5 ก.ค. 2024 เวลา 07:22 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
วัดสวนมะม่วง

ทำไมคนถึงไม่เชื่อในกฎแห่งกรรม?

กรรม แปลว่าการกระทำอันประกอบด้วยเจตนา และการกระทำอันไม่ตั้งใจ กรรม เป็นความหมายที่กินวงกว้างมาก แต่ก็ตรงกับหลักทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ตรงที่ ทุกกรรมย่อมให้ผล ไม่ว่าจะกรรมดี กรรมชั่ว กรรมเทา ขาว ดำ คือ กรรมสร้างการสะท้อนกลับ เกิดวิบาก วิบากแปลว่า ผลของกรรม อาจจะเป็นผลดี-ผลร้ายก็ได้ และอาจจะตรงไปตรงมาอย่างเรียบง่ายหรือไม่ตรงไปตรงมาก็ได้
#กรรม
สาเหตุที่คนไม่เชื่อเรื่องกรรม ก็เพราะมองไม่เห็นและจับต้นชนปลายไม่ได้ อย่างเช่น นักการเมืองชั่ว ทำไมเรายังเห็นเขาได้ดี คนมาหลอกกู้เงินเราไปแล้วไม่ใช้คืน หรือใช้คืนไม่ครบก็ยังร่ำรวยกว่าเรา จะเห็นได้ว่า เรามักตกอยู่ภายใต้มุมมองของโลกธรรมทิฏฐิ เช่น รู้สึกว่ากรรมไม่มีจริงเพราะเห็นคนรอบตัวในสังคมต่างไม่ได้รับความเป็นธรรม ใจเลยแจ้งไปว่าทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป
เทวดาชั้นต่ำในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา
ยกตัวอย่างเช่น คดีของนักการเมืองคนหนึ่งที่เคยฆ่านายแพทย์หนุ่มคนหนึ่งเสียชีวิต รวมถึงขืนใจนายแพทย์หนุ่มคนนั้นทางด้านหลังก่อนตาย แต่นักการเมืองคนนั้นก็ยังมีหน้ามีตามีอำนาจบารมีอยู่ นอกจากนี้ อีกเหตุการณ์หนึ่ง ผู้เสียหายฟ้องกรมตำรวจจนชนะ ศาลตัดสินให้กรมตำรวจจ่ายชดใช้ 157 ล้านบาท
(คดีตำรวจนายพลปล้นพลอยพันล้าน)
ผ่านมาหลายปีแล้ว กรมตำรวจยังไม่ยอมจ่ายแม้แต่บาทเดียว จะเห็นได้ว่า ปัจจัยเหล่านี้ที่พวกเรามองเห็น ทำให้ปุถุชนหวั่นไหวลังเลในธรรมะ และเลือกที่จะหันหน้าหนีกฎแห่งกรรม ไม่เชื่อเรื่องผลกัมม์อีกต่อไป
แต่อันที่จริงแล้ว กฎแห่งกรรมมีความซับซ้อนละเมียดละไม ไม่ใช่เรื่องที่เวไนยสัตว์จะสดับแล้วเข้าใจได้ทันที แต่ต้องใช้ปัญญาตรึกคิดพิจารณาเป็นอันมาก ถึงจะเข้าใจได้ พระพุทธวจนะตามพระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐที่เป็นพระไตรปิฎกชุดที่เก่าที่สุดในโลกได้ให้ความหมายว่า กรรมย่อมให้วิบาก สัตว์นั้นก่อกรรมใด ย่อมต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น ไม่ใช่บอกว่า ก่อกรรมใด รับกรรมนั้น แต่เป็น ผล ของกรรม-ต่างหาก
สัมภเวสีในลักษณะต่างๆ
ดังนั้น คนจึงมักจะตีความคำว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง ด้วยการให้ความหมายแบบทื่อและห้วน ไม่ขัดเกลาความหมายและหาที่มาที่ไปให้ชัดเจนก่อนด่วนสรุป ว่าจริงๆแล้ว แทนที่จะพูดว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นคืนสนอง ควรจะแจกแจงความหมายเสียใหม่ว่ากรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมให้ผลแก่ผู้ที่ก่อ ถึงจะถูกกว่า
การให้ผลของกรรมจะมีความละเมียดละออ ไม่ได้ให้ผลแบบทื่อๆโต้งๆ แต่จะอาศัยปัจจัยต่างๆในการให้ผล เช่น ๑-เวลาให้ผล ๒-การให้ผล ๓-ลำดับ ๔-ที่ที่กรรมจะนำไป และ๕-การกระทำในด้านต่างๆ
อสุรกาย พวกนี้คนไทยนิยมเรียกว่าผี มีรูปร่างกายน่าเกลียดสมชื่อที่แปลว่ากายที่ไม่สวยงาม เช่น ผีกระหัง ผีกระสือ ผีปอบ จัดเป็นอสุรกายจำพวกหนึ่ง
ด้วยความที่มีการจำแนกตามปัจจัยความเป็นไปแห่งกรรมที่มีหลายด้าน แต่ละด้านก็มีแยกย่อยออกไปอีกหลายประเภท นอกจากนี้ ตัวของผู้ที่ก่อกรรมเองก็มีปัจจัยด้านกุศลกรรม และ อกุศลกรรม ที่ถูกชั่งตวงวัดอยู่ตลอดเวลาภายในเครือข่ายจิตพ้นสำนึก เราไม่มีทางรู้ว่าคนชั่วที่เราเห็นว่าได้ดี เขามีปูมหลังกรรมเป็นอย่างไร มีอัตรากรรมดีกรรมชั่วในจิตพ้นสำนึกมากน้อยแค่ไหน กรรมไหนให้ผลก่อนหลัง อย่างไหนสิ้นผล อย่างไหนกำลังมาจ่อรอให้ผล-อยู่ ฯลฯ ด้วยเงื่อนไขประกอบอันมากมายพัลวันพัลเก ทำให้เราอาจจะไม่ทันได้เห็นคนชั่วได้รับผลของกรรม
สัมภเวสี หรือ สัตว์ที่อยู่ในระหว่างทางหาที่ปฏิสนธิ อยู่ในปรโลก
ดังนั้น คนชั่วที่เราเห็นว่ากำลังได้ดี แท้จริงแล้วก็อาจจะกำลังอยู่ในระหว่างเสวยผลแห่งกุศลกรรมอยู่ โดยที่ผลของอกุศลกรรมยังถูกเบียดบังด้วยกุศลกรรมอยู่ แต่เมื่อใดที่กาลเวลาผ่านไป ก็ย่อมดำเนินไปสู่ช่วงระยะที่ผลของกุศลกรรมสิ้นลง เช่น อาจจะจู่ๆก็ล้มละลาย อาจจะถูกลอบทำร้าย ถูกหักหลัง ประสบอุบัติเหตุใหญ่ อาจจะเข้าโรงพยาบาลด้วยโรคร้ายปัจจุบันทันด่วนที่เจ็บปวดทรมานอย่างถึงที่สุด กว่าจะตายก็ต้องดิ้นทุรนทุรายอย่างน่าสยดสยอง ก็เป็นไปได้
เพราะฉะนั้น จะมองชีวิตคน จะมองดูผลกรรมของใคร มันมองแค่ไม่กี่วินาทีจากการเสพข่าวสารแล้วมาตัดสินเอาไม่ได้ แต่ต้องให้เจ้าตัวเขารับวิบากนั้นเอง ตามเงื่อนไขปัจจัยและช่วงเวลาที่กรรมให้ผล ถึงแม้เราจะรู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมโลกไม่ยุติธรรมเลย ทำไมไอ้นี่ชั่ว แต่ชีวิตดี๊ดี ไอ้นี่ดี แต่ชีวิตโหดร้าย บางคนเป็นคนหน้าตาดี นิสัยดี มีชื่อเสียง แต่ถูกหลอกไปฆ่าถ่วงน้ำตายอย่างไร้ความเมตตา น่าสงสารอย่างถึงที่สุด
มหิทธิกาเปรต เปรตกินขี้กินเยี่ยวกินมูกเมือก แต่มีรูปร่างสวยหล่อ ตอนเป็นคน ถือศีลห้าครบดี แต่ขี้เหนียวไม่ทำทาน ไม่ทำบุญ ขี้หวง ชอบกีดกันขัดขวางคนอื่น
แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า ชีวิตหลังจากนั้น เขาได้ไปยังที่ที่มีความสุขกว่าที่ที่เราอยู่ ในขณะที่ไอ้คนที่ยังอยู่ จมจ่อมอยู่กับความทุกข์ทรมาน เพราะกำลังกินบุญเก่าอยู่ทุกวัน บุญก็ลดพร่องลงไป พร่องลงไปเรื่อยๆ ยิ่งนับวันก็ยิ่งหวาดหวั่นในบาปกรรมที่ก่อ เริ่มไม่แน่ใจว่าบาปกรรมที่เคยเชื่อว่าไม่มีจริงนั้นน่าจะมีจริงหรือเปล่า เวลาเจอเรื่องเลวร้ายวินาศสันตะโรในชีวิต ก็จะแว๊บคิดถึงหน้าของคนที่ตนเคยฆ่า แน่นอนว่าอาการในลักษณะนี้คือลักษณะของ "กรรมตามทัน"
หากคนเหล่านี้ตายลง ก็ย่อมเข้าถึงทุคติ วินิบาต อบาย นรก ไม่มีทางได้ไปดี แม้ตอนยังมีชีวิตอยู่ด้วยภาพพจน์ที่อู้ฟู่หรูหรา แลดูดีไปเสียหมด ดูไม่เห็นจะมีกรรมที่ไหนมาตามทันเสียที แต่แท้ที่จริงแล้ว หมาล่าเนื้อตัวมหึมาตัวนั้น มันกำลังดักรอเขาอยู่ในพุ่มไม้ข้างทางที่คนชั่วกำลังเดินทางไปนั่นเอง
แอดมินศรีสัตตะนาค แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊คธรรมะแฟนตาซี
นรก คือสถานที่อันเต็มไปด้วยความทรมานของสัตว์นรก
โฆษณา