10 เม.ย. เวลา 06:02 • ความคิดเห็น

จดหมายรักข้างเดียว

ในโลกแห่ง dating app และความรักใคร่ชอบพอของยุคโซเชียล ความรักแบบค่อยเป็นค่อยไป ดูใจกันนานๆ ดูจะลดน้อยถอยลงตามสภาพสังคม ยิ่งรักแบบชั่วฟ้าดินสลาย รักไม่ยอมเปลียนแปลงยิ่งกลายเป็นเรื่องแปลกมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วรักแบบรักข้างเดียวจนตายกันไปข้างก็น่าจะมีแต่นิยาย
แต่ถ้ายังพอมีเรื่องแบบนี้ในชีวิตจริงก็คงจะสุดแสนโรแมนติคไม่น้อยเลยทีเดียว…
ผมชอบฟังรายการ people you may know ของคุณฟาโรสมากๆ ช่องฟาโรสจะพูดคุยถึงบุคคลสำคัญในอดีตอย่างเจาะลึก ด้วยแขกรับเชิญที่รู้จริงระดับแฟนพันธุ์แท้ ผู้คนที่พูดถึงก็หลากหลายตั้งแต่ ซุนยัดเซน ชาร์ล ดาร์วิน ไมเคิล แจ็กสัน ฮิตเลอร์ จิตร ภูมิศักดิ์ จนถึง พุ่มพวง ดวงจันทร์
เมื่อสองก่อน ผมฟังเป็นเรื่องเล่าประวัติของคุณสวลี ผกาพันธุ์ ราชินีเพลงลูกกรุง ที่มีแขกรับเชิญแสนสนุกอย่างคุณกรีน ครูสอนร้องเพลงและสอนพัฒนาบุคลิกภาพที่เป็นแฟนพันธุ์แท้คุณสวลี ผมเองก็แทบไม่ค่อยทันยุคคุณสวลี เคยได้ยินเพลงเพราะๆหลายเพลงก็จากป๊าม้าที่เปิดตอนเด็กๆ แต่ชื่อคุณสวลีก็เป็นตำนานมาหลายยุคหลายสมัย
รายการคุณฟาโรสตอนคุณสวลีใช้ชื่อตอนว่าจดหมายรักข้างเดียว เพราะไฮไลท์อยู่ที่ความรักของคุณสุรพล โทนวณิก ครูเพลงอัจฉริยะที่แต่งเพลงรักต่างๆมากมาย โดยคุณกรีนเล่าว่าตอนที่คุณสวลีเสียชีวิตในวัย 86 ปี คุณสุรพลเขียนคำไว้อาลัยไว้ว่า
“ แด่คุณเชอรี่ สวลี ผกาพันธุ์ ด้วยความอาลัยอย่างสุดซึ้ง จากคนที่เคยรักคุณข้างเดียวเสมอมาตราบกระทั่งวันนี้″
ครูสุรพลเคยหลงรักคุณสวลีผู้เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนสตรีมหาพฤฒารามตั้งแต่เป็นเด็กช่วยขายน้ำอยู่หน้าโรงเรียน แอบมองจนถูกห้ามขาย แล้วด้วยความรักข้างเดียวก็พยายามดิ้นรน
หลังจากนั้นคุณสวลีก็ไปเป็นนักร้องชื่อดัง ครูสุรพลก็ยังไปเป็นตัวประกอบอยู่ใกล้ๆ และก็ได้รับความเมตตาจากคุณสวลีแบ่งข้าวให้กิน ครูสุรพลเลยมุมานะเป็นนักแต่งเพลงเพื่อให้มีโอกาสใกล้ชิดคุณสวลีผู้ผันตัวไปเป็นนักร้อง อยากแต่งแพลงให้คุณสวลีร้องให้มากที่สุด แต่ความรักก็ไม่เคยสมหวัง เป็นความรักข้างเดียวจนบั้นปลายชีวิต
เพลงหนึ่งที่ครูสุรพลแต่งให้คุณสวลีร้อง ปกติก็เป็นเพลงที่ไพเราะมากอยู่แล้ว พอได้ยินเรื่องราวนี้ก็จะอินกว่าเดิมมากก็คือ เพลงรักไม่รู้ดับ ที่มีเนื้อร้องว่า
“ถึงจะสิ้นวิญญาณกี่ครั้ง ฉันก็ยังรักเธอฝังใจ แม้จะสิ้นดวงจันทร์ไฉไล ไม่เป็นไรเพราะยังมีเธอ
ฟ้าจะมืดจะมัวช่างฟ้า ขอให้มีสายตาหวานละเมอ ถึงจะสิ้นแผ่นดินนะเธอ ให้ได้เจอยิ้มเธอชื่นใจ
ไม่ได้ชิดก็ขอเพียงได้ชม ไม่ได้สมไม่เห็นแคร์อะไร ขอให้ได้รักข้างเดียวเอาไว้ ไม่เช่นนั้นใจฉันคงหลุดลอย
ถึงโลกแตกแหลกลาญสิบครั้ง ฉันก็ยังหวังใจรอคอย แม้นจะสิ้นวิญญาณเลื่อนลอย ก็จะคอยพบเธอชาติอื่นเอย”
(ซีรีส์ analog squad นำมาร้องไหม่โดยคุณสุรสีห์ อิทธิกุล ร้องไว้ไพเราะมากครับ อ่านเรื่องนี้แล้วลองฟัง จะได้ความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่าเดิมมาก)
มีอีกเพลงหนึ่งที่คุณกรีนเล่าว่าครูสุรพลแต่งโดยให้คุณสุเทพ วงค์กำแหงร้องไว้แทนตัวเอง ก็คือเพลงในโลกแห่งความฝันที่มีเนื้อร้องว่า
“ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง ของใครก็ได้ และค่าแห่งความสนใจ ย่อมน้อยลงไปจากเขา
ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง หัวใจแสนเศร้า ฝืนทนชื่นบานหวานเอา เพื่อข่มความเศร้าในใจ
1
มาพบกับฉัน ในฝันดีกว่า ฝันนั้น จะพาให้จิตสดใส ลืมชีวิต เมื่อตื่นชื่นใจ มาพบคนเก่ากันใหม่ในฝัน
ในโลกแห่งความเป็นจริง เธออาจเป็นหญิง ของใครไม่หวั่น แต่ในโลกแห่งความฝัน เธอเป็นของฉันเสมอ”
เรื่องราวที่ได้ยินในรายการทำให้ฟังสองเพลงนี้เพราะขึ้นอีกเยอะเป็นร้อยเท่าทวีคูณ เป็นเรื่องราวโรแมนติคที่หาได้ยากแสนยากและน่าจะจากไปพร้อมกับโลกโซเชียลมีเดียแล้วล่ะครับ…
2
โฆษณา