24 เม.ย. เวลา 05:33 • ธุรกิจ

ร้านค้าปลีก SME รับมืออย่างไรกับเงินดิจิตอล ในเมื่อขายได้เท่าไหร่ ถอนเงินไม่ได้!!

ต้องเอาเงินไปซื้อของมาขายต่อทั้งหมด!! ผมมีแนวทางออกดังนี้..
เนื่องจากนโยบายเงินดิจิตอลที่รัฐบาลกำลังทำให้เกิดขึ้นไตรมาส 4 ปีนี้ และมีเงื่อนไขสำหรับร้านค้าปลีก SME ว่า เงินที่ขายได้ (ในรอบแรก) จะไม่สามารถขึ้นเงินสดได้ จำเป็นต้องเอาเงินที่ขายได้ (ทั้งหมด) ไปซื้อของมาขายต่อ
ฟังเพลินๆ ก็ดูเหมือนจะดี คนขายของก็ต้องเอาเงินไปซื้อของมาขายต่อ มีเงินหมุนนิ!! แต่ความเป็นจริงไม่ใช่แบบนััน เพราะอะไร? เพราะคนทำธุรกิจจะรู้ดีว่ามันมีค่าใช้จ่ายที่นอกเหนือจากต้นทุนสินค้าอีกมากมาย บางกิจการอาจจะเยอะกว่าต้นทุนสินค้าด้วยซ้ำ ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจร้านอาหาร, ธุรกิจค้าปลีกต่างๆ ที่ต้องมีค่าเช่าร้าน ค่าพนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจิปาถะ ที่เงินดิจิตอลไม่สามารถนำมาจ่ายได้
และ พวกเค้าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายสิ่งเหล่านี้ เพราะเงินดิจิตอลทั้งหมดโดนบังคับให้เอาไปซื้อสินค้ามาขายต่อ 100% ถอนเป็นเงินสดไม่ได้ และ ร้านค้าปลีกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะร้านอาหารและค้าปลีกรายย่อย จะเป็นการรับเงินรอบแรก เกือบทั้งหมด ฉะนั้นข้อบังคับรอบสองถอนเงินได้ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าส่ง หรือ ธุรกิจค้าส่งนั้นเอง
ผมมีแนวทางในการแก้ปัญหาของร้านค้าปลีกมาให้ 4 แนวทาง สามารถเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ หลายๆ แนวทางพร้อมกันได้ ดังนี้..
1. รับเงินดิจิตอล ตามต้นทุนสินค้าที่ต้องซื้อเท่านั้น!!
ยกตัวอย่างเช่น สมมุติเราขายอาหาร ได้ยอดขาย 100,000 บาท ต่อเดือน และต้นทุนในการซื้อวัตถุดิบนั้นอยู่ที่ 40% = 40,000 บาท เราจะสามารถรับเงินดิจิตอลได้ 40,000 บาท เพราะเงินจำนวนนี้สามารถเอาไปซื้อสินค้ามาขายต่อได้เลย ส่วน 60,000 บาทรับเป็นเงินสด เพื่อใช้จ่ายค่าเช่า ค่าพนักงานต่างๆ ที่เงินดิจอตอลจ่ายไม่ได้
2. รับเงินดิจิตอลทั้งหมด + หาเงิน(กู้)สำรอง
ยกตัวอย่างเดิมเช่น ยอดขายร้านอาหารเรา 100,000 บาท รับเงินดิจิตอลเลย 100,000 บาท แต่เราจะรู้ทันทีว่าเราใช้เงินไปซื้อวัตุดิบ 40,000 บาทนะ ส่วนที่เหลืออีก 60,000 บาทที่เป็นค่าใช้จ่าย อาจจะต้องไปหาเงินช่องทางอื่นทาสำรองในการจ่ายเงินก้อนนี้ไป แต่แนวทางนี้มีข้อเสี่ยงนะคับ ข้อเสี่ยงอย่างไร ผมจะอธิบายให้ฟัง..
- สมมุติเดือนแรกคุณขายได้ 100,000 ใช้เงินดิจิตอลซื้อสินค้า 40,000 อีก 60,000 หาเงินมาสำรองจ่ายค่าต่างๆ
- เดือนที่สองทำเหมือนกัน ซื้อสินค้า 40,000 และ อีก 60,000 หาเงินสำรองจ่ายค่าต่างๆ
แค่ 2 เดือนนะครับ คุณจะมีเงินดิจิตอลในระบบ 120,000 บาทที่คุณต้องเอาไปซื้อของเท่านั้น และต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน!! (นับจากการออกนโยบายเงินดิจิตอลเดือนแรกด้วย)
ถ้าคุณรับเดือนที่ 3 และ 4 แบบนี้ สุดท้าย คุณจะได้เงินดิจิตอลในระบบถึง 240,000 บาท ซึ่งคุณจะโดนบังคับให้ไปซื้อสินค้ามาตุน 240,000 บาททันที ถ้าไม่อย่างนั้นเงินในระบบจะโดนตัด!! นี่แหละครับข้อเสียของแนวทางนี้ ฉะนั้นคิดดีๆ ถ้าจะรับเงินดิจิตอลทั้งหมด
3. ไม่รับเงินดิจิตอลเลย ยุ่งยากมาก
แจ้งลูกค้าประกาศไปตรงๆ เลยครับ ว่าทางร้านไม่สามารถรับเงินดิจิตอลได้ เนื่องด้วยนโยบายรัฐบาล ไม่สามารถถอนเงินสดได้ ต้องเอาเงินไปซื้อของเท่านั้น!! สั้นๆ ง่ายๆ อธิบายว่าทำไมถึงไม่รับให้ลูกค้าเข้าใจ เพราะถ้าเราติดว่าไม่รับอย่างเดียว ลูกค้าไม่เข้าใจก็จะไปร้านที่รับ แต่ถ้าอธิบายและลูกค้าเข้าใจสุดท้ายลูกค้าก็จะยังอยู่และอุดหนุนร้านเราครับ
โฆษณา