15 เม.ย. เวลา 09:19 • ปรัชญา
เมื่อเกิดมามีกายเป็นมนุษย์ อาศัยกายมนุษย์สร้างคุณความดี สร้างบุญกุศล ให้แก่จิต มีแต่กายมนุษย์เท่านั้น ที่สามารถนำกายมาสร้างบุญกุศลบารมีได้ กายมนุษย์นี้มีคุณ ให้จิตได้อาศัย รู้จักจักกรรมดีชัวได้ ใช้กายวาจาใจมาสร้างเรื่องราวดีได้ กายมนุษย์ครบอาการสามสิบสองสามารถใช้ตอยแทนพระคุณ ที่พ่อแม่ให้กายมาได้ กายสัตว์ไม่สามรถนำมาใช้ทำในสิ่งที่เป็นคุณได้ ได้แต่กินนอน สืบเผ่าพันธุ์ไปตามสัญชาตญาณของสัตว์
ท่านเป็นมนุษย์ใช่มั้ย
ที่นี่ไม่มีครูบาอาจารย์ มีแค่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่จะยึดและบูชา ไม่มีผู้หนึ่งผู้ใดจะมารับรองหรือช่วยเหลือเราได้ ที่กล่าวเช่นนี้ ก็มาช่วยหนุนนำให้แต่ละดวงจิตของแต่ละคน ที่จุติขึ้นมาเป็นมนุษย์ ครบอาการสามสิบสอง แต่พอถามไป ท่านเป็นมนุษย์หญิงชาย ไม่มีใครตอบได้ หาคนตอบที่ชัดๆไม่มี ถามว่าเป็นมนุษย์หญิงชายใช่มั้ย เป็นผู้หญิงหรือเป็นผู้ชาย
ท่านเป็นมนุษย์ตอบไม่ได้ เพราะถ้าเป็นมนุษย์ต้องรู้จักการหนีกรรม สร้างบุญสร้างกุศลสร้างบารมี เป็นที่ประจักษ์ให้แก่ตัวของตัวเอง ไม่ใช่ให้แก่ใคร เหมือนกับนึกว่า ข้าพเจ้าทำบุญ เพื่อให้คนโน้นคนนี้ หรือว่าอยากจะให้คนนั้นรู้จักคนนี้รู้จัก เป็นชื่อเสียงของตัวเอง เป็นบุญที่มองเท่าภูเขาเลากา ไม่ได้ไม่เคยนำบุญนี้ไปส่งอโหสิกรรมให้กับเจ้าเวรนายกรรม มันก็เลยกองกันเป็นภูเขา
ไอ้ที่ภูเขาขึ้นมาก็คือบุญที่ทุกคน แต่เดี๋ยวนี้ก็ถูกทำลายไปเยอะเรื่องภูเขา แล้วต่อไปภูเขานั้นก็เกิดขึ้นมาใหม่อีกมากมายก่ายกอง เพราะเงินทองสิ่งที่เราทำบุญนั้นแหละนะ ทำบุญขว้างไปทิ้งน้ำทะเลเสียส่วนใหญ่ หาเป็นบุญที่แท้จริงไม่ ก็เวลาทำบุญไม่ได้เอากายมนุษย์มาทำบุญ เอากายของใครก็ไม่รู้มาทำบุญ
บางทีเอากายหมูหมาเป็ดไก่เดินมา เอาเค้ามาทำบุญแทนตัวเอง เหมือนกับจิตตัวเองอยู่ในสังขารหมูหมาเป็ดไก่ใส่บาตรหรืออนุโมทนา กายของตัวเองที่เป็นกายมนุษย์ไม่มี เพราะไม่ได้มองดูกายของตัวเอง จึงไม่ได้อนุโมทนาบุญ ตาที่มองเหลือบไปเห็น นั้นแหละคือ จิตของเราไปอยู่ที่นั้นแล้ว จิตกำลังสร้างบุญสร้างกุศล แต่ก็เอาจิตก็ไปเอากายผู้นั้นหมูหมาเป็ดไก่มาแทนกายของตัวเองกำลังทำบุญอยู่
บางทีก็ทำบุญด้วยความอวดดีมากมาย แล้วผู้ที่ลงนรก พาลงนรกก็คือผู้ที่ชี้นำ สร้างโบสถ์ สร้างกุฏิ สร้างศาลา ให้ไปอยู่ที่วิมานชั้นพรหม ชั้นอะไร ต่างๆ เกิดขึ้น
นี่ก็หลงเชื่อไปยึดเป็นการใหญ่ แล้วไอ้คนพูด พูดเพื่อความหลอกลวงเขา ไฟก็ไหม้ปากไป แล้วนั้นแหละก็ท่องอยู่ในนรกไม่ได้ไปไหน ดีอยู่ในที่คนเป็นคน ไม่ใช่มนุษย์นะ คนที่สั่งสอนคนที่แนะนำเรื่องราวบุญกุศลเท่านั้น แนะนำว่าบุญนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง อะไรที่เราต้องทำให้เป็นบุญ ต้องนำกายของเรามาทำบุญ ก็มีอะไรบ้าง มีหูตาจมูกลิ้นกายใจของเรามาสร้างบุญสร้างกุศล แม่ทั้งสี่ที่ประกอบเป็นตัวตนของเราขึ้นมา นั่นคือจิตของเรามาอาศัยอยู่ เป็นผู้สร้างบุญทำบุญ แล้วเราจะเอาอะไร
ถ้าเราไม่มีหูตาจมูกลิ้นกายใจเป็นบุญ แม่ทั้งสี่เป็นบุญ ที่มันขาดออกไป คือแข้งขาหัก ง่อยเปลี้ยเสียขา หูหนวกตาบอด เพราะไม่มีบุญ ถึงต้องเกิดเป็นเช่นนั้น
เมื่อมีโอกาส ก็อย่าหลับ เสียโอกาสของตนเองไป ให้ไปอยู่ในท่ามกลางของผู้ทำบุญไม่เป็น ไม่ใช่มนุษย์ทำ เค้าถามว่าเป็นมนุษย์หรือเปล่า ข้าพเจ้าเป็นมนุษย์ทำบุญ ไหนดูซิแม่ทั้งสี่ฉายมาดูซิ ถามแม่ธรณี ขอภาพทำบุญหน่อยซิ กายเป็นกายหมาไป เพราะตาไปมองหมา ไปยึดหมาเข้าไป กายตัวเองกลายเป็นกายหมาไป พระแม่ธรณีแม่พระคงตาแม่พระเพลิงแม่พระพายก็ฉายเหมือนกัน ทั้งสี่แม่ตรงกัน ไหนละว่ากายมนุษย์ ก็เลยหลงใหลกันอยู่อย่างนั้น
เกิดมาก็ถูกเขาหลอกแล้ว เมื่อหลอกแล้วเราก็หลงในสิ่งที่เขาหลอก หลอกให้เรามั่งมีศรีสุข หลอกให้เรามียศฐาบรรดาศักดิ์ หลอกให้เราเรียนหนังสือหนังหาเป็นเจ้าคนนายคนมากมายกรายกอง เป็นผู้ที่มีปัญญาดี เอาไปทำอะไร เอาไปสร้างกรรม เรียนหนังสือได้ชั้นสูงโน่นสูงนี่ เอาไปทำไม เอาไปทำมาหากินสร้างกรรม ไม่ใช่เอามาเพื่อประทังสังขาร แต่เอามาเพื่อหมกอยู่ในสังขารที่จิตต้องไปยึดในเรื่องราวเหล่านี้เกิดขึ้น แล้วบอกว่าตัวเองมีบุญสร้างบุญสร้างกุศล แต่อีกส่วนหนึ่งกลายเป็นสร้างเวรสร้างกรรม
โฆษณา