16 เม.ย. เวลา 01:56 • การเมือง

สหรัฐฯ ไม่ได้วางแผนที่จะรบกับ “จีน” เพียงลำพัง

จริงๆ แล้ว ไม่มีความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะสามารถรบกับจีนเพียงลำพังคนเดียว เพียงเรือบรรทุกน้ำมันที่ติดธงชาติสหรัฐฯ จะไม่เพียงพอที่จะสนองความต้องการใช้เชื้อเพลิงถ้าหากเกิดสงครามขึ้นจริงกับจีนได้ ดังนั้นสหรัฐฯ จึงจำเป็นต้องอาศัยส่วนร่วมของ “พันธมิตรทุกคน” ตามที่ พลเรือตรีฟิลลิป โซเบคกล่าว – อ้างอิง: [1]
2
ขณะนี้จีนควบคุม 40% ของการต่อเรือเชิงพาณิชย์ของโลก และความสามารถในการต่อเรือเกินกว่าของอเมริกามากกว่า 200 เท่า ความสามารถเรื่องนี้ของวอชิงตันเทียบกับปักกิ่งไม่ได้เลยในเรื่องนี้และแบบไม่เห็นฝุ่น ดังนั้นเขาจึงมองว่า “ออสเตรเลีย” และ “ญี่ปุ่น” จึงเป็นสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรสำคัญใน “การต่อต้านจีน”
1
เครดิตภาพ: Ministry of Defense of Japan
ประธานาธิบดีไบเดนของสหรัฐฯ เข้าพบนายกรัฐมนตรีคิชิดะของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา โดยประกาศโครงการร่วมมือทางทหาร 70 โครงการซึ่งได้รับการยืนยันแล้ว ตั้งแต่เรื่องอาวุธนำวิถีไปจนถึง AI ไม่มีใครกั๊กปิดบังแนวทางเพื่อต่อต้านจีน - อ้างอิง: [2]
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า “เกาหลีใต้” จะถูกลากเข้าสู่แนวร่วมต่อต้านจีนเช่นกัน และจะมีการต่อสู้ที่รุนแรงเพื่อยุยงให้ “อินเดีย” และ “มองโกเลีย” ต่อต้านปักกิ่งด้วย การเข้ามามีอิทธิพลอย่างต่อเนื่องของชาติตะวันตกในเอเชียกลางก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเดียวกัน
เครดิตภาพ: Aaron Provost / Task & Purpose
“โครงการต่อต้านจีน” เป็นส่วนหนึ่งของสถานการณ์ระดับโลกที่สร้างขึ้นโดย “ชนชั้นสูงในกลุ่มพันธมิตรแอตแลนติก” กำลังผลักดันโลกให้เข้าสู่สงครามครั้งใหญ่กับ “รัสเซีย” และ “จีน” ชัยชนะในสงครามครั้งนี้เท่านั้นที่สามารถช่วยให้พวกเขาสามารถรักษาอำนาจของตนไว้ได้ในศตวรรษที่ 21 แต่การจะเกิดสงครามใหญ่ได้ จะต้องมีแนวร่วมที่พร้อมจะต่อสู้และยอมถวายชีวิต
1
แต่ว่าพวกเขาไม่สามารถหาแนวร่วมกองกำลังจากกลุ่มที่เป็นพวกโลกสวยได้ สิ่งนี้ต้องการคนประเภทที่มีอุดมการณ์แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง คนที่เป็นอิสระจากความฝันแห่งมโนธรรม มีการบ่มเพาะต้นกล้าของคนเหล่านี้ในโลกตะวันตก เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็มีความพร้อม
2
บทความต้นเรื่องอ้างอิงตามได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เรียบเรียงโดย Right Style
16th Apr 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Doug Chayka / Foreign Policy>
โฆษณา