Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บอกให้รวย
•
ติดตาม
7 มิ.ย. 2024 เวลา 20:44 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ
เครื่องบิน แบบ B17
เครื่องบิน Boeing B-17 Flying Fortress มีขีดความสามารถที่สำคัญดังนี้
1. ความเร็วสูงสุด ประมาณ 287 ไมล์ต่อชั่วโมง (462 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
2. เพดานบินสูงสุด ประมาณ 35,600 ฟุต (10,850 เมตร)
3. ระยะทางบิน
- ปกติ: ประมาณ 2,000 ไมล์ (3,220 กิโลเมตร)
- เมื่อมีการเติมเชื้อเพลิงแบบภายนอก: สูงสุดประมาณ 3,750 ไมล์ (6,040 กิโลเมตร)
4. กำลังบรรทุกระเบิด สูงสุด 17,600 ปอนด์ (8,000 กิโลกรัม) แต่ปกติมักบรรทุกประมาณ 4,000-5,000 ปอนด์ (1,800-2,300 กิโลกรัม) ในการปฏิบัติภารกิจทิ้งระเบิดระยะไกล
5. เครื่องยนต์ ใช้เครื่องยนต์ Wright R-1820-97 Cyclone turbo-supercharged radial engines จำนวน 4 เครื่องยนต์ แต่ละเครื่องยนต์มีกำลัง 1,200 แรงม้า
6. การป้องกัน
- ติดตั้งปืนกล Browning M2 .50 caliber machine guns จำนวน 13 กระบอก กระจายอยู่ทั่วเครื่องบินเพื่อให้การป้องกันจากการโจมตีจากทุกทิศทาง
- มีตำแหน่งปืนต่างๆ เช่น ปืนด้านหน้า (nose), ด้านบน (top turret), ด้านหลัง (tail turret), ด้านล่าง (ball turret), และปีก (waist guns)
7. ลูกเรือ ปกติมีลูกเรือ 10 คน ประกอบด้วยนักบิน ผู้ช่วยนักบิน เครื่องวิทยุ นักบินนำร่อง เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ และนักยิงปืนประจำตำแหน่งต่างๆ
เครื่องบิน B-17 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ทนทานต่อการโจมตีและยังสามารถบินกลับฐานได้แม้จะได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้มันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องในด้านความแข็งแกร่งและความน่าเชื่อถือในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เครื่องบิน Boeing B-17 Flying Fortress ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในภารกิจทิ้งระเบิดระยะไกลในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยเฉพาะเพื่อโจมตีเป้าหมายในยุโรปและเอเชีย ซึ่งรวมถึงการโจมตีโรงงาน อู่เรือ และฐานทัพของศัตรู เครื่องบิน B-17 ถูกออกแบบมาเพื่อมีความทนทานสูง สามารถรับความเสียหายจากการโจมตีและยังคงทำภารกิจได้สำเร็จ เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของความแข็งแกร่งและความสามารถในการบินกลับฐานได้แม้จะถูกโจมตีอย่างหนัก
ภารกิจหลักของ B-17 ได้แก่
1. การทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ โจมตีเป้าหมายสำคัญเช่น โรงงานอุตสาหกรรม โครงสร้างพื้นฐาน และแหล่งผลิตของศัตรู เพื่อทำลายขีดความสามารถในการทำสงครามของศัตรู
2. การสนับสนุนภาคพื้นดิน โจมตีและทำลายเป้าหมายทางทหารเพื่อสนับสนุนการเคลื่อนทัพของกองทัพภาคพื้นดิน
3. การลาดตระเวนและถ่ายภาพทางอากาศ ใช้ในการถ่ายภาพและเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และวางแผนยุทธการ
ด้วยความสามารถในการบินระยะไกลและการบรรทุกระเบิดในปริมาณมาก ทำให้ B-17 เป็นหนึ่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีบทบาทสำคัญและมีชื่อเสียงมากที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เครื่องบิน Boeing B-17 Flying Fortress เมื่อเปรียบเทียบสมรรถนะ สามารถเทียบเคียงกับเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักอื่นๆ ที่ใช้งานในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ได้แก่:
1. Consolidated B-24 Liberator
- B-24 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักอีกแบบหนึ่งของสหรัฐฯ มีระยะทางบินไกลกว่าคล้ายกับ B-17 และมีความสามารถในการบรรทุกระเบิดที่มากเช่นกัน แต่มีความเร็วสูงกว่า
- B-24 มีขนาดใหญ่กว่าและมีกำลังการบรรทุกสูงกว่า แต่บางครั้งถือว่าไม่ทนทานเท่า B-17
2. Avro Lancaster
- เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักของอังกฤษที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีสมรรถนะในการบรรทุกระเบิดที่สูงมากและมีระยะทางบินที่ยาวนาน
- Lancaster มีความสามารถในการบรรทุกระเบิดที่หนักกว่า B-17 มาก แต่การป้องกันตัวเองจากการโจมตีของข้าศึกอาจจะไม่ดีเท่า B-17
3. Handley Page Halifax
- อีกหนึ่งเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักของอังกฤษที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีสมรรถนะที่ใกล้เคียงกับ Avro Lancaster แต่มีขนาดที่เล็กกว่าเล็กน้อย
- Halifax มีความทนทานและมีการใช้งานที่หลากหลาย แต่ยังคงไม่เทียบเท่ากับ B-17 ในด้านการป้องกันตัวเอง
4. Heinkel He 177 Greif
- เครื่องบินทิ้งระเบิดหนักของเยอรมนี มีสมรรถนะสูงในการบรรทุกระเบิดและมีระยะทางบินที่ยาวนาน
- He 177 มีปัญหาทางเทคนิคหลายประการและไม่ได้รับความนิยมเหมือน B-17 ในด้านความทนทานและความน่าเชื่อถือ
โดยรวมแล้ว B-17 เป็นที่รู้จักในด้านความทนทาน ความน่าเชื่อถือ และความสามารถในการทำภารกิจได้สำเร็จ แม้จะถูกโจมตีหนัก เครื่องบินรุ่นนี้ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีบทบาทสำคัญและได้รับการยกย่องมากที่สุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ขอขอบคุณภาพสวยๆ จากพี่ไพบูลย์ และ ข้อมูลดีจาก Chat GPT ครับ
ความรู้
เทคโนโลยี
ประวัติศาสตร์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย