23 มิ.ย. 2024 เวลา 12:00 • ธุรกิจ

หน้าที่ของผม คือทำลายสถิติคุณพ่อ ‘ท็อป-วสุพล’ รุ่น 3 ‘เด็กสมบูรณ์’ พาซีอิ๊วไปไกลกว่าเครื่องปรุง

ถึงเวลาเด็กสมบูรณ์ออกนอกครัว! คุยกับ “ท็อป-วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์” ทายาทรุ่น 3 อาณาจักร “หยั่น หว่อ หยุ่น” ต่อยอดไอศกรีมซีอิ๊ว สู่ “ลูกอมซีอิ๊ว-อิ๊วโซดา” แง้ม ปีนี้ได้เห็นคาเฟ่ของหวาน-อาร์ตทอยเด็กสมบูรณ์ ทำมาแล้วทุกอย่างตั้งแต่เช็กสต๊อก-ส่งของร้านชำ ยึดคำสอนคุณปู่ เก่งไม่กลัว กลัวคนขยัน
77 ปี คือระยะเวลานับตั้งแต่วันแรกที่ตระกูล “ตั้งสมบัติวิสิทธิ์” เริ่มผลิตซีอิ๊วขาวขวดแรกจากวิชาความรู้ที่หอบหิ้วติดตัวมาจากเมืองจีน แม้จะไม่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรกแต่ก็ไม่เคยละความพยายาม กระทั่ง ปี 2525 ตลาดเครื่องปรุงรสไทยก็มี บริษัท หยั่น หว่อ หยุ่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด ถือกำเนิดขึ้น ภายใต้การปักธงรบของ “วิเชียร ตั้งสมบัติวิสิทธิ์” ผู้ก่อตั้งอาณาจักรพันล้าน “หยั่นหว่อหยุ่น” ที่มีรายได้และผลกำไรเติบโตขึ้นทุกปี
จากรุ่นแรกสู่การบริหารในอุ้งมือ “สมหวัง ตั้งสมบัติวิสิทธิ์’ ทายาทรุ่นที่ 2 และกำลังถูกส่งต่อการบริหารบางส่วนให้กับ “วสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์” ทายาทรุ่นที่ 3 ลูกชายคนโตของสมหวัง ปัจจุบันอายุ 26 ปี แม้จะจบปริญญาโทด้านการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยซานฟรานซิสโก (University of San Francisco) แต่ “วสุพล” บอกกับ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แท้จริงแล้วความฝันในวัยเด็กของเขา คือการเป็นนักร้อง และคนดูแลสวนสัตว์ หรือ Zoo Keeper
จนกระทั่งต้องเข้ามาเรียนรู้ธุรกิจครอบครัวอย่างลึกซึ้ง ทำให้ “วสุพล” เริ่มสนุก และความรักที่มีต่อแบรนด์ก็ค่อยๆ ก่อตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ภารกิจสำคัญของทายาท Gen Z คนนี้ ไม่ใช่การดื่มด่ำความสำเร็จที่บรรพบุรุษสร้างไว้ เขาต้องการทำให้เด็กสมบูรณ์เติบโตอย่างยั่งยืน เข้าไปทำความรู้จักกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อาจจะห่างไกลกับแบรนด์ ด้วยโปรดักต์ที่ไม่มีใครคาดคิดว่า เด็กสมบูรณ์จะทำได้
“ลองมาคิดดูว่า อะไรที่ชาตินี้เด็กสมบูรณ์จะไม่ทำเลย เราเลยลองทำออกมา”
ที่ผ่านมาเด็กสมบูรณ์ถูกจดจำในฐานะ “คนเบื้องหลัง” มาโดยตลอด วสุพลจึงคิดไอเดียฉีกกรอบใหม่ๆ ด้วยการโยนคำถามลงไปในวงประชุมว่า อะไรบ้างที่คนอื่นไม่คิดว่า เด็กสมบูรณ์จะทำออกมา เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราจึงเห็น “ไอศกรีมซีอิ๊วดำ” ซอฟต์เสิร์ฟสีขาวครีมเนื้อนวลออกมาทำความรู้จักกับผู้บริโภคในฐานะของหวาน ด้วยผลตอบรับในทางบวกที่เกิดขึ้น วสุพลจึงไม่รอช้า เปิดตัว “อิ๊วโซดา” ในปี 2566 และ “ลูกอมรสซีอิ๊ว” ในเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา
ตนมองว่า เด็กสมบูรณ์อยู่ในวงการอาหารมานานมาก ทำอย่างไรจะนำ “Core Product” อย่างเครื่องปรุงรสเข้าไปอยู่ในเซกเมนต์ขนมหวานล้อไปกับเทรนด์ที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน เพื่อเจาะกลุ่มเข้าถึงผู้บริโภคอายุน้อย ทำให้แบรนด์มีความเป็นวัยรุ่นมากขึ้น เพราะสิ่งที่กลัวมากที่สุด คือจะทำอย่างไรให้ธุรกิจที่อยู่มาเกือบ 80 ปี โตต่อในรุ่นตนเองได้อย่างยั่งยืน จึงเป็นที่มาของเมนูของหวานในรอบปีที่ผ่านมา
เราถามวสุพลต่อไปว่า ทุกครั้งที่ได้ไอเดียแปลกใหม่ได้มีการขอคำปรึกษากับคุณพ่อ หรือ “ป๊าสมหวัง” บ้างหรือไม่ เขาเล่าว่า คุณพ่อรู้พร้อมกับทุกคนบนโซเชียลมีเดีย ทุกครั้งจะเก็บเป็นความลับกับทีม ไม่มีใครรู้ เมื่อปิ๊งไอเดียก็โพสต์ลงบนเพจเฟซบุ๊กเลย จากนั้นก็คอยดูท่าทีของมหาชนว่า โปรดักต์นี้มีแนวโน้มเป็นอย่างไร หากฟีดแบ็กดีก็จะดำเนินการหลังบ้านเป็นขั้นตอนต่อไป
“เวลาคิดได้ไอเดียเราก็ลงโพสต์เพจไปเลย มีครั้งหนึ่งคุณพ่อก็บอก เฮ้ย _ึงทำอะไร เขาโทรมาหาเต็มเลย เราก็ตอบไปว่า อันนี้เป็นคอนเซปต์ไอเดีย เราทำทุกอย่างให้ถูกต้องแหละ แต่เราต้องการโชว์คอนเซปต์ไอเดียไปก่อน เพื่อฟัง Social Listening ว่า เป็นอย่างไร ควรจะทำหรือไม่ ลูกค้าให้ฟีดแบ็กเป็นอย่างไรบ้าง”
ส่วนเป้าหมายด้านยอดขายหรือการเติบโตในปีนี้ “วสุพล” ไม่ได้มีตัวเลขในใจอย่างชัดแจ้ง มีเพียงเป้าหมายกลมๆ จากสิ่งที่คุณพ่อเคยทำได้ดี หน้าที่ของตน คือทำให้ดีกว่า “Break the record” ให้ได้ทุกปี อยากทำลายสถิติว่า เราเจ๋งกว่าคุณพ่อ ซึ่งในปีนี้โปรเจกต์สนุกๆ จากทีมการตลาดของวสุพลยังมีแผนหยิบจับโลโกเด็กสมบูรณ์มาต่อยอดในรูปแบบอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งการปรับโลโก้ให้มีความเด็กลง นำไปจับกับแก้วน้ำ เสื้อผ้าแฟชั่น และเร็วๆ นี้ จะมีโมเดลอาร์ตทอยเด็กสมบูรณ์ออกมาด้วย
1
โฆษณา