Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กรุงเทพธุรกิจ
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
10 เม.ย. 2024 เวลา 10:00 • การตลาด
ซีอีโอ ‘Rolex’ เตือนนักลงทุน อย่าเทียบ ‘นาฬิกาหรู’ กับ ‘หุ้น’ ชี้ เป็นมุมมองอันตรายมาก
ฌอง-เฟรเดริก ดูฟูร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัท Rolex SA ผู้ผลิตและจำหน่ายนาฬิกาหรูสัญชาติสวิส ซึ่งปกติแทบไม่แสดงความเห็นผ่านสื่อบ่อยนัก ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ NZZ ของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อไม่นานนี้ว่า การมองนาฬิกาหรูเป็นการลงทุนถือเป็นเรื่องอันตราย และไม่ชอบที่คนนำนาฬิกาหรูไปเปรียบเทียบกับสินทรัพย์การลงทุน เช่น หุ้น
1
“ผมไม่ชอบเลย เวลาคนเปรียบเทียบนาฬิกากับหุ้น นี่เป็นการส่งข้อความผิด ๆ และเป็นเรื่องที่อันตรายมาก” ซีอีโอ Rolex แสดงความคิดเห็นก่อนงานมหกรรมการค้า “Watches and Wonders” จะเปิดฉากที่นครเจนีวาในสัปดาห์นี้
ที่ผ่านมา ราคานาฬิกามือสองซึ่งนำโดยแบรนด์ใหญ่อย่าง Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2564 และต้นปี 2565 เนื่องจากบรรดานักเก็งกำไรแห่ซื้อนาฬิกาสวิสราคาแพงไปขายต่อ ขณะเดียวกันยังได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำและมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาในตลาดนาฬิกามือสองกลับร่วงหนักในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงและอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้น ข้อมูลจากดัชนี Bloomberg Subdial Watch ซึ่งติดตามราคานาฬิกาที่ถูกซื้อขายด้วยมูลค่าสูงที่สุด 50 อันดับแรก ระบุว่า ราคาเฉลี่ยในตลาดนี้ปรับตัวลดลงถึง 40% ในช่วง 2 ปีหลังสุด
ขณะที่ Rolex ถือเป็นแบรนด์นาฬิกาสวิสรายใหญ่ที่สุดและครองอุตสาหกรรมนี้มานาน ด้วยส่วนแบ่งตลาดราว 30% ข้อมูลจากมอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่า ยักษ์ใหญ่นาฬิกาหรูรายนี้ทำยอดขายทะลุ 10,000 ล้านฟรังก์สวิส (ราว 4.2 แสนล้านบาท) เป็นครั้งแรกในปี 2566
นอกจากนี้ ดูฟูร์ซึ่งนั่งตำแหน่งซีอีโอ Rolex ตั้งแต่ปี 2558 คาดการณ์ว่า ปี 2567 จะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส เนื่องจากความต้องการชะลอตัวลงจากระดับสูงสุด
ซีอีโอ Rolex เสริมด้วยว่า ภาวะชะลอตัวนี้จะส่งผลกระทบ “หนักที่สุด” ต่อยอดขายของ “แบรนด์นาฬิการายเล็กกว่า” แต่สำหรับกลุ่มแบรนด์นาฬิการายใหญ่นั้น ความผันผวนเหล่านี้ส่งผลกระทบน้อยกว่ามาก
1
“ตอนนี้ลูกตุ้ม (ความผันผวนของราคานาฬิกา) เหวี่ยงไปอีกทางหนึ่ง และเป็นธรรมชาติที่แบรนด์ที่มีความมั่นคงน้อยกว่าจะเผชิญกับผลกระทบที่หนักกว่า”
“ถึงแม้พวกเขาจะมียอดขายเพิ่ม 20% ในช่วงขาขึ้น แต่ตอนนี้ พวกเขาก็อาจเจอยอดขายร่วง 15% ก็ได้” ดูฟูร์กล่าว
อ้างอิง:
https://tinyurl.com/4n83hmcd
2 บันทึก
12
1
3
2
12
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย