12 เม.ย. เวลา 10:50 • ท่องเที่ยว

ถ้ำชานิดาร์ แหล่งค้นพบมนุษย์นีแอนเดอร์ทัล ยุค 70,000 ปีก่อน

ถ้ำชานิดาร์ อันตั้งอยู่บนภูเขาสูงที่ชื่อว่าแบรดอสต์ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาซากรอส ตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองเออร์บิล ในเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานประเทศอิรัก ถ้ำนี้ไม่ได้เป็นแค่ถ้ำทั่วไป แต่เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงถึงระดับโลก!!! เพราะมีการขุดค้นพบซากมนุษย์ยุคหิน หรือ มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลที่มีอายุย้อนไปถึง 70,000 ปีเลยทีเดียว ซึ่งสร้างความก้าวหน้าในการวิจัยความเป็นมาของมนุษย์ยุคหินได้เป็นอย่างมาก อีกทั้งล่าสุดในปี 2020 ก็ยังมีการขุดค้นเจอเพิ่มอยู่เลย!
ภาพการขุดค้นในช่วงแรกๆ
หากย้อนกลับไปในช่วงแรกของการขุดค้น มีนักมานุษยวิทยาท่านหนึ่ง นามว่า ราล์ฟ โซเลคกี้ พร้อมสมาชิกคณะสำรวจมหาวิทยาลัยมิชิแกน ได้เดินทางเข้ามาสำรวจที่นี่เป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1951 จากนั้นก็ทำการสำรวจต่อมาเรื่อยๆ จนได้ส่งต่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาลัยต่างๆ ทั่วโลกเข้ามาสำรวจต่อ การขุดในถ้ำชานิดาร์จึงถือว่าเป็นการขุดค้นที่รวมตัวท็อปจากทั่วโลกมากมาย เช่น จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเกี่ยวกับกระดูกของมนุษย์ยุคหิน
1
วิวถ้ำชานิดาร์
โดยการขุดค้นภายในถ้ำชานิดาร์ ทำให้ได้ค้นพบสิ่งสำคัญที่จะสามารถบอกความเป็นมาและวิวัฒนาการของมนุษย์ได้ว่าเราวิวัฒนาการมาจากอะไร และเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญของโลกที่อาจสามารถพิสูจน์ความคิดและการใช้ชีวิตของมนุษย์ยุคหินเมื่อหลายหมื่นปีที่แล้วได้
ซึ่งสิ่งที่เหล่านักวิชาการได้ค้นพบภายในถ้ำนี้ พบทั้งเครื่องมือหินหลายร้อยชิ้น พบซากหอยทากมากมายที่ชี้ว่ามนุษย์ยุคหินเคยกินหอยทากเป็นอาหารหลักในช่วงเวลาหนึ่งก่อนที่จะเลิกกินกัน และที่สำคัญมีการขุดค้นพบชิ้นส่วนกระดูกของมนุษย์ 12 คน ที่บ่งบอกถึงการใช้ชีวิตในยุคนั้นได้หลายแง่มุมมาก ซึ่งซากแต่ละคนจะถูกตั้งชื่อว่า ชานิดาร์หมายเลข 1 ถึง 12 โดยมีความสำคัญดังนี้
ภาพเวอร์ชั่นการ์ตูนของลักษณะร่างกายชานิดาร์ 1 เมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่
***ชานิดาร์ 1 ซากที่โด่งดังที่สุด***
เป็นซากของชายอายุ 40-50 ปี ร่างกายของซากมีความผิดปกติมาก ทั้งแขนขาลีบร้าว กะโหลกเคยโดนทุบจนเสียหาย ตาบอด ทำให้ตอนใช้ชีวิตคงมีความเจ็บปวดทางร่างกายอย่างมากและไม่สามารถใช้ชีวิตด้วยตนเองได้แน่นอน แต่ผลการพิสูจน์กลับบอกว่าหลังจากที่ชายคนนี้ได้รับบาดเจ็บ เขาก็ยังมีชีวิตอยู่ต่ออีกหลายปี ซึ่งผลสรุปนี้เลยชี้ให้เห็นว่าในอดีต มนุษย์ยุคหินก็อาจไม่ได้จิตใจเหี้ยมโหดอย่างที่เราคิดกัน แถมอาจอยู่กันเป็นชุมชน หรือครอบครัว พร้อมทั้งรู้จักมีเมตตาดูแลซึ่งกันและกันอีกต่างหาก
***ชานิดาร์ 3 ซากที่มีความบาดเจ็บ***
ส่วนซากต่อไปที่มีความโดดเด่น คือซากที่ 3 การวิจัยพบว่าซากนี้เสียชีวิตจากการโดนของที่พุ่งมาจากระยะไกลทำให้บาดเจ็บ รอยบาดแผลมีลักษณะคล้ายโดนลูกปืนยิง ซึ่งไม่ใช่บาดแผลที่เกิดการการทำร้ายตนเอง แต่เป็นบาดแผลที่เกิดจากบุคคลอื่นแบบค่อนข้างตั้งใจทำร้ายกัน เพราะฉะนั้นซากนี้จึงเป็นตัวอย่างแรกของการแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงระหว่างคนสองคน เลยอาจสรุปได้ว่ามนุษย์ยุคนั้นก็รู้จักมีความขัดแย้งต่อกันด้วย
****ชานิดาร์ 4 ซากที่มีการฝังศพ***
นอกจาก 2 ซากเมื่อกี้แล้ว ก็ยังมีการพบความน่าสงสัยในซากชานิดาร์ 4 ซึ่งเป็นชายอายุ 30-45 ปี พบว่ามีเศษละอองเกสรดอกไม้ปนอยู่กับทั่วร่างกายของซากและดินบริเวณที่ฝังซาก แสดงถึงว่าอาจจะพิธีกรรมฝังศพในสมัยนั้น ซึ่งน่าทึ่งตรงที่มนุษย์ยุคนั้นรู้จักการฝังศพ หรือให้ความสำคัญแก่การเสียชีวิตด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ว่าเกสรเหล่านี้อาจจะเป็นเกสรดอกไม้ที่พวกสัตว์ฟันแทะเอามาซุกไว้ในโพรงก็เป็นได้ เพราะมีการขุดเจอซากสัตว์ในบริเวณรอบๆ ที่ฝังซาก
และที่สำคัญยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ล่าสุดในปี ค.ศ. 2020 นักวิจัยได้ค้นพบซากใหม่ เป็นซากมนุษย์ยุคหินที่เก่าแก่ที่สุดตั้งแต่เคยค้นพบที่ถ้ำชานิดาร์ ซึ่งซากนี้มีอายุเก่าแก่ย้อนไปถึง 70,000 ปี!!! ด้านเพศยังไม่แน่ชัดว่าเป็นเพศใด แต่พบว่าฟันมีอายุประมาณวัยกลางคนถึงวัยสูงอายุเลยทีเดียว
1
ภาพรายละเอียดชั้นดินที่ขุดเจอแต่ละซาก
ทั้งนี้การค้นพบทั้งหมดในถ้ำชานิดาร์ ทั้งเครื่องมือหินที่ล้วนแสดงให้เห็นว่ามนุษย์ยุคหินมีความฉลาดมากในการที่รู้จักสร้างสิ่งของที่ทำให้ชีวิตประจำวันของตนเองสะดวกขึ้น และรายละเอียดต่างๆ ที่พบในแต่ละซากทำให้เราเห็นถึงความคิดและการใช้ชีวิตเมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว และทำให้เข้าใจความเป็นมนุษย์ยุคหินมากขึ้นว่าความจริงแล้วพวกเขาอาจไม่ใช่มนุษย์ป่าเถื่อน น่ากลัวอย่างที่เราเคยคิด…
ซึ่งหากใครชื่นชอบเรื่องราวเช่นนี้ แอดมินต้องขอบอกเลยว่าห้ามพลาดที่จะไปท่องเที่ยวพร้อมสัมผัสสถานที่จริง ชมจุดการขุดค้นของจริงที่ถ้ำชานิดาร์แห่งเคอร์ดิสถานประเทศอิรักเลยนะ! รับรองว่าจะเป็นการไปเที่ยวที่คุ้มค่าแน่นอน
ดูภาพขณะขุดค้นในคอมเมนต์
#TWCTravel #TWCKurdistan
#TWCgade
โฆษณา