พลังงานสะอาดของจีนสะเทือนโลก - Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
คนจีนบอกว่าบุญเก่าอย่างภาคอสังหาริมทรัพย์ ภาคการส่งออก หรือแม้กระทั่งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างการสร้างรถไฟ สนามบิน ท่าเรือนั้น ไม่สามารถพึ่งพาให้เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนได้เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่บุญใหม่ของจีนคืออะไร คำตอบที่นักวิเคราะห์หลายคนในจีนให้คือภาคพลังงานสะอาด
เราพอเห็นเค้าจากตัวเลขปีที่แล้ว ภาคพลังงานสะอาดเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในการเติบโตทางเศรษฐกิจก้อนใหม่ของจีน คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 40 ของก้อนการเติบโตใหม่ที่เกิดขึ้น และเป็นเกือบทั้งหมดของก้อนการเติบโตใหม่จากการลงทุนของรัฐ พูดอีกอย่างหนึ่งคือการลงทุนของรัฐที่เพิ่มขึ้นในปี 2023 ล้วนเป็นการลงทุนในภาคพลังงานสะอาด
หากดูเฉพาะในภาคพลังงานสะอาดเอง การลงทุนใหม่ในปีแล้วเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 40 และหากไม่มีการลงทุนในภาคพลังงานสะอาดในปีที่แล้ว เศรษฐกิจจีนจะเติบโตเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น จะไปไม่ถึงร้อยละ 5.2 ที่จีนทำได้
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า เครื่องจักรสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนได้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์หรือโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมเช่นในอดีต ขณะเดียวกันก็ไม่ใช่การอัดเงินให้ภาคครัวเรือนเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายหลังวิกฤตโควิดดังที่หลายฝ่ายคาดหวัง แต่เป็นการอัดเงินมโหฬารในการทำยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมในภาคพลังงานสะอาด
แกนหลักของภาคพลังงานสะอาด คือ ของใหม่ 3 อย่าง (The New Three) ได้แก่ โซล่าเซลล์ รถยนต์อีวี และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ซึ่งจะมาแทนของเก่า 3 อย่าง (The Three Old) ซึ่งเคยเป็นพลังหลักของภาคอุตสาหกรรมการผลิตของจีน ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ในปีนี้ จีนตั้งเป้าหมายการเติบโตร้อยละ 5 ซึ่งบางคนมองว่าดูจะทำได้ยาก เพราะมาจากฐานที่สูงจากปีที่แล้ว (ต่างจากปี 2023 ซึ่งเติบโตมาจากฐานที่ต่ำจากการปิดเมืองในปี 2022) เมื่อวิเคราะห์แล้ว ตัวเลขการเติบโตของจีนในปีนี้จะไม่ได้มาจากภาคการบริโภคหรือการส่งออก (ที่จะเพียงทรงตัว แต่ไม่ได้เติบโตอย่างชัดเจน) ในขณะที่ภาคอสังหาฯ ยังคงหดตัว และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมก็ไม่ขยายอีกแล้วเช่นกัน
ดังนั้น ตัวขับเคลื่อนการเติบโตหลักเพื่อให้ได้ตามเป้าการเติบโตที่ยากคือร้อยละ 5 จะมาจากการลงทุนมหึมาในการขยายกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมโซล่าเซลล์ รถยนต์อีวี และแบตเตอรี่
เราเคยบอกว่าภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนคิดเป็นร้อยละ 15-30 ของ GDP จีน ดังนั้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนไม่ฟื้น ก็ยากที่จีนจะฟื้นได้ในด้านเศรษฐกิจ แต่ของใหม่ก็ค่อยๆ เริ่มฉายแวว เพราะเมื่อปีที่แล้ว มีการคำนวณว่าภาคพลังงานสะอาดขึ้นมาคิดเป็นร้อยละ 8 ของ GDP จีน แม้จะยังเทียบไม่ได้กับภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็เป็นสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ใน GDP จีน
แต่อย่างไรก็ตาม ภาคพลังงานสะอาดของจีนก็ประสบความท้าทายไม่น้อยเช่นกัน อย่างแรกคือ สงครามเทคโนโลยีจากทางตะวันตก ทำให้ความร่วมมือในเรื่องวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีของจีนกับตะวันตกลดลงจากเดิมมาก
หลายสิบปีที่ผ่านมา ความสำเร็จและการก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีจีนในภาคพลังงานสะอาดมาจากความร่วมมือและการเข้าถึงฐานเทคโนโลยีของตะวันตก ซึ่งพอจีนนำมาต่อยอดและพัฒนาประยุกต์ ก็ทำให้จีนสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็วในด้านเทคโนโลยี แต่เมื่อจีนกับตะวันตกแตกหักกันในเรื่องความร่วมมือด้านเทคโนโลยีแบบในปัจจุบัน ย่อมกระทบต่อสปีดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ของจีน
นอกจากนั้น การเพิ่มกำลังการผลิต เพื่อปั๊มตัวเลข GDP ก็นำไปสู่ปัญหาการผลิตเกินตัว (Overcapacity) และกำไรที่ลดลงของบริษัทจีนในภาคอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด การแข่งขันที่สูงและดุเดือด ซึ่งสุดท้ายตามสไตล์สงครามธุรกิจจีนอันโชกโชน ก็จะมีบริษัทจีนจำนวนมากที่จะกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ และเหลือผู้ชนะที่จะขึ้นมาเป็น National Champion อยู่ไม่กี่ราย ทั้งหมดนี้ย่อมซ้ำเติมบาดแผลทาง
เศรษฐกิจและการจ้างงาน ช่วง 2-3 ปีนี้ สมรภูมิธุรกิจพลังงานสะอาดของจีนคงเลือดโชกและเต็มไปด้วยคนแพ้ที่ต้องลงจากสนาม
ความกังวลเรื่องการผลิตเกินตัว (Overcapacity) และราคาที่จะปรับลดลงอย่างรวดเร็วจากสเกลการผลิตที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ราคารถยนต์ EV จากจีนจะลดถูกลงมากและอาจยึดครองตลาดโลกในเวลาไม่กี่ปี สุดท้ายจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่กระแสกีดกันทางการค้าทั่วโลกต่อสินค้าจีน ดังที่เริ่มปรากฎให้เห็นแล้วจากการตั้งกำแพงภาษีสินค้ารถยนต์ EV จากจีนของสหภาพยุโรปและการต่อต้านอย่างหนักของสหรัฐฯ ในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ ของรถยนต์จีน แต่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา สินค้าจีนคงยึดครองตลาดได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อถอดรหัสสุนทรพจน์ของนายกฯ จีนในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของจีน จะเห็นว่าจีนให้ความสำคัญอันดับแรกต่อนโยบายอุตสาหกรรมการผลิตในภาคเศรษฐกิจใหม่ (ซึ่งหมายถึงภาคพลังงานสะอาด) ไม่ใช่การกระตุ้นการบริโภคอย่างที่นักวิเคราะห์ต่างชาติคาดหวัง
และด้วยปริมาณเม็ดเงินลงทุนที่จะเข้าสู่ภาคเศรษฐกิจใหม่นี้ เพื่อทำตัวเลขการเติบโต GDP ให้ถึงเป้าหมายที่ร้อยละ 5 ในปีนี้ ย่อมจะส่งผลให้มีการเพิ่มสเกลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมนี้ของจีนอย่างใหญ่โตและรวดเร็ว ซึ่งย่อมผลักให้ราคาลดลงอย่างรวดเร็ว และผลักให้สินค้ารถยนต์ EV ของจีนท่วมและยึดครองตลาดโลกเร็วขึ้นมากชนิดที่โลกอาจตั้งรับไม่ทัน
- 100
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
