ระวังขยะ EV….
วันก่อนผมได้ฟังนักวิเคราะห์ท่านหนึ่งทางยูทูป
ท่านว่า ไทยจะล้าหลัง
และเป็นประเทศสุดท้ายที่ผลิตเครื่องสันดาป
จากนั้นพี่แกก็ดัน EV สุดฤทธิ์ โดยเฉพาะค่ายจีน
…ท่านนี้ และยูทูปช่องนี้ ผมเชื่อว่าผู้นิยมจีนรู้จักกันดีแน่
สายอวยสุดลิ่มเลย ผมจะไม่เล่าอะไรมาก ….
แต่อยากให้ระวัง เรื่อง EV ให้มากๆ เพราะดูจะเห่อกันจัด
จนมองข้ามข้อเสีย และความเป็นจริงกันเกินไป….
ขยะ EV กำลังทะลักเข้าไทย และมันจะมีปัญหาในอนาคต
คำว่าขยะในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงว่า รถเหล่านี้คุณภาพต่ำนะ
แต่ไม่ว่าอย่างไร เราต้องยอมรับ ว่ามันคือขยะในอนาคต
ซึ่งในกรณีของ EV นั้น จะมีแนวโน้มการใช้งานที่สั้น
และไม่มีการหมุนเวียนใช้เหมือนกรณีของรถสันดาปแบบ
ดั้งเดิม จากราคาขายมือหนึ่ง ที่ไม่ต่างกับการเปลี่ยน
แบตเตอรี่มากนัก ทำให้เปลี่ยนแบตอย่างเดียว เปลี่ยนรถเลย
จะคุ้มค่ากว่า
นั่นทำให้ EV ที่ออกมาในวันนี้ มีแนวโน้มว่าจะเป็นขยะได้
ในอีกไม่ถึง 10 และไม่น่ามีการหมุนเวียนในตลาดมือสองได้
เหมือนในกรณีรถน้ำมัน
ปัญหาจะหนักสุดจาก EV จีน ที่มีราคาถูกและจะยิ่งถูกกว่านี้
เมื่อถูกยุโรปกีดกันแล้วต้องหาทางระบาย
ประกอบกับเทคโนโลยี EV นั้น ยังไม่นิ่ง การรีโมเดล
มีอยู่ตลอดเวลา เช่น การออกรุ่นใหม่เพราแบตเตอรี่พัฒนาขึ้น
คนก็ยิ่งอยากเปลี่ยน หรือเปลี่ยนบ่อยเกินความจำเป็น
ในอนาคต 10 ปีจากนี้ ไทยจะมีปัญหากับขยะเหล่านี้มาก
อย่างแน่นอน โดยเฉพาะขยะพิษจากแบตเตอรี่
มันอาจจริง ที่เหล็กหรือส่วนอื่น สามารถรีไซเคิลได้
แต่กับแบตเตอรี่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
บางคนอาจเถียงว่า เฮ้ยเขาวางแผนจัดการมาแล้ว
มีบริษัทรับทำ อะไรก็ว่าไป
แต่… จำได้ไหม ตอนแผงโซลาร์เซลล์เราก็พูดแบบนี้
แล้วตอนนี้เป็นไง บริษัทรับทำ ที่ว่าจะมาจัดการปัญหา
เจ๊งยับ เพราะทำแล้วไม่คุ้มต้นทุน จนเริ่มมีปัญหาแล้ว
แล้วแบตเตอรี่นี่ยากกว่า พิษมากกว่า
ก็แทบไม่ต้องสืบล่ะครับ ว่าอนาคตจะมีปัญหาไหม
ที่จริง ในยุโรปก็เริ่มมีปัญหาแล้ว ถึงได้ไม่สนับสนุน EV
มากเหมือนเดิม แล้วหันไปจับมือกับญี่ปุ่น เพื่อพัฒนา
ระบบไฮโดรเจน ให้สมบูรณ์
…ซึ่งมันก็ใกล้มากแล้วที่จะทำสำเร็จ….
ถ้าไทยทิ้งการผลิตรถสันดาป ถือว่าโคตรโง่ !
มันเป็นคำพูดที่เกินเลยไปมาก กับการบอกว่ารถสันดาป
แบบในปัจจุบัน จะตายในอนาคตอันใกล้
โดยเฉพาะเครื่องยนต์ดีเซล ที่ใช้กับรถเชิงพาณิชย์
มันจะอยู่กับเราไปอีกนานมาก
จุดเด่นของเครื่องดีเซล ที่ EV ไม่มีทางทดแทนได้
คือการให้แรงบิดมหาศาลในระยะทางยาวๆ
และความทนทาน เขื่อถือได้
สิ่งนี้จำเป็นมาก สำหรับการบรรทุกหนัก
ดังนั้นเครื่องยนต์ดีเซล จะเป็นรถฟอสซิลสันดาป
แบบสุดท้ายที่จะหายไปจากโลก จนกว่าจะมีอะไรมาแทนได้
ซึ่ง ปัจจุบัน มันยังไม่มี แล้วเหตุผลอะไรที่เราต้องทิ้งมันล่ะ ?
ในขณะที่การเติบโตของระบบลูกผสมอย่างไฮบริดในรถเก๋ง
ก็เติบโตขึ้นอย่างมาก เราจะเห็นได้ชัดกับการเกิดใหม่
ของ TOYOTA ที่ใครๆก็ว่าพวกเขางมโข่ง และตายแน่ๆ
แต่ปัจจุบัน พวกเขายังครองความเป็นหนึ่ง
แถมด้วยผลกำไรพุ่งพรวด สวนทางกับเทสล่า
และบริษัทอีวี ต่างๆ ที่มีแต่แนวโน้มจะลดลง
นั่นน่าจะยืนยันได้ดี ถึงการยังคงอยู่และมีทางไปต่อ
ของระบบเครื่องยนต์สันดาป โดยเฉพาะ Hydride
และรถขนส่งจำพวกดีเซล ….
ถาพ Nikkei
มันอาจจริง ที่รถ EV จะช่วยลดมลพิษได้
หลายคนอาจงง ว่าทำไมผมไม่มองแง่สิ่งแวดล้อมบ้าง
ใช่ครับ โดยคอนเซ็ปท์เป็นแบบนั้น
แต่นั่นหมายถึงการใช้ EV ร่วมกับพลังงานหมุนเวียน
ในกรณีไทยนั้น หากเรายังต้องปั่นไฟด้วยก๊าซเป็นหลัก
แม้จะสะอาด แต่มันก็ไม่ได้ตอบโจทย์ได้ตามคอนเซ็ปท์
ของมัน และอาจเป็นผลตรงข้ามด้วยซ้ำ
เพราะเรายังต้องมองที่ถ่านหิน และไฟฟ้าจากเขื่อน
ที่เอกชนลงทุนไว้ในประเทศเพื่อนบ้านอีก ไม่งั้นไม่พอ
ลองคิดดูว่า ถ้าเราเปลี่ยนใช้อีวีกันมาก
เราก็คงต้องซื้อก๊าซมาก สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม
หรือแย่กว่านั้น คืออาจต้องมีถ่านหินเข้ามาเสริม
เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาไปผูกกับก๊าซอย่างเดียว
และสุดท้าย อาจต้องสร้างเขื่อน ซึ่งนั่นทำลายสิ่งแวดล้อม
แบบเบ็ดเสร็จมากกว่าที่เป็นเยอะ
ยังจะการมีขยะพิษมหาศาลอีก
…ลองคิดดูดีๆนะครับ ว่าสำหรับไทยแล้ว EV คือการลด
หรือเพิ่มมลภาวะกันแน่ในความเป็นจริง อย่ามองสั้นๆ
แค่คอนเซ็ปท์ของมัน เราไม่มีระบบพลังงานหมุนเวียน
ที่ดีและสะอาดเหมือนบางประเทศเขา….
สุดท้าย ผมคงต้องบอกว่า
การเข้าใจ หรือการพยายามทำให้ใครๆเข้าใจว่า
EV คือพลังงานแห่งอนาคต เพียงหนึ่งเดียวนั้น
เป็นความผิดพลาดอย่างมาก
ในพลังงานยุคต่อไปของโลก จะมีความหลากหลาย
ขึ้นกับบริบทของพื้นที่ต่างๆ
ในทางธุรกิจหรือเศรษฐกิจ การให้น้ำหนักกับ EV มากเกินไป
ถือเป็นเรื่องที่ “โง่” เอามากๆ
และเชื่อไหม สุดท้าย EV อาจกลายเป็นเทคโนโลยีที่ล้าหลัง
ได้อย่างง่ายดาย หากวันหนึ่งไฮโดรเจนสันดาป
พัฒนาได้สมบูรณ์
…ซึ่งมันก็ใกล้มากๆแล้ว แล้วเราจะรีบตัดสินใจไปเพื่ออะไร?…
…ดูไปสักพัก ค่อยตัดสินใจดีกว่าไหม ?….
ที่จริงแล้ว สำหรับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
การทิ้งเครื่องสันดาปที่เชี่ยวชาญ แล้วมาจับ EV
มันเป็นการทิ้งปมเด่น ไปชูปมด้อยด้วยซ้ำ
มันไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดเลย ที่จะทำแบบนั้น
นอกจากวาระซ่อนเร้นหรือไม่ มันก็น่าคิด
ก็ลองคิดดูนะครับ ผู้นำเข้ารายใหญ่ EV ปัจจุบันคือใคร
ซี้กับจีนขนาดไหน และมีสายสัมพันธ์อย่างไร กับคนปั่นไฟขาย
มันจะแปลกอะไร ถ้าเขาจะจ้างใครมาพูดอะไรโง่ๆ แบบนั้น….
ปล. ปกติผมเกลียดพวกประเทศขายน้ำมัน และเชียร์พลังงานทดแทนมาตลอด แต่บทความนี้ เขียนในบริบทของสังคมไทย
เราเป็นหลัก จึงเหมือนกับเชียร์รถน้ำมัน ไม่ใช่นะครับ 😅
ภาพ ฐานเศรษฐกิจ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
