คำวิจารณ์ชุดแรกKingdom of the Planet of the Apes –ปฐมบทใหม่ที่ประทับใจ เป็น A New Hope ของพิภพวานร
หากนับเวลาบนโลกเราก็เป็นเวลา 7 ปี ที่เราไม่ได้หวนคืนสู่พิภพวานร หากแต่บนพิภพวานรนั้น กาลเวลากลับพัดผ่านไปถึงสามศตวรรษ และเรื่องราวก็พาเราไปสู่ตัวละครชุดใหม่และเรื่องราวที่พูดถึงผลกระทบของมรดกที่ซีซาร์ได้ทิ้งเอาไว้ เป็นปฐมกาลบทใหม่ของ “Kingdom of the Planet of the Apes” โดยผู้กำกับ ฯ อย่าง เวส บอล
แต่ถึงอย่างนั้น ก็คงต้องรอไปพิสูจน์เอง เมื่อ “Kingdom of the Planet of the Apes” เข้าฉายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2024 นี้ สามารถอ่านบทวิจารณ์ทั้งหมดได้ ด้านล่างนี้ครับ
เดเนียล ฮอวัต จาก Next Best Picture : “Kingdom of the Planet of the Apes” เป็นภาคที่คู่ควรกับการสืบทอดบัลลังก์ อีกทั้งยังเป็นก้าวกระโดดที่กล้าหาญไปสู่อนาคตของพิภพนี้ ที่ทำให้ผมสนใจแทบในทันที เป็นการผจญภัยแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น แถมเผลอ ๆ จะมาพร้อมเรื่องราวที่ใหญ่โตกว่าภาคที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นธรรมชาติพอ ๆ กับห้วงอารมณ์อันสัตย์ซื่อ
แมตต์ เนกเลีย จาก Next Best Picture : เป็นวันที่ดีอะไรอย่างนี้! “Kingdom of the Planet of the Apes” เป็นอีกหนึ่งภาคอันแข็งแกร่งในแฟรนไชส์พิภพวานร โล่งใจและตื่นเต้นที่ผมรู้สึกสนุกกับมันมากขนาดไหน ถึงขั้นเปรียบเทียบกับไตรภาคก่อนที่แทบจะสมบูรณ์แบบ ผู้กำกับฯ เวส บอล ใช้เวลาอย่างชาญฉลาดในการสร้างสภาวะของพิภพนั้น ซึ่งเกิดขึ้นหลายชั่วอายุคนหลังจากหนังภาคก่อน
อีกทั้งยังสำรวจ ตัวตนของซีซาร์ ซึ่งถูกเทิดทูนราวตำนานแบบพระคริสต์ ซึ่งถูกเผยแพร่ทั้งในด้านดีและชั่วร้าย แถมยังแนะนำให้เรารู้จัก เหล่าตัวละครใหม่ที่ทำให้เรารู้สึกเอาใจช่วยขึ้นเรื่อย ๆ โอเว่น ทีก, เควิน ดูรานด์ และ ปีเตอร์ มาคอน ส่งมอบการแสดงอันน่าจดจำ เป็นหนังที่มีงานเทคนิคพิเศษด้านภาพอันน่าตื่นตะลึงและยอดเยี่ยม นับตั้งแต่ที่เราเคยเห็นจาก “Avatar: The Way of Water” แต่ไม่เคยเลื่อนลอยออกจากแก่นเนื้อหาทางอารมณ์ของหนัง
กริฟฟิน ชิลเลอร์ จาก The Playlist : วานรไม่เคยแข็งแกร่งเช่นนี้มาก่อน แต่กับพิภพวานรของผู้กำกับ ฯ เวส บอล อันยิ่งใหญ่อย่าง “Kingdom of the Planet of the Apes” นั้น มาพร้อมการสืบทอดมรดกอันซับซ้อนของซีซาร์ที่มโหฬารแต่บิดเบี้ยว ในมหากาพย์การเดินทางก้าวข้ามพ้นวัยของความจริงและคำลวง องค์ความรู้และอำนาจ ประดังมาด้วยเทคนิคด้านภาพที่น่าตื่นตา ถือเป็น “A New Hope” ของแฟรนไชส์วานร
เจอร์แมน หลุยส์เซียร์ จาก Slashfilm : “Kingdom of the Planet of the Apes” ทำให้มหากาพย์ของเหล่าวานรนั้นภาคภูมิใจ เป็นบทผจญภัยอันกว้างใหญ่ ที่มาพร้อมเอฟเฟคตระการตาและการแสดงที่น่าประทับใจ ตัวหนังมาพร้อมเรื่องราวหลายอย่าง ซึ่งทำให้ธีมเรื่องออกมาดูคลุมเครือ และส่วนตัวผมก็ไม่ได้ชอบตอนจบ แต่นั่นก็เป็นข้อบกพร่องเล็กน้อย สำหรับตัวหนังที่น่าดึงดูดและแสนบันเทิงเรื่องนี้
ดอเรียน พาร์คส จาก Geeks of Color : เป็นแฟนตัวยงของไตรภาคก่อนของพิภพวานร และผมสามารถพูดได้ว่า ผมชอบ “Kingdom of the Planet of the Apes” อย่างมาก เพราะหนังเรื่องนี้ช่วยตอกย้ำว่า นี่คือหนึ่งในแฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งสุดในตอนนี้ มันมาพร้อมบทและเหล่าตัวละครที่ขีดเขียนมาอย่างถี่ถ้วน
อีริค เดวิส จาก Fandango : วานรรวมกันแข็งแกร่ง และ “Kingdom of the Planet of the Apes” ก็เช่นกัน เป็นอีกภาคที่เข้มข้น น่าตื่นเต้น อีกทั้งยังน่าทึ่งด้วยฉากแอ็คชั่นและเทคนิคพิเศษด้านภาพที่ล้ำสมัย แก่นเนื้อหาของมัน ว่าด้วยเรื่องราวของครอบครัวและขนบธรรมเนียม แต่ภายใต้นั้น ก็ยังซ่อนเร้นซึ่งบางสิ่งที่ใหญ่โต แถมยังกำลังคุกรุ่นอยู่ภายใต้นั้น ชอบเลย
แบรนดอน เดวิส จาก ComicBook.com : “Kingdom of the Planet of the Apes” เป็นอีกหนึ่งหนังฟอร์มยักษ์คลาสสิคประจำฤดูร้อน อาจใช้เวลาสักพักไปกับการแนะนำตัวละครใหม่ เส้นเรื่อง แต่เรื่องราวก็รุดหน้าไปตลอดเวลา มาพร้อมเทคนิคพิเศษด้านภาพที่น่าอัศจรรย์ และการแสดงที่ยอดเยี่ยม ให้ความรู้สึกเป็นปฐมบทของมหากาพย์อันยิ่งใหญ่เรื่องใหม่ ต้องการภาคใหม่โดยเร็วที่สุด
ไมเคิล ลี จาก Geeks of Doom : “Kingdom of the Planet of the Apes” เป็นเรื่องราวการก้าวข้ามพ้นวัยอันงดงาม ตั้งกรอบอยู่รอบ ๆ ไอเดียของการสืบทอด กับสิ่งที่เกิดขึ้นหากมรดกเหล่านั้นสูญสลายไปตามกาลเวลา และถูกบ่อนทำลายโดยพวกฉ้อฉล มันอาจจะไม่ได้ก้าวข้ามมาตรฐานที่ แอนดี้ เซอร์กิส ทำไว้ในไตรภาคของเขา แต่ด้วยกลวิธีของเวส บอล พิสูจน์ว่า แฟรนไชส์นี้ยังมีเรื่องราวอีกมากที่ต้องเล่า แถมการแสดงของ เควิน ดูรานด์ ในบท พร็อกซิมัส ซีซาร์ ขโมยซีนสุด
เอมิลี เมอร์เรย์ จาก GamesRadar+ : ด้วยความที่ “Kingdom of the Planet of the Apes” ยังคงเป็นอีกภาคที่ยอดเยี่ยม ทำให้แฟรนไชส์นี้ยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่ามันอาจจะมีปัญหาเรื่องการเลี้ยงจังหวะเล่าเรื่อง (ยาวไปหน่อย) แต่ฉันเองก็ชอบที่จะหลงเข้าไปในพิภพนั้น รวมถึงการสำรวจซึ่งมรดกตกทอดของซีซาร์ซึ่งน่าตื่นตา ตอนจบจะทำให้คุณรู้สึกอยากดูหนังพิภพวานรมากกว่านี้อีก
รัส มิลไฮม์ จาก The Direct : “Kingdom of the Planet of the Apes” เป็นภาคเสริมอันอัศจรรย์ให้กับแฟรนไชส์ ถึงแม้มันจะมีจังหวะสะดุดอยู่บ้าง ในส่วนของการเล่าเรื่อง จนไม่อาจทำให้หนังกลายเป็นความน่าตื่นเต้นขั้นสุดได้ แต่งานเทคนิคพิเศษด้านภาพก็น่าเหลือเชื่อ และตัวละครก็ถูกรังสรรค์ออกมาอย่างงดงาม อดใจรอคอยถึงภาคหน้าแทบไม่ไหวแล้ว!
เอียน แซนด์เวลล์ จาก Digital Spy : “Kingdom of the Planet of the Apes” เป็นภาคต่อที่แข็งแรงของแฟรนไชส์ อาจจะใช้เวลาในการเล่าเรื่องเสียหน่อย แต่ก็ถูกปูไปยังองก์สองที่น่าหลงใหลและฉากจบที่น่าตื่นตา ตื่นเต้นที่จะเห็นว่าสิ่งนี้กำลังเดินทางไปในทิศทางไหน จากตอนจบที่น่าสนใจนั้น
โปรดิวเซอร์ สก็อตต์ แมนซ์ : ถ้าถามว่า มีสิ่งไหนที่ผมรักเท่า “Star Trek” หรือ เดอะ บีทเทิลส์ มันคือหนังพิภพวานร ทั้งหนังต้นฉบับและไตรภาคก่อนหน้าทั้งสามเรื่อง และผมก็ชอบ “Kingdom of the Planet of the Apes” มาก เป็นภาคต่อที่ยอดเยี่ยมและสนุกสนานของตำนานบทใหม่นี้
เควิน โพโลวีย์ จาก CBR : ผมชอบ “Kingdom of the Planet of the Apes” มาก แต่มันดีเทียบเท่าฉบับของแมตต์ รีฟ ไหม ผมไม่รู้เลยแต่มันก็วิเศษมาก ๆ เป็น “Apocalypto” ฉบับวานร ดั่งที่ เวส บอล รับปากไว้จริง ๆ ทั้งโลดโผนและเปี่ยมห้วงอารมณ์ พิภพวานรยังคงเป็นแฟรนไชส์เปี่ยมคุณภาพ และอาจไม่ได้เป็นแค่เพียงหนึ่งแฟรนไชส์ที่ยอดเยี่ยม แต่อาจเป็นแฟรนไชส์ที่ยอดเยี่ยมที่สุด ในตอนนี้ด้วยซ้ำ
เคทลิน ทีร์เรลล์ จาก Screen Rant : เวส บอล เป็นผู้กำกับ ฯ ที่เหมาะสมมาก ๆ ในการปลุกปั้น “Kingdom of the Planet of the Apes” ให้ขึ้นมามีชีวิต เป็นเรื่องราวแสนจับใจ พร้อมด้วยตัวละครแสนซับซ้อน งานภาพน่าตื่นตา รวมถึงบทสนทนาที่เอกอุและผูกพันเข้ากับหนังภาคก่อน ๆ โนอา, เม และ พร็อกซิมัส ซีซาร์ ล้วนมหัศจรรย์มาก ๆ
The Hollywood Handle : “Kingdom of the Planet of the Apes” ไม่ได้เป็นแค่ภาคต่อที่งดงามอย่างเหลือเชื่อเท่านั้น แต่ก็ยังเป็นการกลับมาที่ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์นี้ ตัวหนังสามารถถ่ายทอดซึ่งการสืบทอดมรดกของซีซาร์ ด้วยเรื่องราวที่น่าดึงดูด คณะนักแสดงที่น่าอัศจรรย์ และเวส บอล เป็นคนที่เหมาะสมจะมากุมบังเหียนและนำแฟรนไชส์นี้กลับมาจริง ๆ
“Kingdom of the Planet of the Apes” กำกับโดย เวส บอล (ไตรภาค “The Maze Runner”) จากบทที่เขียนโดย จอช ฟรีดแมน (“Avatar: The Way of Water”), ริค แจฟฟา และ อแมนดา ซิลเวอร์ (ไตรภาคพิภพวานรฉบับรีบูต Rise / Dawn / War) และ แพทริค ไอสัน (“Prey”)