17 พ.ค. เวลา 08:00 • ธุรกิจ

อวสานโลกน้ำเมา เมื่อคนปฏิเสธจะดื่มแอลกอฮอล์

[#FutureofLiving]: ถึงแม้ว่าเครื่องดื่มมึนเมาจะอยู่คู่สังคมมาอย่างยาวนานและสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจเรื่อยมา แต่ในยุคที่คนหันมาใส่ใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น แนวโน้มของผู้บริโภคที่จะดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์จจึงต่ำลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะในกลุ่มคน Gen Z
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมและผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มกำลังก้าวเข้าสู่ยุคแอลกอฮอล์ต่ำ (ไม่เกิน 0.5% ต่อปริมาตร) หรือไม่มีแอลกอฮอล์เลย (Alcohol-free Alternatives; No Low Drinks) เช่น เบียร์หรือไวน์ไร้แอลกอฮอล์ เหล้าสปิริตที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ม็อกเทล เครื่องดื่มที่มีแคลลอรีต่ำ เครื่องดื่มที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เป็นต้น
เป็นที่สังเกตว่าการเกิดขึ้นของเครื่องดื่มหรือสุราที่ไม่มีแอลกอฮอล์ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ตัดสินใจหยุดพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ลงได้ โดยเห็นได้อย่างชัดเจนตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 เมื่อทั้งวอดก้า จิน เตกีลา และเบอร์เบิ้นที่ไม่มีแอลกอฮอล์ได้ถูกจัดจำหน่ายและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย ยิ่งเมื่อพิจารณาร่วมกับพฤติกรรมของผู้บริโภคตั้งแต่ยุคโควิดเป็นต้นมา พบว่าในเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 มีการสั่งรายการเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้นถึง 333% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า
นอกจากนี้ยังมีรายงานการคาดากรยอดการสั่งซื้อเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในร้านอาหารและบาร์ในปี ค.ศ. 2022 ว่าจะเพิ่มสูงกว่าปี ค.ศ. 2021 ถึง 52% และมีการคาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในปี ค.ศ. 2022 จะมีขนาด 8.82 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐและพุ่งทะยานไปถึง 1.36 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยอัตราการเติบโตปีละ 5.6% ในระยะการคาดการณ์ปี ค.ศ. 2022 - 2030 โดยเฉพาะอย่างยิ่งไวน์ไร้แอลกอฮอล์ซึ่งคาดว่าจะเติบโตจนมีมูลค่าถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์าสหรัฐภายใน ค.ศ. 2031
ไม่เฉพาะแค่ผู้บริโภคเจเนอเรชัน Z เท่านั้นที่มีแนวโน้มปฏิเสธเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มมากขึ้น ผู้บริโภคทั่วโลกกว่า 58% เองก็กำลังตัดสินใจเลิกดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น กระแส Sober-curious Movement ในกลุ่มคนเจเนอรเรชัน Y ที่ถึงแม้ว่าจะยังดื่มแอลกอฮอล์อยู่บ้างแต่ก็มีความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจก่อนจะค่อย ๆ ลดละเลิกการดื่มแอลกอฮอล์
หรือกระแส Dry Together / Dry Month ในกลุ่มแม่บ้านวัยสี่สิบในช่วงโควิดซึ่งพบว่าตนเองสามารถอยู่ได้โดยไม่จำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เกิดเป็นชุมชนหรือกลุ่มสังคมของคนที่พยายามหาทางเลือกหรือเครื่องดื่มใหม่ ๆ เช่น น้ำผลไม้ หรือเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์แต่มีส่วนผสมของสารที่ช่วยจัดการความเครียดและการทำงานของสมองตามธรรมชาติแทน
โดยมีความเห็นหนึ่งกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการคำสั่งจากแพทย์มาบอกให้หยุดการดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตนเองอยู่ในวัยผู้ใหญ่แล้ว สิ่งที่พวกเขาต้องการคือแนวทางที่ดีกว่าการดื่มแอลกอฮอล์กับตัวช่วยที่จะทำให้พวกเขาไม่ต้องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า
นัยยะสำคัญที่มีต่ออนาคต:
- ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์เฉพาะบุคคลจะกลายเป็นของขวัญสำหรับการสร้างความสัมพันธ์หรือในโอกาสสำคัญในยุคอนาคต
- เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม หรือ DinkTech จะเกิดการแข่งขันและตื่นตัวอย่างสูงในอนาคตอันใกล้เมื่อการท่องเที่ยวและการเดินทางฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติภายในปี ค.ศ. 2024 โดยมีบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นผู้เล่นรายแรก ๆ ที่จะกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมและภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ว่าจะขับเคลื่อนไปในทิศทางใด
- นโยบายและการควบคุมการผลิตและซื้อขายเครื่องดื่มในแต่ละประเทศจะเป็นปัจจัสำคัญที่จะกำหนดภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องดื่มทั้งที่มีและไม่มีแอลกฮอล์
- รัฐบาลควรให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมและการผลิตอุตสาหกรรม No Low Drink และ Softdrink จากท้องถื่นเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและสร้างภาพลักษณ์ความเป็นแบรนด์ในระดับประเทศ
อ้างอิงจาก: Businessinsider, Dubaifuture, Champagneandgifts, Grandviewresearch, Foodingredientsfirst, Gallup, Jfsdigital
ติดตามอ่านฉบับเต็มได้จาก: https://www.futuretaleslab.com/articles/alcoholfreeworld
อยากรู้จักเรามากขึ้น คลิก www.futuretaleslab.com หรือติดตามที่ https://www.facebook.com/FutureTalesLABbyMQDC
#FutureTalesLAB #FuturePossible #FutureUpdate #FutureofLiving #AlcoholicFreeBeverages #NoLowDrinks #MQDC
โฆษณา