Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Story Decoder
•
ติดตาม
1 พ.ค. 2024 เวลา 17:55 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
รีวิว Exhuma
หลุมซ่อนคำสาปร้ายกับการนำเสนอประวัติศาสตร์ชาติในแนวทางที่น่าตื่นตาตื่นใจ
(มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน)
เป็นการยากที่จะพูดถึง Exhuma โดยหลีกเลี่ยงการพูดถึงส่วนสำคัญของเนื้อเรื่อง เพราะไฮไลท์ที่ทำให้ภาพยนตร์เกาหลีเรื่องนี้กลายเป็นกระแสทั้งในเกาหลีและประเทศไทย มันคือส่วนที่ถูก “ซ่อน” ไว้ในครึ่งหลังของเรื่อง ซึ่งทำให้ Exhuma ไปไกลกว่าแค่เรื่องราวของการปราบผีตามขนบแบบดั้งเดิมหลายช่วงตัวนัก
ไอเดียสดใหม่ของผู้กำกับ จาง แจ-ฮยอน (Jang Jae-hyun) ที่เสิร์ฟมาให้กับผู้ชมนั้น ทำให้เราประจักษ์ได้ว่า วงการภาพยนตร์เกาหลีใต้ไม่เคยหยุดอยู่กับที่จริงๆ เช่นเดียวกันกับ Exhuma ที่มาในท่าทีของหนังเกี่ยวกับเหตุการณ์แปลกประหลาดเหนือธรรมชาติพร้อมกับ 4 ตัวละครหลัก นำโดยทีมคนทรงอย่าง ฮวาริม (Kim Go-eun) ผู้ทำพิธีคนทรงสาว และ บงกิล (Lee Do-hyun) คนทรงหนุ่มผู้ติดตาม ส่วนทีมขุดหลุมศพก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านฮวงจุ้ยและพิธีกรรมอย่าง ซังด็อก (Choi Min-sik) และสัปเหร่อ ยองกึน (Yu Hae-jin) เพื่อนร่วมงานรู้ใจ
ในครึ่งแรกของ Exhuma นำเสนอเรื่องราวของการถูกรังควานจากวิญญาณบรรพบุรุษของตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนช่วงที่ทำให้ผู้ชมได้ทำความรู้จักและคุ้นเคยกับความเชื่อของภูติผี วิญญาณ และพิธีกรรมต่าง ๆ ของเกาหลี ที่เกี่ยวของกับคนทรงและการฝังศพ (คล้ายๆ ตอนดูเรื่องสัปเหร่อ) ซึ่งถูกอธิบายผ่านตัวละครในเรื่องเป็นระยะ และเป็นการยืนพื้นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มองความเหนือธรรมชาติเหล่านี้เป็นศาสตร์ คือ มีหลักเกณฑ์ มีตัวตน มีวิธีรับมือ ไม่ใช่ประเภทที่มาๆ หายๆ หลอกหลอนแบบคาดเดาไม่ได้
นั่นจึงทำให้อารมณ์และโทนเรื่องของ Exhuma มาในแนวของความเขย่าขวัญจากจังหวะการเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าจะประเคนฉากจั้มสแคร์หรือสร้างอารมณ์หวาดผวา ไม่น่าไว้วางใจ แต่ถึงอย่างนั้นด้วยการเล่าเรื่องที่ภาพยนตร์เกาหลีส่วนใหญ่(และเรื่องนี้) ทำได้ลื่นไหลเป็นปกติอยู่แล้ว จึงทำให้ความสนุกของเรื่องไม่ได้ลดลงไปแม้จะไม่ได้เห็นผีตัวเป็นๆ โผล่มาเลยก็ตามที (อาจมีบ้างเล็กน้อย)
แต่ถ้ามีแค่นี้ Exhuma ก็คงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นจนกลายเป็นกระแสได้ขนาดนี้ ความน่าสนใจของเรื่องอยู่ตรงที่เมื่อทุกอย่างดูเหมือนจะคลี่คลายลง (ในคดีแรก) แต่แล้วกลับมีบางอย่างถูกซ่อนเอาไว้อีกชั้นหนึ่งในหลุมฝังศพเจ้าปัญหานี้ และตัวเรื่องก็พยายามบอกใบ้ผู้ชมอยู่เนืองๆ ว่า สิ่งที่เราเห็นตอนแรกไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุดที่ 4 ตัวละครของเราต้องพบเจอ แต่มันเป็นความน่ากลัวที่ไม่ควรไปแตะต้องตั้งแต่แรกอย่างที่พวกเขาพูดกันไว้จริงๆ
ผู้ที่ได้ชมคงจะทราบกันดีว่าสิ่งที่ว่านี้คืออะไร แต่ความเหนือชั้นของผู้กำกับ จาง แจ-ฮยอน อยู่ตรงที่เขาสามารถเชื่อมโยงเอาประวัติศาสตร์ชาติและความแฟนตาซีเหนือจินตนาการ (คงไม่มีใครจะบอกว่าสิ่งที่ปรากฏในเรื่องเคยเกิดขึ้นจริง) เข้าไว้ด้วยกันกลายเป็นว่า จากที่ Exhuma จะกลายเป็นภาพยนตร์ปราบผีธรรมดาๆ
เมื่อสิ่งนี้ถูกถ่ายทอดมามันทำให้หลังจากดูจบ ผู้ชมหลายคนอาจจะต้องมีการไปค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันมีการเล่าถึงประวัติศาสตร์ชาติ (เกาหลี-ญี่ปุ่น) ไว้อย่างเข้มข้น จนหากได้รู้ข้อมูลเพิ่มเติม ความสนุกในเรื่องก็จะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว (เชื่อว่าหลายคนน่าจะสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องอยู่พอสมควร)
สิ่งที่น่าตื่นตาอีกอย่าง หนีไม่พ้นเรื่องราวของพิธีกรรมและความเชื่อที่ถูกถ่ายทอดออกมา แม้เราจะไม่สามารถบอกได้ว่า ส่วนไหนจริงมากจริงน้อยอย่างไร แต่ด้วยการเล่าเรื่องและงานสร้างที่ดูสมจริง มันก็ทำให้สิ่งที่ตัวละครพูดและกระทำในเรื่องดูน่าเชื่อถือตามไปด้วย หลักปฏิบัติและเคล็ดต่างๆ ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ชาวเกาหลียึดถือเป็นธรรมเนียมจริงๆ ด้วยซ้ำ
เช่น การไม่เผาศพในวันฝนตก การเคารพหลุมศพบรรพบุรุษ หลักฮวงจุ้ย ความเชื่อเรื่องธาตุ เหล่านี้มันมีความเชื่อมโยงกับความเป็นจริงอย่างแนบแน่น จึงไม่แปลกที่แม้ Exhuma จะเป็นภาพยนตร์ออกไปทางกึ่งแฟนตาซีด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ดูหลุดโลกจนกลายเป็นการ์ตูนแนวๆ ผู้ใช้พลังวิเศษทำนองนั้น (แบบที่ Jujutsu Kaisen เป็น)
และที่ขาดไม่ได้กับพลังการแสดงของทั้ง 4 ตัวละครนำ ทั้งรุ่นเก๋าอย่าง ชเว มิน-ชิก ที่แทบจะเป็นตัวแบกหรือตัวความหวังของเรื่องที่ผู้ชมเอาใจช่วยพอๆ กับ รุ่นใหม่อย่าง คิม โก-อึน ที่นอกจากใบหน้าพราวเสน่ห์ของเธอแล้ว การแสดงของเธอก็ยังช่วยยกระดับความจริงจังของเรื่องได้ดีเลย ส่วน ยู แฮ-จิน และ อี โด-ฮยอน อยู่ในตำแหน่งที่เป็นตัวละครรองมากกว่า แต่ก็มีบทบาทที่น่าจดจำไม่น้อยเหมือนกัน
สรุป Exhuma กับฉากหน้าที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่สิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในครึ่งหลังของเรื่อง มันคือสิ่งที่เชื่อมโยงกับหน้าประวัติศาสตร์ของเกาหลี แต่ถูกนำเสนอออกมาในความเป็นแฟนตาซีเพื่อความบันเทิง แต่ก็แอบสัมผัสได้ถึงความเสียดสี ความเย้ยหยันและความรู้สึกของชาวเกาหลีต่อสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ภายใต้คุณภาพงานสร้างและนักแสดงคุณภาพ จึงทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีความโดดเด่นเหนือกว่าเรื่องอื่นๆ ในแนวเดียวกันอย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว
ภาพยนตร์
ศิลปะ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย