18 เม.ย. เวลา 10:50 • ท่องเที่ยว

ประติมากรรมอัสซีเรียชิ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก : คีนิส

คีนิส เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองดูฮอก เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานประเทศอิรัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์ดินแดนอัสซีเรียเมื่อ 2,700 ปีก่อน จึงทำให้คีนิสกลายเป็นหมู่บ้านที่มีร่องรอยอารยธรรมเกี่ยวกับดินแดนและชาวอัสซีเรียอันทรงคุณค่าที่เหลือเพียงไม่กี่แห่งบนโลกใบนี้
รูปภาพที่คาดว่าเป็นรูปดั้งเดิมของภาพประติมากรรมดังกล่าว
หากย้อนกลับไปในช่วงการขุดค้นสถานที่แห่งนี้แรกๆ ทีมงานนักวิจัยชาวอิตาลีได้ขุดพบหลักฐานที่บอกว่า กษัตริย์คนสำคัญของดินแดนอัสซีเรีย อย่าง ‘กษัตริย์เซนนาเคอริบ’ เคยมาอยู่ที่นี่ในช่วงฤดูร้อน ซึ่งต้องขอเกริ่นก่อนว่าชาวอัสซีเรีย เป็นกลุ่มชาติพันธุ์พื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดในเมโสโปเตเมีย
ซึ่งดินแดนชนพื้นเมืองของบรรพบุรุษที่ก่อตัวเป็นบ้านเกิดของชาวอัสซีเรียนั้นเคยเป็นดินแดนของเมโสโปเตเมียโบราณ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ปัจจุบันถูกแบ่งแยกออกเป็นระหว่างอิรักในปัจจุบัน ตุรกีตะวันออกเฉียงใต้ อิหร่านตะวันตกเฉียงเหนือ และซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือ
โดยหากตั้งคำถามถึงว่าทำไมกษัตริย์เซนนาเคอริบถึงมาเลือกอยู่ที่นี่เพื่อหาน้ำใช้ นักวิจัยได้ทำการเปรียบเทียบพื้นที่ในบริเวณส่วนอื่นของอิรัก พบว่าเคอร์ดิสถานถือว่าเป็นพื้นที่อุดมไปทรัพยากรน้ำมากที่สุด จึงสรุปถึงการมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ได้ว่าทำไมเซนนาเคอริบถึงใช้ที่นี่เป็นแหล่งน้ำใช้สำหรับเมืองหลวงนีนะเวห์ของดินแดนอัสซีเรียในอดีต
หลังจากที่เซนนาเคอริบเข้ามาอยู่ที่พื้นที่นี้ ก็ได้มีการสร้างสิ่งก่อสร้างมากมายที่ถูกแกะสลักจากหิน เช่น ห้องสำหรับสงฆ์ สุสาน และที่สำคัญ…ได้มีการสร้างระบบคลอง หรือ ระบบชลประทาน เพื่อนำน้ำจากแม่น้ำโกเมลไปสู่เมืองหลวงนีนะเวห์ และเพื่อสร้างภูมิทัศน์ธรรมชาติที่สวยงามให้แก่เมืองตามความต้องการของกษัตริย์
พอเมื่อขุดคูคลองเสร็จสิ้น กษัตริย์ก็ได้สั่งให้แกะสลักหินที่จุดเริ่มต้นของคลอง เพื่อเฉลิมฉลองถึงความสำเร็จในการขุดคลองเส้นนี้ อันเป็นคลองเส้นสำคัญที่คอยช่วยหล่อเลี้ยงเมืองทั้งในด้านเกษตรกรรมและระบบเศรษฐกิจ โดยรูปปั้นนี้มีชื่อว่า “Great Relief” เป็นภาพประติมากรรมนูนที่สร้างขึ้นโดยชาวอัสซีเรียที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ในภาพนี้จะประกอบด้วยภาพเทพเจ้าที่ชาวอัสซีเรียนับถือ นามว่า ‘อาซูร์และภรรยา’ ส่วนข้างเทพเจ้าทั้งสองด้าน คือ กษัตริย์ ปัจจุบันภาพประติมากรรมก็โดนฝน ลม แดด กัดกร่อนไปบ้างทำให้ไม่สามารถเห็นรายละเอียดที่ครบถ้วนของภาพได้ทั้งหมดนั่นเอง
โดยนอกจากนี้ นักวิจัยยังขุดพบหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญอีกอย่าง ได้แก่ “อักษรรูปลิ่ม” ซึ่งเป็นอักษรที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก และมีระบบการเขียนที่มีความหลากหลายมาก โดยในหมู่บ้านคีนิสก็ได้มีการค้นพบคำจารึกที่เขียนเป็นอักษรรูปลิ่มจำนวน 64 บรรทัด แบ่งเป็นสามย่อหน้า เขียนขึ้นโดยกษัตริย์เซนนาเคอริบ
ย่อหน้าแรก: เล่าถึงเทพเจ้าของดินแดนอัสซีเรียและพลังของเทพเจ้าที่ปกป้องดินแดน ย่อหน้าสอง: เล่าถึงความสำคัญของโครงการขุดคลองในคีนิส ย่อหน้าสาม: เล่าถึงเรื่องราวการต่อสู้กับชาวบาบิโลนที่นำโดยเอซาร์ฮัดโดน ลูกชายของกษัตริย์เซนนาเคอริบ
ด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ถูกค้นพบในคีนิสล้วนเป็นหลักฐานที่สำคัญระดับโลก อย่างภาพประติมากรรมหินนูนของชาวอัสซีเรียก็เป็นเพียงชิ้นเดียวในโลกที่มีความใหญ่ขนาดนี้ ส่วนอักษรรูปลิ่มก็เป็นอักษรโบราณที่หาพบได้ยากเพราะมีความเก่าแก่สุดๆ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้มันจึงทำให้คีนิส เป็นพื้นที่จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเมื่อมาเยือนเคอร์ดิสถาน เพื่อเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมโบราณอันเป็นอารายธรรมระดับโลก
ดูภาพอักษรรูปลิ่มและบรรยากาศหมู่บ้านคีนิสในคอมเมนต์
#TWCTravel #TWCKurdistan
#TWCgade
โฆษณา