21 เม.ย. เวลา 01:49 • ไลฟ์สไตล์

ตัวตนกู มันมีอยู่จริง (ep4)

ปริศนาพระสูตร
? "ประตูเมืองพระนิพพานแคบหนักหนา ผมเส้นเดียวผ่าออกเป็นสามเสี้ยว เอาแต่เสี้ยวเดียวไปแยงเข้าประตูพระนิพพาน ก็ยังคับแคบเข้าไม่ได้"
สตีเฟน ฮอว์กิง บอกกับเราไว้ในหนังสือ ประวัติย่อของกาลเวลา ว่า..
? "หลุมดำที่มีขนาดหนึ่งล้านล้านของนิ้วหรือนิวเคลียสของอะตอม จะมีมวลเทียบเท่าภูเขาลูกใหญ่ๆหนึ่งลูก"
? "ถ้าเรานำมาไว้บนโลก มันจะดิ่งลงสู่ใจกลางโลกทันที"
ข้อมูลของผู้ตายแล้วฟื้นกับนักวิปัสสนากรรมฐาน เป็นสิ่งยืนยันถึงการมีตัวตนอยู่จริงของคำว่า “เรา” ในความหมายของพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า รูหนอนหลุมดำกับหลุมขาว
ข้อมูลนี้จึงทำให้เชื่อได้ว่า องค์ประกอบของความเป็นสิ่งมีชีวิตของเรา มันมีแหล่งพลังงานมีแสงสว่างในตัวเองเป็นองค์ประกอบหนึ่งของความเป็นสิ่งมีชีวิตของเรา มันมีอยู่จริงๆ
แล้วเราก็เรียกแหล่งพลังงานนั้นว่า ดวงจิตวิญญาณ
แต่ทำไมเราจึงไม่มีข้อมูลการค้นพบดวงจิตวิญญาณของตนเอง ไม่ว่าจะผ่าตัดคนเป็นจนทั่วร่างกาย หรือผ่าศพคนคนตายจนแหลกละเอียด เราก็ไม่มีข้อมูลการพบเห็นสิ่งที่ทำให้เราเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย
ทั้งๆที่มนุษย์เรามีความเชื่อเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่อดีตกาลอันยาวนานจนถึงปัจจุบัน แล้วมนุษย์เราก็คงยังมีความเชื่อและส่งต่อความเชื่อไปไม่มีที่สิ้นสุด
สิ่งที่ผมอ้างอิงมานี้หวังว่าจะทำให้ท่านผู้อ่านเข้าใจ กับความเป็นสิ่งมีชีวิตของๆตนเอง ว่าตัวตนอมตะไม่ตายของเรามันมีอยู่จริง เพราะมันยากแสนยากที่จะอธิบายถึงสิ่งที่ยังไม่มีการพิสูจน์ ว่ามันมีอยู่จริง
ปริศนาพระสูตร
? “เพราะจิตมีดวงเดียว เมื่อมีชีวิตอยู่ก็จิตดวงนี้ เมื่อตายไปแล้วก็จิตดวงนี้”
และสิ่งนั้นก็กำลังเฝ้ามองภาพนึกคิดอยู่ในหัวของตัวเอง
ผมเชื่อมั่นมาเสมอไม่ได้มีผมคนเดียวที่จับความรู้สึกถึงพลังงานเล็กๆประมาณเมล็ดถั่วเขียว ตรงบริเวณกึ่งกลางคิ้วของตนเองได้ เพราะมีหลายท่านสามารถกำหนดเคลื่อนย้ายไปมาบริเวณใบหน้าของตนเองได้
คราวนี้เราจะมาหาคำตอบของชีวิต อาการปวดๆตึงๆตรงกึ่งกลางคิ้วของเรามันคืออะไร ด้วยความหวังว่าทางวิทยาศาสตร์จะนำข้อมูลของผมนี้ไปพิจารณาเพื่อพิสูจน์หาความจริงให้ปรากฎ
ประตูพระนิพพานที่พระพุทธเจ้าแสดงมาโคตรเล็กมหาศาล จึงทำให้เกิดความสงสัยอะไรในความเป็นสิ่งมีชีวิตของเราจะผ่านประตูพระนิพพานไปได้
แต่ทางวิทยาศาสตร์ก็สามารถให้คำตอบได้ว่ามันมีอยู่จริง และเราสามารถผ่านไปได้จริงๆ นั้นก็คือ รูหนอนหลุมดำที่มีขนาดนิวเคลียสของอะตอม โคตรเล็กมหาศาล เช่นกัน
หลังปฎิสนธิภายในไข่ฟองเล็กๆจึงมีแหล่งพลังงานที่มีทั้งแรงดึงดูดและแรงดันมหาศาล ดึงดูดสารอาหารจากผู้เป็นแม่เข้ามาภายในไข่ แล้วผลักดันเซลล์ผลุดๆโผล่ๆเข้ามาภายในไข่ ดั่งลูกโป่งฟองอากาศขนาดใหญ่ถูกเป่าออกมาจากหลอดเล็กๆ ผลักดันไข่ให้พองตัวขยายตัวเติบใหญ่ขึ้นมา
ภายในหัวของเราจึงมีอุโมงค์รูหนอนอยู่จริง แต่ด้วยเพราะความไม่รู้และความเคยชินตั้งแต่เกิด เราจึงไม่รู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างภาพเหตุการณ์สองด้านของชีวิตที่มีความแตกต่างกันมากมายมหึมามหาศาล ระหว่างมองออกไปภายนอกตัวตนกับมองเข้าไปภายในตัวตน
ระบบสมองของเราจึงมีสองซีก ซีกหนึ่งจะทำหน้าที่แปรเปลี่ยนสัญญาณพลังงานจากมิติโลกปัจจุบัน แต่อีกซีกหนึ่งจะทำหน้าที่แปรเปลี่ยนสัญญาณพลังงานจากมิติคู่ขนาน นั้นก็คือ ตัวภาพนึกคิดจินตนาการที่มาจากภายในดวงจิตดวงเล็กๆตรงกึ่งกลางคิ้วของเรา
ฉะนั้น ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกสุขทุกข์ อารมณ์รัก โลภ โกรธ หลง สัมผัสทั้งห้าและภาพนึกคิดจินตนาการต่างๆ ที่เรากำลังสัมผัสอยู่นี้ ล้วนถูกสมองสองซีกแปรเปลี่ยนสัญญาณพลังงานมาแล้วทั้งสิ้น
หากเปรียบอุโมงค์รูหนอนที่เล็กมหาศาล เป็นดั่งกล้องตัวเล็กๆที่สอดเข้าไปภายในลำใส้
สมองก็เป็นดั่งจอทีวีขนาดใหญ่ที่มีระบบแปรเปลี่ยนสัญญาณพลังงานจากกล้องตัวเล็กๆ
จิตใจก็คือหมอ เฝ้ามองภาพจากจอทีวีขนาดใหญ่ที่ผ่านการแปรเปลี่ยนสัญญาณพลังงานมาแล้ว
ตลอดชีวิตของหมอหรือจิตใจ จะไม่มีโอกาสได้รู้ได้เห็นเลยว่า แหล่งที่มาของภาพนั้นมันมาจากไหน และรูปร่างหน้าตาของตัวกล้องนั้นมันเป็นอย่างไร มีขนาดเล็กใหญ่แค่ไหน และมีความยาวไกลมากมายมหาศาลเท่าไร
เพราะตลอดชีวิตของหมอหรือจิตใจ จะเห็นแต่ตัวภาพจากจอทีวีขนาดใหญ่เท่านั้น
ไม่อาจรู้และไม่อาจมองเห็นแหล่งที่มาของตัวภาพได้
แม้เมื่อตายไปแล้ว จิตใจก็ยังคงไม่รู้อยู่ดี
เช่นเดียวกับปัจจุบันที่เราเอาแต่มองภาพนึกคิดในหัวของตัวเอง
แต่เรากับไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับตัวภาพในหัวของตัวเอง
ความรู้สึกรับรู้ถึงเส้นด้ายขาด ดั่งหนังการ์ตูนเฮอร์คิวลิส ที่ชีวิตของเราเป็นเพียงแค่เส้นด้ายเส้นเล็กๆเท่านั้น กับความรู้สึกตกจากที่สูงมากๆ
เมื่อเอามาพิจารณากับข้อมูลยี่สิบกว่าเปอร์เซ็นต์ของผู้ตายแล้วฟื้น ที่มีจุดเริ่มต้นหลังความตายเห็นตัวเองมีมุมมองจากด้านบนลงล่าง จึงสอดคล้องกันพอดีทิศทาง
จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่า ชีวิตหลังความตายของเราจะมุ่งหน้าไปทิศทางไหน
โปรดติดตามตอนต่อไป..
!
โฆษณา