10 เม.ย. เวลา 14:19 • ไลฟ์สไตล์

ความกระอักกระอ่วนของการรอ

เคยรอคอยใครสักคนหรืออะไรสักอย่างรึป่าว แล้วยังจำความรู้สึกเหล่านั้นได้มั้ยว่ามันรู้สึกเช่นไร แล้วคิดยังไงกับชีวิตที่เต็มไปด้วยการรอคอยกันละ?
ทุกลมหายใจคือการรอคอย รอคอยใครสักหรืออะไรสักอย่าง ทุกลมหายใจนี้คนเราต่างกำลังรออะไรดีๆให้มาสู่ชีวิตเสมอ ตั้งแต่เกิดจนตาย
แล้วทุกครั้งที่คุณจำเป็นต้องรอ มันรู้สึกกดดันเล็กๆและพอเวลาผ่านไปนานเข้า คุณก็จะรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นใช่มั้ยละ
ผมเลยจะมาคลี่ดูถึงกระบวนการของการรอ ทำไมยิ่งรอถึงได้รู้สึกแย่รู้สึกกังวลมวนท้องอยากจะอ้วก และทำยังไงถึงจะแก้ความรู้สึกแย่แบบนั้นได้
ความไม่รู้นั้นคือสิ่งที่มนุษย์นั้นหวาดกลัวที่สุด เป็นความกลัวขั้นพื้นฐานของมนุษย์ที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ความกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ทำให้มนุษย์นั้นพยายามที่จะถอยห่าง แต่น่าเสียดายที่ชีวิตนี้สิ่งที่ไม่รู้นั้นมีเต็มไปหมดและมันอยู่รอบตัวเราเสมอ
เหมือนกันอนาคตที่สุดแสนจะคาดเดาไม่ได้เพราะอนาคตมีมากกว่าหนึ่งและจะไม่มีทางมีน้อยกว่าอนันต์เสมอ เราถึงมิอาจล่วงรู้ได้ว่าวินาทีข้างหน้าอะไรจะเกิดขึ้น
รวมไปถึงถ้ายิ่งเราไม่รู้ว่าจำเป็นต้องรออีกนานแค่ไหน มันก็จะยิ่งทำให้เรารู้สึกว่าการรอคอยนั้นมันนานและทรมานมากยิ่งขึ้น เหมือนคนตาบอดที่ไม่รู้ว่าตอนนี้ถึงไหนไม่มีผิด
ละความกดดันจะยิ่งเพิ่มขึ้นตามความสำคัญของการรอคอยนั้น ยิ่งสิ่งที่รอมีผลต่อตัวเรามากเท่าไหร่ความรู้สึกและอารมณ์จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
การรอว่าต้นไม้จะโตวันไหน กับรอว่าคนที่ชอบจะตอบตอนไหนเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าความรู้สึกในการรอนั้นมันต่างกันอย่างชัดเจน
เวลา สิ่งที่ไหลไปเหมือนกับสายน้ำไหลผ่านตัวเราตั้งแต่อดีตและไปสู่อนาคต และจำเอาไว้ว่ารอทำให้เกินเวลาว่างและเมื่อว่างคนเราจะไม่หยุดนิ่ง
เพราะช่องว่างของเวลาที่มีเยอะขึ้นทำให้เรามีเวลาคิดมากขึ้นและเมื่อคนเราคิดมากขึ้นความคิดมากจะถูกเปลี่ยนเป็นความวิตกและความหวาดระแวง ไม่ว่าสิ่งที่คิดมันจะเป็นไปได้ต่ำแค่ไหนก็ตาม
ผิดแปลกจากความปกติ ถ้าคุณโทรไปหาคนสำคัญของคุณไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือแฟนแล้วเค้าไม่รับสายแค่สายถึงสองสายมันคงจะไม่มีอะไร แต่หลังจากนั้นคุณก็โทรไปเป็น10หรือ100สาย ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยน
หรือต่อให้รอให้ผ่านไปเวลาแล้วเวลาเล่าตั้งแต่เช้าจนดึกก็ไม่มีการติดต่อกลับมา จากความรู้สึกสบายๆก็จะเปลี่ยนไปเป็นความกังวล
และยิ่งคนที่คุณโทรหาไม่มีทางไม่ว่างรับสายคุณแถมคุณรู้ตารางเวลาของเค้าอีก มันคือความไม่ปกติที่เกิดขึ้นและบวกกับข้อข้างหน้าคือยิ่งต้องรอนานเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งฟุ่งซ่าน
ความผิดปกติ+ต้องรอเป็นเวลาที่ไม่รู้ว่านานแค่ไหน = ตู้ม! คำอธิบายสั้นๆที่ผมก็ไม่อาจบอกได้ทั้งหมดว่ามันมีอะไรบ้าง แต่คุณคงจะรู้ได้ด้วยตัวเองนะว่ามันรู้สึกยังไงที่ต้องรออะไรสักอย่างที่มันสำคัญมากๆ และมันอาจที่จะจากเราไปจริงๆดหมือนที่เราคิด
ในเมื่อเราเข้าใจแล้วว่าทำไมเราถึงได้รู้สึกกังวลมากเวลาที่ต้องรอ แล้วทำถามคือคำยังไงให้มันหายไปละ? มันคงไม่มีใครที่อยากที่จะทนอยู่กับความรู้สึกเหมือนคนจะอ้วกตลอดเวลาหรอก
โอเค ผมคงไม่อาจที่จะบอกได้ทุกขั้นตอนหรอกว่าควรที่จะทำยังไงเพราะทุกคนก็คงมีวิธีเป็นของตัวเองอยู่แล้ว สิ่งที่ผมจะแนะนำได้คงจะเป็นแค่ว่าหาอะไรทำหรือใส่ใจสิ่งนั้นให้น้อยที่สุด หรือตามหายิ่งนั้นและไม่ต้องรอ
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ไม่มีการรอคอยไหนที่สูญเปล่าจำเอาไว้ละกัน ไม่ว่าคุณจะสมหวังกับการรอนั้นหรือไม่ก็ตาม แต่ทุกผลลัพธ์คือบทเรียน
และบางครั้งคนเราก็ต้องรอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วย ทุกอย่างนั้นใช้เวลาไม่มีอะไรที่ทำให้เกิดขึ้นได้เร็วดั่งใจนึก การรอเพื่อให้ได้สิ่งนั้นก็สำคัญพอๆกับการไม่รอจะได้ไม่เสียเวลานั้นแหละ
สำหรับผมแล้วมันขึ้นอยู่กับความคุ้มค่ามากกว่าที่ว่าจะรอหรือไม่รอ
ขอหยุด3วันนะคราบบบ สงกรานต์กลับบ้านละ
โฆษณา