19 เม.ย. เวลา 13:51

ในช่วงสงครามหรือวิกฤตระหว่างสองประเทศ

สายการบินต้องวางแผนให้อากาศยานเลี่ยงเส้นทางการบินและการจราจรทางอากาศในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงหรือพื้นที่ห้ามบินอย่างระมัดระวัง
ต่อไปนี้คือแนวปฏิบัติทั่วไปของสายการบินครับ:
1. หลีกเลี่ยงเส้นทางการบินเหนือพื้นที่สงคราม
,ขัดแย้ง: สายการบินจะเปลี่ยนเส้นทางบินเพื่อหลบเลี่ยงอย่างสิ้นเชิงจากการบินเหนือประเทศที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้ง ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการปฏิบัติการทางทหาร อาวุธต่อต้านอากาศยาน หรืออุปสรรคทางอากาศอื่นๆ
2. ใช้เส้นทางบินทางเลือก: alternative airways เมื่อบางพื้นที่ถูกปิดกั้น สายการบินจะปรับแผนการบินเพื่อใช้ช่องทางอากาศและเส้นทางเลี่ยงพื้นที่ขัดแย้งที่กำหนดไว้ล่วงหน้าอย่างปลอดภัย ซึ่งอาจส่งผลให้เวลาบินนานขึ้นและต้นทุนค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น
แต่คุ้มค่ากับความปลอดภัยครับ
3. ข้อจำกัดเรื่องระดับความสูง: แม้จะไม่ได้บินผ่านพื้นที่ขัดแย้งโดยตรง แต่อาจมีข้อจำกัดในการบินบนหรือใกล้กับพื้นที่เหล่านั้นด้วยเหตุผลทางการทหาร
4. การแจ้งเตือนจากรัฐบาล: สายการบินติดตามการแจ้งเตือนจากรัฐบาลเกี่ยวกับข้อจำกัดหรือการห้ามบินชั่วคราวในพื้นที่เกี่ยวกับความขัดแย้ง และปรับการดำเนินการตามนั้น
5. เพิ่มมาตรการด้านความปลอดภัย: โดยทั่วไปจะมีการตรวจสอบและตรวจค้นความปลอดภัยเพิ่มขึ้นสำหรับเที่ยวบินที่ปฏิบัติการผ่านหรือใกล้พื้นที่ขัดแย้งหรือสงคราม
เป้าหมายสูงสุดคือการหลีกเลี่ยงการบินผ่านพื้นที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง และปฏิบัติตามคำแนะนำของงานควบคุมการจราจรทางอากาศและเส้นทางอากาศทางเลือกที่กำหนดไว้
เพื่อให้การดำเนินการบินพลเรือนอยู่ห่างจากอันตรายที่อาจเกิดขึ้น แม้การเปลี่ยนเส้นทางจะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแต่ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดครับ
กัปตันหมี
โฆษณา