Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เบื่อเมือง
•
ติดตาม
8 มิ.ย. 2024 เวลา 03:25 • ไลฟ์สไตล์
" อกาลิโก " ให้ผลไม่จำกัดกาล
“นิชฺชโร” แปลว่า ไม่รู้จักชรา
พระธรรม นั้น แก่ชราไม่เป็น
ไม่พ้นสมัย ไม่ล้าสมัย
ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา
ที่เรียกว่า“อกาลิโก”
“คนสมัยนี้
จะมีกิเลสและความเจริญก้าวหน้าเท่าไร
กรรมวิธีดับทุกข์ตามธรรมชาติแท้จริง
ก็ยังคงเดิม”
จาก พุทธทาสลิขิต ๒ ( หน้า ๔๗๖ )
ตอบคำถามที่ว่า...
ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสสอน
แก่คนสมัยพุทธกาลเกือบ ๒,๖๐๐ ปีมาแล้ว
จะนำมาใช้กับคนสมัยนี้ได้หรือ?
…. “พูดตรงๆก็ว่า พระพุทธเจ้านี้โดยเป็นบุคคลท่านเกิดในยุคในสมัยโน้น สองพันกว่าปีมาแล้ว…พระพุทธเจ้าไม่รู้จักไฟฟ้า ไม่มีไฟฟ้าใช้ ยังต้องใช้ไต้ใช้เทียน ใช้สิ่งธรรมดาสามัญที่สุดคือตะเกียงน้ำมันเนย ใช้กันเป็นประจําเหมือนกับเราใช้ไฟฟ้าเดี๋ยวนี้ เอาน้ำมันเนยมาใส่ไส้แล้วก็จุด ท่านรู้จักแต่อย่างนี้ แล้วจะเอาคําของท่านมาใช้กับคนในสมัยนี้ได้หรือไม่?
…. พระพุทธเจ้าไม่รู้จักเครื่องขยายเสียงอย่างที่เราพูดกันอยู่เดี๋ยวนี้ ท่านไม่เคยรู้จัก ไม่เคยมี ไม่เคยใช้, พระพุทธเจ้าไม่รู้จักรถยนต์ ไม่มีรถยนต์นั่ง และไม่รู้จักนะ, พระพุทธเจ้าไม่รู้จักเรือบิน ไม่เคยรู้จักเรือบิน, แล้วพระพุทธเจ้าไม่รู้จักยานอวกาศที่จะไปเที่ยวโลกพระจันทร์ก็ได้ แล้วคําสอนของบุคคลชนิดยุคนั้นจะมาใช้กับบุคคลชนิดยุคนี้ได้อย่างไร?
…. ถ้ามันเกิดคําถามอย่างนี้ขึ้นมา ท่านทั้งหลายจะตอบว่าอย่างไร? ว่าคนสมัยโน้นจะพูดจาถูกต้อง จนมาใช้กับคนสมัยนี้ได้หรือไม่ คิดดูให้ดี, ถ้าพูดกันภาษาเด็กๆ เด็กๆจะไม่เชื่อว่าพระพุทธเจ้าฉลาดกว่าคนยุคนี้ ที่ไปโลกพระจันทร์ก็ได้ ไปไหนก็ได้ เด็กๆจะไม่เชื่อ แล้วก็จะสงสัยว่า ที่พูดไว้สําหรับคนยุคโน้นสมัยโน้น จะเอามาใช้สําหรับคนสมัยนี้ได้อย่างไร?
…. ท่านทั้งหลายก็จงเข้าใจไว้ให้ดี เดี๋ยวก็จะเกิดสงสัยในพระรัตนตรัยขึ้นมา ถ้ามี “วิจิกิจฉา” (ลังเลสงสัย) อย่างนี้แล้ว ก็ไม่มีทาง ไม่มีทางที่จะบรรลุมรรคผล มีสักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส ไม่มีทางที่จะเป็นแม้แต่พระโสดาบัน ต้องรู้กันให้ดีๆ ว่าธรรมะที่สอนในยุคที่คนยังไม่รู้จักไฟฟ้าอย่างนี้ มาสอนคนในยุคนี้จะได้ไหม, จะตอบว่าอย่างไร?
“ความรู้ที่จําเป็น” ใช้ทุกยุคทุกสมัย
…. ท่านจึงต้องรู้จักว่า สิ่งที่เปลี่ยนแปลง มันเปลี่ยนแปลงก็เปลี่ยนแปลงไป แต่สิ่งที่ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลง มันก็ยังมีอยู่ สิ่งที่ไม่รู้จักเปลี่ยนแปลงก็คือ เรื่องทุกข์ กับ ความดับทุกข์ คือเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านพูดท่านตรัสนั่นแหละ ข้อนี้พูดกันหลายครั้งแล้ว ( ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ / ได้อ้างไว้เป็นหมายเหตุตอนท้าย ) ไม่ควรจะลืมเสียว่า พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ว่า “เดี๋ยวนี้ก็ดี แต่ก่อนโน้นก็ดี เราบัญญัติแต่ เรื่องทุกข์ กับ ดับทุกข์ สองเรื่องเท่านั้น” เรื่องอื่นไม่พูด
…. ทีนี้ มันก็มีความจริงในข้อที่ว่า เรื่อง ความทุกข์ กับ ความดับทุกข์ สําหรับมนุษย์นี้ มันยังไม่เปลี่ยนแปลง มนุษย์ครั้งพุทธกาล หรือว่าก่อนพุทธกาลนานไกลไปโน้น อีกเท่าไรๆก็อย่างเดียวกัน ก่อนพระพุทธเจ้า หรือสมัยพระพุทธเจ้า หลังสมัยพระพุทธเจ้า เรื่อง ความทุกข์ และ ความดับทุกข์ นี้มันไม่เปลี่ยนแปลง ; ความทุกข์ต้องเกิดมาจากกิเลส ซึ่งเกิดมาจากความเห็นแก่ตัว ความยึดมั่นถือมั่นทั้งนั้นเลย เพราะฉะนั้น เรื่องที่พูดไว้ดับทุกข์ได้จริงสําหรับสมัยโน้น จึงยังใช้ได้สําหรับสมัยนี้
…. พร้อมกันนั้น ท่านก็ควรได้เห็นได้รู้สึกเสียเลยว่า ความรู้ชนิดไหนประเสริฐ เป็นอนุตริยะ อันไหนเป็นอนุตริยะ ? ความรู้เรื่องไฟฟ้า เรื่องเหาะเหินเดินอากาศไปเที่ยวโลกพระจันทร์ได้เหมือนกับไปเที่ยวหลังบ้านอย่างนี้ ประเสริฐกี่มากน้อย แล้วความรู้ที่ พระพุทธเจ้าตรัส “ดับทุกข์ได้โดยสิ้นเชิง” นี้ อันไหนจะประเสริฐกว่ากัน, อันไหนควรจะเป็น “รัตนะ” คือเป็นสิ่งที่มีค่า นําความพอใจมาให้สูงสุด ความรู้ชนิดนั้นหรือความรู้ชนิดนี้ ? นี่เป็นสิ่งที่ต้องมองเห็นชัด
…. เรื่องของโลกนี้ ต่อไปข้างหน้ามันยังทําอะไรได้มากกว่านี้ ไปเที่ยวโลกพระจันทร์เป็นเรื่องเด็กเล่นไปแล้ว แต่แล้วมันก็ดับทุกข์ไม่ได้ ดับทุกข์ไม่ได้ มันอยู่ที่ตรงนี้ : แล้วมันก็จะเพิ่มปัญหา และเพิ่มความทุกข์เสียด้วยซ้ำไป อะไรที่ดับทุกข์ แล้วก็ตัดหนทางแห่งความทุกข์ ลดปัญหาเสียได้ นั่นแหละ! ประเสริฐ: ฉะนั้น เราจึงต้องทราบเรื่อง พระรัตนตรัย โดยเฉพาะพระพุทธเจ้า ไม่พ้นสมัย ไม่ล้าสมัย..”
พุทธทาสภิกขุ
ที่มา : ธรรมบรรยายประจำวันเสาร์ชุด “อตัมมยตา” หัวข้อเรื่อง “อตัมมยตากับพระรัตนตรัย” เมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๓๒ จากหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ เล่มชื่อว่า “อตัมมยตาปริทัสน์” หน้า ๒๔-๒๗
หมายเหตุ
พระพุทธองค์ตรัสกับพระอนุราธะ ว่าดังนี้...
… “อนุราธะ! ทั้งในกาลก่อน และในบัดนี้ เราย่อมบัญญัติ ทุกข์ และ ความดับทุกข์ เท่านั้น”
จาก อนุราธสูตร
พระไตรปิฎกภาษาไทย ( สงฺ.ข.๑๗/๘๗/๑๕๗ )
ในพระไตรปิฎก ทุติยโรหิตัสสสูตร พระพุทธองค์ตรัสไว้ ดังนี้...
…. “อนึ่ง เราบัญญัติโลก ความเกิดแห่งโลก ความดับแห่งโลก และ ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับแห่งโลก (อริยสัจ๔) ในร่างกายที่มีประมาณวาหนึ่ง มีสัญญา มีใจ นี้เอง.”
จาก ทุติยโรหิตัสสสูตร
พระไตรปิฎกภาษาไทย
องฺ. จตุกฺก. ๒๑/๔๖/๗๕
# ท. ส. ปัญญาวุฑโฒ – รวบรวม. #
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย