28 เม.ย. 2024 เวลา 06:10 • ความคิดเห็น
อ่านพระไตรปิฎก เป็นเรื่องราวที่ดี แต่มันก็พระไตรปิฎกฉบับหนึ่งที่อยู่ในเรือนกาย ที่ต้องอาศัยการปฏิบัติธรรมขึ้นมา พระอัครสาก. ท่านก็อาศัย กายปฏิบัติธรรมขึ้น ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงชีทางให้ ..สมัยต้นพุทธกาล เค้าสอนกันไม่กี่คำ ..แล้วก็ไปปฏิบัติธรรมขึ้น เค้าทำจริงจังจริงใจ ด้วยใจที่สะอาดสะอ้านบริสุทธิ์ .. ท่านบอกว่า ผิดกับสมัยนี้ ที่ต้องอธิบายกันยืดยาว
เมื่อให้เวลากายมาอยู่ในกิริยาของการปฏิบัติธรรม ธรรมนั้น .ต้องทำกายให้มาเป็นกายของผู้ที่มีธรรม สงบจากอารมณ์ต่างๆ กิเลสนิวรณ์ต่างๆ ต้องให้กายสงบ จิตสงบ นึกคิดอะไร ก็เป็นอารมณ์ นึกไปถึงเรื่องพระไตรปิฏกที่อ่านมา ก็ต้องวางไว้ก่อน รวบรวมกายวาจาใจ รวบรวมขันธ์ทั้งห้า วิญญาณทั้งหก ให้มาอยู่ในกระแสของธรรม.. ที่ต้องวางพระไตรปิฏกตำรับตำราไว้ก่อน เอากายเอาจิต มาอยู่ในรอยของผู้ที่ปฏิบัติ เจ้าชายสิทธัตถะ ที่มีเรื่องราวในพระไตรปิฏกมาให่เราได้อ่าน ..เรื่องของการประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องสำคัญ ..แล้วควรกระทำ .
เรื่องนี้ เราก็คงพอเห็นผู้ที่เล่าเรียนจนจบเปรียญธรรม เรียนจบก็แล้วก็สึก มามีครอบครัว ..มีภาระสร้างอารมณ์กรรมต่างๆมากมาย จิตมันก็จมอยู่กับโลก ..เป็นเพราะอะไร .มันมีให้ดูเป็นตัวอย่าง ส่วนเราอยู่ในฆราวาส เราก็อยู่กับกรรมเต็มตัว ใช้อารมณ์โลภโกรธหลงเป็นนิจสิน แต่เราก็แบ่งเวลามาปฏิบัติธรรมของเราไป ..สะสมกุศลบารมี ลดละอารมณ์ ไปเรื่อยให้จิตเราเบาบางจากอารมณ์กรรมตัวกระทำ
เมื่อลดละไปมากเข้า ก็จะมีสิ่งที่เรียกว่าบุญกุศลบารมี เกิดขึ้นมาหนุนนำกาย ให้กายมีบุญ จิตที่อาศัยกายบุญ ..กายก็สุข จิตก็เป็นสุข ..นั่นก็เกิดจาการปฏิบัติสร้างบุญกุศลขึ้นมา ด้วยตัวเราเอง พึ่งตัวเองพึ่งกายพ่อแม่สร้างบุญกุศลให้เกิดขึ้นจิตเรามีพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า เป็นที่พึ่งขิงจิตเรา ..
โฆษณา