6 เม.ย. เวลา 12:07 • ไลฟ์สไตล์

ความอยุติธรรมที่ควรถูกสะสาง

มันคือหัวเรื่องที่เอาตรงคือมันก็ยากพอตัวที่จะมาพูดมันไม่ใช่เพราะมันพูดยากหรือว่าอะไร แต่มันเพราะว่ามีเยอะจนไม่รู้จะเอาอะไรมาพูดต่างหาก แต่ผมจะพยายามเค้นออกมาเท่าที่จะทำได้
ในตอนเด็กผมเคยมีความฝันด้วยละ มันก็เหมือนกับทุกคนนั้นแหละว่าอยากเป็นโน้นเป็นนี้อย่างไกลสุดก็คือเป็นนักบินอวกาศ ซึ่งก็ล้มเลิกไปอย่างง่ายดาย
หลังจากนั้นผมก็ใช้ชีวิตแบบเรื่อยๆไปจนผมเริ่มโตขึ้นระดับหนึ่ง ทุกคนรอบตัวผมก็เริ่มที่จะคาดหวังในตัวผม เริ่มบอกให้ผมทำโน้นนี้เพื่ออนาคตของตัวเองซึ่งเอาตรงไม่ว่าจะเป็นตอนนั้นหรือตอนนี้จะนึกถึงอีกกี่ที มันก็ทำเอารู้สึกปวดราว
พวกเค้าพูดเรื่องของอนาคตเรียนให้ดีเข้าเรียนในที่ดีๆ ตอนออกมาหางานจะได้หางานง่ายๆได้เงินดีๆ ซึ่งเอาตรงคือผมไม่อยากที่จะทำเพราะนั้นมันไม่ใช่แนวทางของผมเลยสักนิด
และไม่ว่าใครจะบอกว่าผมคิดน้อยเกินไปหรือยังไงผมก็ไม่เคยเปลี่ยนใจที่จะคิดแบบนั้น และมาวันนึงที่ผมเริ่มโตขึ้นความอยากรู้อยากเห็นและความขี้สงสัยของผมเพิ่มขึ้นนั้นจึงทำให้ผมตัดสินใจไปถามพวกเค้าตรงๆ
เอาตรงก็พยายามที่จะหาออกทางที่ดีที่สุดเพื่อทั้งสองฝ่ายซึ่งเอาตรงผลลัพธ์ที่ออกมามันก็ไม่ค่อนที่จะน่าพึงพอใจเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ได้มาอีกอย่างคือเหตุผลของพวกเค้าที่ว่าทำไมถึงอยากให้ผมเดินตามแนวทางที่เค้าวางไว้
เอาตรงคือผมในตอนนั้นค่อนข้างที่จะอ่ำอึ้งนะที่จะสนทนาต่อ เพราะไม่คิดมาก่อนเลยว่าศีลธรรมและจริยธรรมในตัวที่มีมาตั้งแต่ยังเล็กถูกสร้างและปั่นมากับมือ จะถูกเริ่มทำให้สั่นคลอนขนาดนี้
เค้าพูดยกตัวอย่างถึงน้าสาวของผมว่ารู้มั้ยว่าทำไมเธอถึงไม่ยกงาน? แล้วเค้าก็พูดเรื่องระดับของที่เรียนที่น้าเรียนมา เรื่องของระบบรุ่นพี่รุ่นน้องและก็บอกว่าความคิดของผมนะมันเด็กน้อยเกินไป
ผมในตอนนั้นนะอยากที่จะเป็นนักวาดมังงะเพียงเพราะว่านั้นคือพรสวรรค์เดียวที่ผมมีและมันทำให้ผมรู้สึกว่าผมมีค่าในสายตาคนอื่น แถมด้วยช่วงของGen ที่ต่างกันด้วยมันเลยทำให้พวกเราคุยกันไม่ค่อยที่จะรู้เรื่องเท่าไหร่
และพอมาจนตอนจะขึ้นม.ปลายผมดันสอบติดสำรองรร.ดังแห่งนึงซึ่งเอาตรงคือมาตรฐานโคตรสูงเลยละ อยู่ตรงอันดับที่เอาตรงก็คือครึ่ง100 ในตอนที่ได้รู้สิ่งที่แม่ผมทำอย่างแรกคือโทรไปหาคนที่รู้จักเพื่ออยากจะบอกว่า เค้าต้องการเอาผมเข้าและต้องการให้ช่วย
ก็ถึงหลังจากนั้นผมจะสอบติดได้เองด้วยความสามารถของผมและก็โชคในระดับนึงด้วยที่คนเป็นตัวจริงสละสิทธิ์โคตรเยอะคนที่เป็นสำรองเลยถูกดึงขึ้นมาจนหมดเลย แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกแปลกประหลาด
คุณธรรมเป็นสิ่งที่คนเป็นพ่อแม่สอนมาแต่แรกตั้งแต่จำความได้ แล้วสิ่งที่แม่ผมทำในตอนนั้น..มันคือคุณธรรมจริงๆอย่างงั้นหรอ? ผมรู้ว่านั้นเพื่อความอยู่รอดของอนาคตของผมแต่ ผมกำลังรู้สึกว่าความเชื่อมั่นของผมในตอนนั้นมันสั่นคลอน
แล้วไหนจะอีกหลายๆเหตุการณ์ในชีวิตที่ผมเจอมาหรือจะคนอื่นเล่าให้ฟัง เส้นสาย ยัดเงิน อำนาจมืดที่มองไม่เห็น ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามานั้นมันทำให้ผมเริ่มคิดได้
ว่ามนุษย์มันก็ไม่ได้มีคุณธรรมอะไรแต่แรกแล้วนี่หว่า พูดไปงั้นแหละแต่พอชีวิตของตนเองเริ่มจะยกอยู่ในจุดที่อันตรายก็พร้อมที่จะทำสิ่งที่ตนบอกว่าผิดเสมอพร้อมข้ออ้างเข้าข้างตัวเอง
ความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้นทำให้ผมเริ่มเกิดข้อสงสัยว่าเราจะต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนถึงเมื่อไหร่และจะแก้ยังไง แต่แน่นอนความคิดนี้มาพร้อมกับความไม่มั่นใจในตัวเองในตอนแรกที่คิด
ผมโตมาในโลกแคบๆที่ทุกคนยกยอปอปั่นพวกเดียวกันเองจนไข่ชุ่ม ไม่มองความจริงจนำทำเอาสงสัยว่าพวกเค้าตาบอกรึป่าว? แต่พอจนโตขึ้นมาอีกนิดทุกอย่างก็เริ่มกระจ่าง
เหมือนคนถูกปล่อยออกมาจากถ้ำครั้งแรกมันรู้สึกตื่นตากับการที่ได้โตนะเพราะมันทำให้เห็นอะไรมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะเลย ได้รู้ได้เห็นถึงสิ่งที่แสนจะน่าชิงชังมากมายในสังคม และได้รู้ว่ามีวิธีที่จะเปลี่ยนมีอยู่
มันอาจจะเป็นภาพในฝันนะแต่ว่าสังคมที่ไร้ความอยุติธรรมหรืออำนาจที่มองไม่เห็น ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิตตามที่ตัวเองอยากเดินโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเส้นสายว่าถึงหรือไม่ถึง วัดดันด้วยความสามารถแบบแฟร์ๆ
สังคมที่กฏหมายคือสิ่งที่จัดระเบียบคนในสังคมให้เติบโตมาเป็นคนที่มีคุณภาพ แถมพอมองไปยังประเทศอีกซีกโลกมันก็ทำให้ผมได้รู้ ว่าความฝันของผมมันเป็นไปได้
เพราะความอยุติธรรมนั้นทำให้ชีวิตของคนมากมายต้องตกต่ำลงเช่นเดียวกันกับทำให้ผู้ที่ไม่คู่ควรได้ขึ้นไปอยู่ในจุดที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น ความไร้มาตรฐานแบบนั้นมันทำลายระบบในสังคมองค์กรและทำให้มาตรฐานของเราตกลงไปอีก
เพราะงั้นนั้นแหละคือเหตุผลที่ว่าทำไมเงามืดนั้นถึงควรถูกลบล้างไปให้สิ้น
*เหตุผลที่ผมเลือกที่จะเขียนโพสต์นี้โดยผ่านเรื่องราวของผมแทนที่จะเป็นการอธิบายแบบปกติ ก็เพราะว่าผมหาแนวใหม่ๆอยู่ เลยอยากทำอะไรแปลกๆดูบ้าง
ขอให้มีความสุข
โฆษณา