A Haunting in Venice
“การโยงคดีฆาตรกรรมเข้ากับเรื่องสยองขวัญจะทำให้หนังสิ้นมนตร์ขลังของการสืบสวนไปในทันที...”
เปิดเรื่องมาเป็นเทศกาลฮาโลวีนที่เมืองเวนิส เข้ากับธีมของหนังเรื่องนี้ที่มีกลิ่นอายความสยองขวัญ หนังเล่าเรื่องของคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่ดำเนินเรื่อง ว่าเมื่อก่อนเคยเป็นสถานพยาบาลที่มีหมอและพยาบาลจับเด็ก ๆ มาขังไว้ในห้องใต้ดินให้อดข้าว ทุกข์ทรมานอยู่ข้างล่างแล้วสิ้นใจตายในที่สุด (หนังไม่ได้บอกสาเหตุว่าทำไปทำไม) และได้เล่าถึงที่มาของศพแรกในเรื่องซึ่งก็คือลูกสาวของหญิงหม่ายผู้เป็นเจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ ที่ตำรวจได้สนิษฐานว่าเป็นการฆ่าตัวตาย
นักสืบของเรื่อง “แฮร์คิว โปร์รัว” ได้มาที่คฤหาสน์ผีสิงที่ได้เล่าไปตอนต้นเรื่องเพราะคำเชิญกึ่งขอร้องจากเพื่อนเก่าของเขา จุดเด่นของหนังไตรภาคที่ดัดแปลงมาจากนิยายของอกาธ่า คริสตี้ คือจะมีตัวละครหรือผู้ต้องสงสัยในเรื่องค่อนข้างเยอะและหลายคนในเรื่องมีความเกี่ยวเนื่องกันไปหมด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดที่เราชอบ มันทำให้การไขคดีดูยากขึ้น แต่ก็นะสุดท้ายมันจะมีผู้ต้องสงสัยไม่กี่คนที่เข้าตาเรา ด้วยพื้นหลังตัวละคร หลักฐานที่อยู่ แรงจูงใจและความเป็นไปได้
ทุกภาคที่ผ่านมาของนักสืบปัวร์โร คือจะเด่นในเรื่องของบทพูดซึ่งบางพาร์ทมันอาจจะดูน่าเบื่อแต่นี่แหละคือการสืบสวนที่แท้จริง ไม่ใช่การเดินดุ่ม ๆ ไปเจอหลักฐานบางอย่างเข้าโดยบังเอิญที่ทำให้การไขคดีดูเหมือนเรื่องง่าย แต่ใช่ว่าหนังจะไม่มีช่องโหว่งหรือจุดที่เราไม่ชอบ ข้อเสียของหนังพวกนี้คือการที่ตัวเอกเป็นตัวละครที่ฉลาดกว่าคนอื่นมากจนทำให้เรื่องบางเรื่องไขคดีไปอย่างง่ายดายเพราะการคิดสะระตะในหัวของตัวเอกนั้นถูกต้องไปเสียหมด
เรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในหนัง แม้จะมีการอธิบายในหนังว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เหตุผลของมันสำหรับเรามันไม่หนักแน่นพอ ตอนเฉลยมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว้าวอะไร
ตอนเฉลยคนร้าย ฆาตกรในภาคนี้ค่อนข้างเดาง่ายพอกันกับในภาคที่สอง ตัดภาคแรกทิ้งไปเพราะภาคนั้นการเฉลยคนร้ายค่อนข้างเจ๋งเพราะไม่เคยเห็นเรื่องไหนเล่นงี้มาก่อน แต่ภาคต่อ ๆ มา อย่างที่บอกคนร้ายเดาง่ายไป เหตุผลของการกระทำทุกตัวละครมันชัดเจนตั้งแต่ต้น ประมาณก่อนครึ่งเรื่องจึงพอเดาตัวคนร้ายได้แล้ว ถึงแม้หนังจะมีการสับขาหลอกแต่หากใครที่ดูหนังแนวนี้มาค่อนข้างโชกโชนจะรู้ได้ในทันทีว่านั่นคือสิ่งที่หนังพยายามจะหลอกเรา
ในโลกของนักสืบมีแต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ด้วยหลักฐานเท่านั้น แต่หนังเรื่องนี้กลับโยนคำถามใส่หน้าคนดูให้คิดเองว่าผีในเรื่องมีจริงหรือไม่ แม้ปัวร์โรจะพูดออกมาเองว่าการที่เขาได้ยินเสียงเด็ก เห็นผี เป็นเพราะ เขาถูกวางยาพิษ – ทำให้เห็นภาพหลอน
การใส่เรื่องแบบนี้เข้าไปมันก็อาจจะมองได้ว่าการที่ปัวร์โรไขคดีนี้ได้เพราะมีวิญญาณช่วยอย่างงั้นหรือ ซึ่งสิ่งที่เรื่องนี้มันดึงดูดเราในตอนแรกก็เพราะการสืบสวนที่มีกลิ่นอายสยองขวัญนี่แหละ อยากรู้ว่าหนังจะหักล้างเรื่องเหนือธรรมชาติด้วยการสืบสวนหาความจริงบวกกับความฉลาดของนักสืบในเรื่องอย่างไรมากกว่า
พล็อตเรื่อง – 8/10
จริง ๆ มันขึ้นอยู่กับจริตของคนดูด้วย ภาคนี้เป็นภาคที่เหล่านักวิจาร์ณชื่นชอบมาก บ้างก็อวยกันยกใหญ่หลังจากที่ค่อนข้างแป๊กในด้านรายได้ไปในภาคก่อนหน้า สำหรับเราอย่างที่บอกว่าพล็อตน่าสนใจมาก แต่บทสรุปมันไม่ถูกจริตเราเฉย ๆ
ความชอบส่วนตัว – 5/10
การดำเนินเรื่องและบทสรุปของหนังออกมาไม่ค่อยตรงใจเรา อย่างที่บอกบางครั้งเราไม่สามารถคิดตามตัวเองของเรื่องได้ทันเพราะบางอย่างเราก็ไม่ได้รู้พร้อมกับตัวเอกในเรื่อง หรือการที่บางครั้งตัวเองก็สามารถรู้อะไรต่าง ๆ ได้โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้มีปริศนาหรือหลักฐานแต่อย่างใด มันรวบรัดเร็วเกินไป
ความสมเหตุสมผล – 5.5/10
บางการกระทำมันดูไร้ซึ่งเหตุและผลมาก เหมือนเป็นการทุ่มสุดชีวิตเพื่อน้ำผึ่งแค่หยดเดียว
นักแสดง – 7/10
หนังชุดนี้ขึ้นชื่อเรื่องนักแสดงอยู่แล้ว เหมือนเป็นการรวมดาราดังหลายคนมาไว้ในที่เดียวเลย
คะแนน 6.3/10
เพจ ฉันชอบดูหนังสืบสวน (Mystery is my Taste)
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
