Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Note to Self by Wilairat Aimaiem
•
ติดตาม
13 พ.ค. 2024 เวลา 13:28
เก็บตกจากรายการ “คิดระหว่างบรรทัด”
เมื่อเช้า ในรายการ คิดระหว่างบรรทัด FM 96.5 ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ หนึ่งในนักแปลรางวัลสุรินทราชาประจำปี 2567
คุยกันสนุกมาก เพราะไม่ได้คุยเฉพาะเรื่องการเขียนและการแปลอย่างเดียว (แอบบอกว่า อาจารย์น่าจะเป็นนักแปลที่มีดิกชันนารีมากที่สุดเท่าที่เคยรู้จักมา นั่นคือราวๆ 300 กว่าเล่ม!!) แต่ในช่วงแรกของรายการเราคุยกันเรื่องของการรื่นรมย์ชมเมฆกันด้วย เพราะในอีกบทบาทหนึ่ง อาจารย์ บัญชา ก็คือผู้ก่อตั้งชมรมคนรักมวลเมฆ ชมรมชื่อน่ารักๆ ที่ปีนี้ ครบรอบปีที่ 14 แล้ว กับสมาชิกในชมรมกว่าสี่แสนสี่หมื่นคน!!!!
ที่ต้องใส่เครื่องหมายตกใจเพราะตกใจจริงๆ
ฟังดูแล้วไม่น่าเชื่อที่ความรักความสนใจจากเรื่องเล็กๆ จะนำพาใครสักคนมาไกลได้ขนาดนี้
แต่ถ้าคิดดีๆ หลายเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ก็เริ่มต้นมาจากจุดเล็กๆ แบบนี้ทั้งนั้น อย่างอาจารย์ก็เริ่มก่อตั้ง ชมรมคนรักมวลเมฆ (ที่เริ่มต้นจากการสร้างบล็อกเล็กๆ ชื่อ ชายผู้หลงรักมวลเมฆ) ด้วยความรักและอยากสื่อสารเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ให้คนเข้าใจเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเฝ้าดูเมฆหรือปรากฏการณ์ธรรมชาติอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า เพราะมีแง่มุมความรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้พูดถึงได้ไม่รู้จบ
ที่สำคัญที่สุด อาจารย์บอกว่า “เรื่องบนฟ้าเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้าเพียงแต่หมั่นสังเกต หมั่นมองท้องฟ้าบ่อยๆ”
อาจารย์ยังบอกด้วยว่า การมองเห็นความสวยงามบนท้องฟ้า เห็นสายรุ้ง เห็นพระอาทิตย์ทรงกลด เห็นเมฆเป็นรูปร่างต่างๆ ถือเป็น “กำไรชีวิต” เพราะได้เห็นในสิ่งที่หลายคนไม่เห็น
อย่าลืมว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะหันไปมองในจังหวะนั้นได้พอดี ถ้าเราหมั่นสังเกตท้องฟ้าบ่อยๆ วันหนึ่งก็อาจเป็นเราที่ได้เห็นในสิ่งที่หลายๆ คนไม่เห็น เพราะทุกอย่างมีจังหวะเวลา ความพอเหมาะพอดี และเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ผ่านแล้ว ย่อมผ่านเลย เราไปกำหนดให้สิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เกิดขึ้นอีกครั้งเพื่อให้เราเห็นซ้ำอีกไม่ได้ เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ
ถ้ามีโอกาสหันไปมองท้องฟ้า ก็ลองใช้โอกาสนั้นมองหาสิ่งที่เป็นกำไรชีวิต มองความสวยงามที่ไม่ต้องเสียเงิน และยิ่งถ้าหลายๆ คนมองเห็นกันคนละมุม แล้วแชร์ภาพในมุมมองที่ต่างกัน นั่นละ ถือว่าเป็นความมหัศจรรย์ในวันธรรมดาได้เลย
ผ่านวันฝนตกหนัก สายรุ้งก็อาจจะปรากฎตัว เผลอๆ บางคนอาจมีโอกาสได้เห็นสายรุ้งแฝดสาม อย่างที่อาจารย์เล่าในรายการก็ได้ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เหมาะสม ดังนั้น ท้องฟ้าที่ขมุกขมัวมืดสลัวไปด้วยฝุ่น และทำให้เราหายใจได้ไม่เต็มปอดจึงเป็นการตัดโอกาสขั้นพื้นฐานของการมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงการได้มองเห็นความสวยงามตามธรรมชาติที่มนุษย์ควรได้มอง หากเขายังมีโอกาสได้มอง
ถ้าใครมีโอกาสได้มองท้องฟ้า แล้วไม่หันไปมอง ยังถือเป็นการเสียเฉพาะโอกาสของคนๆ นั้น แต่ถ้าเมื่อไหร่ ที่เราไม่มีโอกาสได้มองความสวยงามบนท้องฟ้า ทั้งๆ ที่ควรได้มอง แถมยังเป็นการเสียโอกาสเพราะฝีมือมนุษย์ด้วยกันเองด้วยแล้ว ก็ถือเป็นการเสียโอกาสที่น่าเสียดายที่สุดสำหรับทุกคน เพราะในวันที่อ่อนล้ามากๆ บางคนเขาก็แค่อยากแหงนมองท้องฟ้าเพื่อพักสายตา พักเหนื่อย หรือเพื่อมองหากำไรชีวิตเล็กๆ น้อยๆ บ้าง
อย่าให้เขาต้องรู้สึกว่า แค่นี้โลกก็ไม่เข้าข้างเขาเลย…
“เรื่องบนฟ้าเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็เข้าถึงได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ถ้าเพียงแต่หมั่นสังเกต หมั่นมองท้องฟ้าบ่อยๆ”
ใครสนใจฟังรายการเต็มๆ เข้าไปฟังตามได้เลย เอา link มาแปะให้แล้ว
https://www.youtube.com/live/yINkjWSbUfs?si=H0hPJDkDmBaDse8w
#ชมรมคนรักมวลเมฆ #คิดระหว่างบรรทัด #notetoselfbywa #วิไลรัตน์เอมเอี่ยม #บทความสร้างแรงบันดาลใจ
เรื่องเล่า
บทความ
พัฒนาตัวเอง
1 บันทึก
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย