19 เม.ย. เวลา 20:14 • ข่าว

KNU ยืนยันยึดเมียวดีไว้หมดแล้ว ด้านทหารเมียนมาจ่อหนีตายเข้าชายแดนไทย

พะโด ซอ ตอ นี โฆษกสหภาพกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นยู (Karen National Union-KNU) ยืนยันกับบีบีซีไทยว่า กองกำลังผสมของฝ่ายต่อต้านสามารถยึดเมืองเมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ได้ตั้งแต่เวลา 22.00 น. เมื่อคืนวานนี้ (10 เม.ย.) รวมถึงค่ายผาซองที่มั่นสุดท้ายของกองทัพเมียนมาในเมืองเมียวดี
กองกำลังฝ่ายต่อต้านที่เข้ายึดค่ายผาซองประกอบด้วย กองทัพปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นแอลเอ (Karen National Liberation Army – KNLA) ซึ่งเป็นปีกทหารของ KNU และองค์การป้องกันชาติกะเหรี่ยงหรือเคเอ็นดีโอ (Karen National Defense Organization – KNDO) กองกำลังพิทักษ์ประชาชนหรือพีดีเอฟ (People’s Defense Force – PDF) ปีกทหารของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือเอ็นยูจี (National Unity Government - NUG) ซึ่งเป็นรัฐบาลพลัดถิ่น หลังจากถูกรัฐประหารโดยพลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย
ค่ายผาซองเป็นฐานที่มั่นที่ใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดของกองทัพเมียนมา และเป็นที่ตั้งของกองพันทหารราบที่ 275 กองพันปืนใหญ่ 310 และกองพลทหารราบเบาที่ 44 โดยค่ายแห่งนี้อยู่ห่างจากสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ตรงข้ามบ้านริมเมย ต.บ้านท่าสายลวด อ.แม่สอด ประมาณ 2 กิโลเมตร และมีกำลังพลรวมกันประมาณ 500 นาย
นายสมจิต รุ่งจำรัสรัศมี ผู้สื่อข่าวพิเศษของบีบีซีไทย รายงานว่า กองกำลังฝ่ายต่อต้านเข้ากดดันและเปิดฉากโจมตีทหารเมียนมาภายในค่ายผาซองหลังจากการเจรจาไม่ได้ผล โดยใช้ทั้งอาวุธหนักปืน ค.60 และอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน ตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 9 เม.ย. เป็นต้นมา
กำลังพลของกองทัพเมียนมาถอยร่นมาอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 แต่ยังไม่สามารถข้ามมายังชายแดนไทยได้ เนื่องจากทางการเมียนมาสั่งปิดชายแดนบริเวณนี้แล้ว
ก่อนหน้านี้ ทางแผนกภาษาพม่า ได้ข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสภาทหารของเมียนมาว่า ทางกองทัพเมียนมาพยายามปกป้องค่ายผาซองอย่างสุดความสามารถ ด้วยการส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดบริเวณรอบ ๆ ค่าย เพื่อตัดกำลังกองกำลังฝ่ายต่อต้าน รวมถึงพยายามส่งกำลังรบภาคพื้นดินเข้าไปสนับสนุน แต่สุดท้ายแล้วกองกำลังฝ่ายต่อต้านก็สามารถเข้ายึดค่ายผาซองไว้ได้ รวมถึงตัวเมืองเมียวดีทั้งหมด
“ผมขอยืนยันว่ากองกำลังของเราเข้ายึดครองตัวเมืองเมียวดีทั้งหมดแล้ว ตั้งแต่เวลา 4 ทุ่มเมื่อคืนนี้” โฆษกของ KNU กล่าว
เขายังให้ข้อมูลว่า กองพลทหารราบเบาที่ 44 ของกองทัพเมียนมาซึ่งตั้งอยู่ในค่ายผาซองได้ถอนกำลังและถอยร่นไปอยู่แนวชายแดนไทย-เมียนมา บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 ซึ่งเป็นพื้นที่ของพันเอกชิต ตุ ผู้นำกองทัพแห่งชาติกระเหรี่ยงหรือเคเอ็นเอ (Karen National Army) หรืออดีตกองกำลังพิทักษ์ชายแดนกะเหรี่ยงที่เคยเรียกกันในชื่อว่ากะเหรี่ยงบีจีเอฟ (Karen Border Guard Force – Karen BGF) ผู้แปรพักตร์ไม่ขึ้นกับกองทัพเมียนมาเมื่อหลายเดือนก่อน
“ผมไม่รู้ว่าทหารเมียนมาอยู่ในการควบคุม [ของพันเอกชิต ตุ] หรือพยายามข้ามชายแดนไปยังประเทศไทยหรือไม่ แต่ผมทราบเพียงว่าทั้งหมดถอยร่นตั้งแต่เมื่อคืนและย้ายไปยังสะพาน 2” พะโด ซอ ตอ นี บอกกับบีบีซีไทย
เมื่อเวลา 11.47 น. วันนี้ แถลงการณ์ของ KNU ระบุว่า กำลังพลของเมียนมาที่อยู่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 มีแผนข้ามไปยังชายแดนไทย แต่ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากทางการเมียนมาสั่งปิดชายแดนบริเวณสะพานแห่งที่ 2 แล้ว
ขณะที่ทหารไทยตรึงกำลังบริเวณชายแดนริมฝั่งแม่น้ำเมย ใต้สะพานแห่งที่ 2 อยู่ในขณะนี้ จากรายงานล่าสุดของสำนักข่าวไทยพีบีเอส ศูนย์ข่าวภาคเหนือ
ภาพกลุ่มควันหลังกองทัพเมียนมาโจมตีทางอากาศเมื่อเวลาช่วงสายวันนี้ (11 เม.ย.) บริเวณรอบ ๆ ค่ายผาซอง
ทางบีบีซีแผนกภาษาเมียนมาทราบว่า มีกำลังพลประมาณ 200 นายที่ถอยร่นไปอยู่ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และทางกองทัพเมียนมายังคงส่งเครื่องบินมาทิ้งระเบิดบริเวณค่ายผาซองเมื่อเวลาประมาณ 10.00 วันนี้ (11 เม.ย.) ถึงแม้ว่าฐานที่มั่นตกอยู่ในมือของกองกำลังฝ่ายต่อต้านแล้วก็ตาม
เนื่องจากค่ายผาซองอยู่นอกเมืองตัวเมียวดี ทำให้สถานการณ์ภายในตัวเมืองเมียวดียังปกติ ถึงแม้ได้ยินเสียงปืนและระเบิดดังเป็นระยะ ๆ
ทาง KNU ยอมรับว่ากังวลความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่อย่างมาก และพยายามเตือนไม่ให้ประชาชนออกนอกตัวเมืองเมียวดี เพราะเสี่ยงได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างกองกำลังฝ่ายต่อต้านและกองทัพเมียนมาได้ โดยเฉพาะการโจมตีทางอากาศซึ่งเป็นยุทธวิธีหลักของกองทัพเมียนมาในขณะนี้
“มันเป็นธรรมชาติของ SAC (สภาบริหารแห่งรัฐเมียนมา) ที่มักจะทิ้งระเบิดทางอากาศเพื่อโต้กลับเมื่อกองทัพสูญเสียพื้นที่หรือฐานที่มั่น เราตระหนักในเรื่องนั้น” พะโด ซอ ตอ นี ระบุ
เมื่อบีบีซีไทยถามว่าทาง KNU มีทิศทางการบริหารเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าชายแดนขนาดใหญ่ของเมียนมาอย่างไร ทางโฆษก KNU ตอบว่า “เรามีแผนว่าจะนำเจ้าหน้าที่ของ KNU เข้ามาบริหารราชการแทนข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลทหาร” แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดมากไปกว่านี้
เช่นเดียวกัน พะโด ซอ ตอ นี ยังปฏิเสธให้ความเห็นกับบีบีซีไทยว่าพื้นที่ใดคือเป้าหมายต่อไปของกองกำลังฝ่ายต่อต้านในรัฐกะเหรี่ยง หลังจากยึดพื้นที่เมืองเมียวดีได้แล้ว โดยเขาตอบเพียงสั้น ๆ ว่า “ให้เป็นเรื่องยุทธวิธีของฝ่ายทหาร”
พลโทโซ วิน ผู้นำอันดับ 2 ของกองทัพเมียนมา
ก่อนหน้านี้ รศ.ดร.ดุลยภาค ปรีชารัชช ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพเมียนมา จากคณะศิลปศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ ให้สัมภาษณ์กับบีบีซีไทยว่า ยังเร็วไปที่จะบอกว่า รัฐบาลทหารสูญเสียพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงอย่างสมบูรณ์ และจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ต่อว่ากองพันของกองทัพเมียนมาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รัฐกะเหรี่ยงฝั่งตรงข้าม อ.อุ้มผาง และ อ.พบพระ จ.ตาก ลงไปนั้น จะยอมจำนนให้กับกองกำลังของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงจนหมดหรือไม่
“ยอมรับว่ากองทัพเมียนมาสูญเสียพื้นที่ควบคุมที่อยู่ทางตอนบนของรัฐกะเหรี่ยงไปมากแล้ว และกำลังส่งผลต่อศักยภาพปฏิบัติการทางทหารของกองทัพภาคตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีศูนย์บัญชาการอยู่ที่เมืองมะละแหม่ง รัฐมอญ ประกอบด้วยแม่ทัพภาคและศูนย์บัญชาการพิเศษ แต่ยังไม่ได้ส่งผลต่ออำนาจควบคุมหรือยุทธการรบของกองทัพพม่าในภาพรวม ต้องดูว่าแม่ทัพภาคที่ประจำอยู่มะละแหม่งจะแก้เกมอย่างไร หรือส่วนกลางจากกรุงเนปิดอว์จะส่งความสนับสนุนเช่นไร” ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพเมียนมาจาก ม.ธรรมศาสตร์ กล่าว
เมื่อวันที่ 9 เม.ย.สื่อของเมียนมาหลายสำนักรายงานตรงกันว่า พลโทโซ วิน ผู้นำอันดับ 2 ของกองทัพเมียนมา เดินทางมาประชุมที่ศูนย์บัญชาการในเมืองมะละแหม่ง เพื่อติดตามสถานการณ์การต่อสู้ในเมืองเมียวดี และถูกโจมตีด้วยโดรนติดอาวุธของหน่วย Alpha Bats ของฝ่ายต่อต้าน
ด้านสภาทหารปฏิเสธคำถามของบีบีซีแผนกภาษาพม่าเกี่ยวกับข่าวที่ระบุว่า มีผู้บาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากถูกโดรนโจมตี ขณะที่พลโทโซ วิน อยู่ที่กองบัญชาการทหารภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ในเมืองมะละแหม่ง พร้อมกับยืนยันว่าเป็นการโจมตีด้วยระเบิดเสียงใกล้กองบัญชาการทหาร ถึงแม้ว่าทางกองกำลังฝ่ายต่อต้านยืนยันว่าเป็นการโจมตีด้วยโดรนก็ตาม
โฆษณา