1 ก.ค. 2024 เวลา 11:40 • ความคิดเห็น

เขียนถึงคนบนฟ้า

วันนี้ขอแชร์บทความของพี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ที่เคยเขียนไว้เมื่อหลายปีก่อน พร้อมบทเพลง “เขียนถึงคนบนฟ้า “ ด้วยเหตุผลหลายประการนะครับ
อย่างแรกผมชอบเพลงนี้มาก ฟังตอนแรกก็ว่าเป็นเพลงที่เพราะมากๆ แล้ว แต่พอได้ยินเรื่องราวเบื้องหลังของเพลงยิ่งทำให้เข้าถึงความเจ็บปวดและประโยคแต่ละบรรทัดที่ถูกกลั่นมาจากความสูญเสีย เป็นบทกวีที่งดงามและแฝงความเศร้าที่ฟังทีไรก็โดนเข้าไปถึงส่วนลึกของใจ
อย่างที่สองคือ เรื่องราวของคุณพิง ลำพระเพลิง และการสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รัก เป็นเรื่องราวที่เตือนตัวเองและผู้อื่นได้เป็นอย่างดีถึงความรู้ที่เลวร้ายที่สุดในโลกก็คือ “รู้งี้” เมื่อเวลานั้นผ่านไปแล้ว เอาเงินทั้งโลกก็ซื้อกลับมาไม่ได้ ฟังเพลงนี้ทีไรก็ย้ำเตือนให้เราใช้เวลา พูดดี ทำดีกับคนรอบข้างให้เต็มที่ที่สุด จะได้ไม่เสียดายเมื่อเวลาผ่านไป
2
อย่างสุดท้าย พี่ตุ้มเขียนไว้ดีมากๆๆ ก ไก่ล้านตัว พี่ตุ้มเป็นอาจารย์ทางด้านการเขียนของผม ผมแอบอ่านเอาสไตล์พี่ตุ้มมาประยุกต์ในงานเขียนเท่าที่สติปัญญาจะมี พี่ตุ้มช่วยผมเกลาตั้งแต่ผมออกหนังสือเล่มแรกทำให้ผมได้แอบเรียนเทคนิคอะไรนิดๆ หน่อยจากพี่เขา
แถมเวลาพี่ตุ้มฟังวิทยากรบรรยายพร้อมกันแล้วจับประเด็นมาเขียนนี่ผมเรียกได้ว่าเป็นสุดยอดแห่งเคล็ดวิชาที่ลอกเลียนแบบยังไงก็ยังห่างชั้น งานเขียนของพี่ตุ้มชิ้นนี้ก็เช่นกัน ลองอ่านแล้วจะเข้าใจว่าตัวอักษรที่ทรงพลังในระดับกระทบใจนั้นเป็นอย่างไร ..
ชวนอ่านบทความพี่ตุ้มแล้วฟัง “เขียนถึงคนบนฟ้า” กันครับ
เวลาที่มีความหมาย
โดยหนุ่มเมืองจันท์
วันหนึ่ง คุณไชย ไชยวรรณ ของไทยประกันชีวิตมาบรรยายที่ ABC เขาพูดถึงเพลงหนึ่งขึ้นมา
“เขียนถึงคนบนฟ้า” ของ “พิง ลำพระเพลิง”
....เพิ่งรู้ว่าเหนื่อยแค่ไหน ที่ต้องใช้ชีวิตลำพัง
ฟ้าทุกเช้ามันอ้างว้าง ตั้งแต่เธอจากไป
ชีวิตต้องเดินก็รู้ แต่ไม่รู้จะเดินเพื่อใคร
ดาวบนฟ้าคว้ามาได้ ใครจะร่วมชื่นชม...”
โห...การใช้คำแต่ละคำมีพลังมากเลยครับ
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์ “โคตรรักเอ็งเลย” ของ “พิง” ที่ "บั๋ง" สุทธิพงษ์ สมบัติจินดา เพื่อนของ "พิง" เขียนจากโครงชีวิตจริง
 
“พิง” กับ “ติ๋ว” ภรรยาผ่านความลำบากมาด้วยกัน เคยอดมื้อกินมื้อ เคยอยู่ในห้องพักที่คับแคบ เคยไปล้างจานที่สหรัฐอเมริกาเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ จน “พิง” ได้เขียนบทละครโทรทัศน์จนโด่งดัง เริ่มมีเงิน ชีวิตเริ่มสบาย
“พิง” ทำงานใน กทม. แต่ “ติ๋ว” และลูกชายอยู่ที่สัตหีบ
เขาไม่ค่อยกลับบ้าน ภรรยาต้องโทรตามอยู่เรื่อยๆ
ช่วงหนึ่งทั้งคู่ทะเลาะกัน “พิง” ไม่ได้กลับไปบ้านที่สัตหีบนานหลายวัน คืนนั้น ภรรยาของ “พิง” โทรศัพท์มาง้อ ขอให้เขากลับบ้าน
แต่เพราะงานยุ่ง และยังไม่อยากกลับไป “พิง” จึงปฏิเสธและตัดบท เขาไม่รู้ว่านั่นคือ ประโยคสุดท้ายที่ได้คุยกัน
ค่ำคืนนั้น ภรรยาของ “พิง” ขับรถไปเที่ยวกับเพื่อนขณะที่ขับรถกลับบ้าน
รถแหกโค้งตรงถนนเลียบสันเขื่อน ตกเขา “ติ๋ว” เสียชีวิต
“พิง” บอกว่าตรงจุดนั้นเกิดอุบัติเหตุเป็นประจำเพราะไม่มีรั้วกั้น
แต่ถ้ารถไถลออกจากจุดนั้นไปอีก 10 เมตร จะมีรั้วกั้นรถของภรรยาจะไม่ตกเหว
“พิง” รู้ข่าวตอนเช้า
เขารีบขับรถไปโรงพยาบาล
“ติ๋ว” ใส่เครื่องช่วยชีวิตทุกอย่าง แต่ไม่รับรู้อะไรแล้ว
ตัวของเธอยังอุ่นอยู่
วินาทีนั้น “พิง” กระซิบบอก “ติ๋ว” ว่าขอให้ลืมตาขึ้นมาฟังเขาหน่อย
“ขอเวลาให้พี่สัก 5 นาทีเถอะ”
“พิง” ยังจำทุกประโยคที่พูดกับภรรยาทั้งน้ำตาได้
น่าเสียดายที่ภรรยาของเขาไม่ได้ยิน
นั่นคือ ที่มาของเพลงนี้
“เขียนถึงคนบนฟ้า”
 
...เพิ่งรู้ว่ากอดมันหวาน เมื่อเธอนั้นไปไกลลับตา ใช้ทั้งสองมือไขว่คว้า คงไม่มีค่าใด ห้องน้อยของเธอกับฉัน ที่วันนั้นมันดูแคบไป เพิ่งจะรู้มันกว้างใหญ่ เกินจะนอนคนเดียว ยามค่ำคืนยังยืนมองขอบฟ้า เธอสบตากับฉันบ้างหรือเปล่าคิดถึงเธอ คนที่ดีที่สุด ถึงแม้ได้พูดในวันที่มันสาย ยังคงรักเธอ เธอได้ยินฉันมั้ย อยู่แห่งไหน หัวใจมีแต่เธอ...
2
บ้านที่สัตหีบของ “พิง” มีสระว่ายน้ำ ภรรยาของเขามักจะปล่อยห่วงยางไว้ในสระ และมีตุ๊กตาปลาโลมาเป่าลมลอยอยู่ใกล้ๆ ตอนที่อยู่ด้วยกัน เขาไม่รู้สึกอะไรกับเจ้าปลาโลมาเป่าลมเลย แต่เมื่อไม่มีภรรยาอยู่เคียงข้าง “ปลาโลมา” นั้นกลับมีความหมายอย่างยิ่ง เพราะในนั้นมี “ลมหายใจ” ของภรรยาเขาอยู่ข้างในเป็น “ลมหายใจ” สุดท้ายของเธอในโลกใบนี้
หลายครั้งที่ “พิง” ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ เขาจะพูดถึงระยะ 10 เมตรตรงเชิงเขา และ 5 นาทีที่โรงพยาบาล แม้จะเป็น “ระยะทาง” และ “เวลา” ที่สั้นมาก แต่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ถ้ารถของภรรยาหลุดโค้งห่างไปอีก 10 เมตร เธอคงไม่ตาย ถ้าภรรยาของเขามีเวลาให้เขาอีก 5 นาที เขาคงได้บอกถึงความรักและความรู้สึกที่มีต่อเธอได้หมดสิ้น
 
ก่อนที่จะลาจากกันชีวิตของเขาถ้าเลือกได้ เขาไม่ต้องการระยะทางที่ยาวไกล หรือเวลาที่ไม่มีที่สิ้นสุด เขาต้องการระยะแค่ 10 เมตร กับเวลาแค่ 5 นาที เท่านั้นเอง
2
น่าเสียดายที่แม้ว่าจะเป็นระยะทางและเวลาที่สั้นมาก แต่เมื่อผ่านไปแล้ว ก็ไม่มีวันหวนกลับมาอีกเลย
อ่านแล้วลองหาเพลงนี้ฟังดูนะครับ เตือนสติอะไรหลายๆอย่างได้ดีมากๆ เลยครับ….
โฆษณา