนี้นั้นมันก็อาจจะไม่ได้มีทางเลือกให้แก้มากนัก
เพราะงั้นสุดท้ายก็จะวนมาที่ปัญหาเดิมคือแก้ไขปัญหาไม่ได้ซึ่งก็คงจะต้องวนมาดูที่ตนเอง ว่าเหตุผลที่แก้ไม่ได้มันอาจจะไม่ใช่วิธีการแต่อาจจะเป็นที่ศักยภาพของตัวเราเองรึป่าว? ที่ด้อยเกินไป
แต่อย่าพึ่งเศร้าหมองไปเพียงเพราะว่าแก้ปัญหาตรงหน้าไม่ได้ให้สูดหายใจเข้าแอ่นหลังให้ตรงแล้วลองเผชิญหน้ากับปัญหาดูอีกครั้ง หากขาดซึ่งความเชื่อมั่นในตัวเองไปแล้วคุณก็ไม่มีทางที่จะแก้ไขปัญหาได้หรอก
มนุษย์มีสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวมากมายและแน่นอนนั้นคือศักยภาพที่เรานั้นไม่อาจรู้ และแน่นอนการที่จะดึงเอาสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวออกมาได้ สิ่งแรกคือเชื่อในตัวเอง
แต่แน่นอนแค่เชื่อว่าทำได่มันก็ไม่ได้ทำให้คุณเก่งขึ้นหรอกจริงมั้ยละ? สภาพแวดล้อมก็เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์คนนึงสามารถดึงเอาศักยภาพที่ซ่อนเร้นออกมาได้
ความเครียดในปริมาณที่เหมาะสม สถานการณ์ที่ไม่มีคำว่าทำไม่ได้ไม่ทำแต่เป็นต้องทำและทำให้ได้อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ความกดดันในระดับที่ทำให้มนุษย์รู้สึกได้ถึงคำว่าอันตรายต่อชีวิต จะทำให้มนุษย์แสดงศักยภาพของตัวเองออกมา
และสุดท้ายก็คงไม่ต้องบอก มันคือการหาวิธีที่ถูกต้องในการแก้พขปัญหา ปัญหาสักปัญหานึงมันจะแก้ไม่ได้นะมันไม่มีหรอก เพราะถ้าวิธีของคุณถูกต้องละก็ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอจะออกมาแน่นอน
และแน่นอนว่าวิธีในการแก้ปัญหาก็จะต้องสอดคล้องกับความสามารถของตัวเองด้วย เช่นถ้าคุณอยากที่จะสอบให้ได้คะแนนดีละก็คุณก็ต้องเข้าใจระดับของตัวเองซะก่อนว่าคุณถนัดอะไรไม่ถนัดอะไร
อย่างเช่นคุณเป็นคนที่เก่งคณิตมากแต่อ่อนวิชาอื่นโดยเฉพาะภาษาอังกฤษและเหลือเวลาอีกแค่1เดือนก่อนสอบ คุณอาจจะเลือกที่จะพยายามทั้งหมดเลยแต่นั้นมันคนจับปลาสองมือชัดๆ
อย่างที่บอกว่าวิธีการแก้ปัญหาจำเป็นต้องสอดคล้องกับศักยภาพของตัวเราเองด้วยการจับปลาสองมือแบบนั้นโดยไม่เข้าใจถึงความสามารถของตัวเองในเวลาเพียงสั้นๆนะ ต่อให้จะเชื่อมั่นในตัวเองแค่ไหนมันก็เป็นไปได้ยากที่จะสำเร็จ
เพราะงั้นหากเลือกที่จะเอาชีวิตที่เหลือ1เดือน มาพยายามกับวิชาอื่นให้มันได้เกินมาตรฐานมานิดหน่อยแล้วถ้าเวลาเหลือก็มาติวอังกฤษจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
การเลือกที่จะเอาทุกอย่างไม่ได้แย่นะ แต่เวลาเพียง1เดือนกับอีก10วิชาที่ไม่ถนัดมันยากเกินไปที่มนุษย์จะทำให้มันเป็นจริงได้ถ้าไม่ใช่คนที่เก่งจริงๆ แต่ถ้าเก่งจริงๆก็คงไม่จำเป็นต้องอยู่ในจุดที่ต้องมาพยายามในวินาทีสุดท้ายแบบนี้หรอก
เพราะงั้นก็ทำในสิ่งที่ตนทำได้หาวิธีที่ดีที่สุดในการพัฒนาตัวเองและวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาซึ่งเหมาะกับตัวเอง และสุดท้ายคือเชื่อตนทำได้ แต่เป็นเชื่อที่ไม่ใช่เชื่อแบบไม่มีหลักฐาน
ต้องรู้จริงว่าตนทำได้ผ่านมาฝึกฝนหรือการประเมินตนเองซ้ำๆ เข้าใจถึงความสามารถในตอนนี้ของตัวเอง ทำให้จากคำว่าเชื่อเป็นรู้ว่าทำได้ ถึงได้เชื่อ!
โฆษณา