5 เม.ย. เวลา 12:01 • ประวัติศาสตร์
1. สายปฏิบัติพระกรรมฐาน เรามองว่าต้องเป็นครูบาอาจารย์ที่เคร่งครัดในพระวินัย จึงจะเข้าถึงพระกรรมฐานได้จริงๆ และหากเป็นผู้ปฏิบัติมามาก จะสามารถทรงในอารมณ์ได้ดี ไม่ว่าจะอยู่ในสภาวะใด เหตุนี้เราจึงเลื่อมใสศรัทธาหลวงปู่ชา หรือพระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) เวลาที่เราฟังเสียงท่านบรรยายธรรม เรารู้สึกได้ถึงความเย็นใสเบาสบาย ลองสังเกตดูก็ได้ว่า ท่านไม่เคยแสดงอารมณ์ด้านลบ เกรี้ยวกราด ตวาดด่าใดๆ เราสัมผัสได้ถึงเมตตาจิตของท่าน จากภายในสู่ภายนอกเลยทีเดียวค่ะ สุขภาพจิตท่านแข็งแกร่งมาก!
2
2. สายปริยัติแน่นหนา ที่เอกอุหาตัวจับยากคือ ท่านศจ.พิเศษ สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) เราตั้งข้อสังเกตเวลาที่ท่านอรรถาธิบายพระธรรมคำสั่งสอนจากพระไตรปิฏก ท่านมีชั้นเชิงในการหยิบวรรคโน่นมาขยายความวรรคนี้ ทำให้รู้ว่าท่านคือหนอนหนังสือตัวจริง และในหลายๆครั้ง ท่านแยกแยะให้เห็นพุทธแบบวิทยาศาสตร์ และแบบที่วิทยาศาสตร์ยังเข้าไม่ถึง และสรุปจบด้วยการสอนคนพุทธ ว่าจะวางท่าทีอย่างไรให้เหมาะควร ท่านละเอียดปราณีตมากค่ะ
2
3. สายประวัติศาสตร์ศาสนา มานุษยวิทยา ประวัติพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลักฐานทางโบราณคดี และการวิเคราะห์เรื่องราวทางอภินิหารต่างๆ ที่แทรกซึมอยู่ในพุทธประวัติ ว่ามีรากเหง้าที่มาจากอะไร ต้องเป็นท่านอนิลมาน หรือ ดร.พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) นี่เลยค่ะ พระสังฆราชเจ้าองค์ก่อน ทรงประทับใจและเอ็นดู ด้วยเหตุที่ท่านเกิดในตระกูลศากยวงศ์ พูดจาเฉลียวฉลาด จึงทรงนำมาอุปถัมภ์และให้ทุนเล่าเรียนจนจบ Ph.D. พร้อมทั้งรับสั่งท่านอนิลมาน ว่าให้ทำหน้าที่เผยแพร่และสอนประวัติศาสตร์พุทธศาสนาโดยเฉพาะค่ะ
1
เราต้องการเจริญ ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ให้เต็มที่มากที่สุด เข้าใจถูกที่สุด ปฏิบัติได้ถูกต้องที่สุด
ก็เลยจะต้องหาที่สุดในยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่นี่แหละค่ะ
1
โฆษณา