17 เม.ย. เวลา 05:00 • ท่องเที่ยว

Kona Coffee กาแฟพิเศษจากฮาวาย

Kona Coffee กาแฟที่มีกรดเปรี้ยวต่ำ มีเอกลักษณ์ที่ความสะอาด รสชาตินุ่มนวล บอดี้หนักแน่น และรสชาติที่ผสมสานกันอย่างลงตัว ระหว่างน้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง ผลไม้ และช็อกโกแลตนม
ภูมิภาค Kona ฮาวาย สถานที่ที่คอกาแฟหลายคนคงจะคุ้นหูกันดี เพราะชื่อนี้คือสถานที่ปลูกกาแฟคุณภาพ ที่เป็นหนึ่งในกาแฟที่หายากที่สุดในโลก อย่าง Kona Coffee กาแฟที่มีกรดเปรี้ยวต่ำ มีเอกลักษณ์ที่ความสะอาด บอดี้หนักแน่น และรสชาติที่ผสมสานกันอย่างลงตัวระหว่างน้ำผึ้ง น้ำตาลทรายแดง ผลไม้ และช็อกโกแลตนม ความสมดุลของรสชาติที่ค้างอยู่ในคอ และกลิ่นที่หอมหวาน คือประสบการณ์สุดพิเศษที่กาแฟ Kona มอบให้กับทุกคนที่ได้มาลิ้มลอง จนเป็นที่ถูกอกถูกใจคอกาแฟไปทั่วโลก
ความพิเศษของกาแฟ Kona มาจากทำเลในการปลูกที่เหมาะสม โดยไร่กาแฟ Kona Coffee Belt ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟ Hualalai และภูเขาไฟ Mauna Loa ในเขตภาคเหนือและภาคใต้ของฮาวาย
ความพิเศษของกาแฟ Kona มาจากทำเลในการปลูกที่เหมาะสม โดยไร่กาแฟ Kona Coffee Belt ตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟ Hualalai และ ภูเขาไฟ Mauna Loa ในเขตภาคเหนือและภาคใต้ของฮาวาย ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ เป็นพื้นที่ที่มีดินอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วย ไนเตรต ฟอสเฟต เหล็ก และแมงกานีส ที่สามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชให้แข็งแรงได้ ดินภูเขาไฟเหล่านี้มีประโยชน์ต่อเมล็ดกาแฟ Kona มาก
เนื่องจากเป็นดินที่เกิดจากการปะทุขึ้นมาจากส่วนลึกภายในพื้นโลก จึงเต็มไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่จำเป็นมากมาย นอกจากนี้ภูมิภาค Kona ยังเป็นสถานที่ที่มีแสงแดดยามเช้า และอากาศในตอนกลางคืนอบอุ่นสบายเนินเขาทางตะวันตกของ Kona มีเมฆปกคลุมทุกวัน จึงสามารถให้ร่มเงาเพียงพอต่อการปกป้องต้นกาแฟจากความร้อนของแสงแดดที่มากเกินไปได้ เมื่อรวมกับระดับความสูงที่มากถึง 3,000 ฟุตและความลาดเอียงที่พอดีของพื้นดินกาแฟ Kona จึงสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี และให้เมล็ดที่หอมหวาน และมีเอกลักษณ์ของแหล่งปลูกชัดเจน
นอกจากสถานที่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้กาแฟ Kona มีความพิเศษ คือการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลผลิต ฤดูเก็บเกี่ยวในฮาวายจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม โดยเมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว เกษตรกรก็จะดำเนินการอย่างพิถีพิถัน เมล็ดกาแฟทุกเมล็ดจะถูกเก็บด้วยมือ และใส่ลงในตะกร้า ก่อนจะมีการนำเข้าเครื่องเพื่อแยกเมล็ดกับเปลือกออกจากกัน จากนั้นคนงานจะนำเมล็ดกาแฟ Kona ไปล้างด้วยน้ำจืดอย่างระมัดระวังก่อนจะนำไปใส่ถังหมัก เพื่อหมักอย่างต่ำ 12 ชั่วโมง
จากนั้นจึงนำไปตากแห้ง และเข้าสู่กระบวนการสีและคั่วต่อไป เรียกว่ากระบวนการแปรรูปกาแฟในแต่ละขั้นตอนนั้นเต็มไปด้วยความเอาใจใส่ และผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้กลับมาคือกาแฟที่มีมาตรฐานตรงตามกระทรวงเกษตรแห่งรัฐฮาวาย และเป็นกาแฟคุณภาพสูง ที่คอกาแฟทั่วโลกจะต้องลิ้มลองให้ได้สักครั้ง
แหล่งข้อมูล : https://collectionsofwaikiki.com
Coffee Traveler เป็นนิตยสารรายสองเดือน
ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ
และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ
.
สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ :
IN BOX Facebook : Coffee Traveler
.
ช่องทางการติดตามอื่น ๆ
Youtube : Coffee Traveler
Instagram : coffeetraveler_magazine
Blockdit : I am Coffee Traveler / coffeetravelermag
Tiktok : coffee traveler mag
โฆษณา