13 ก.ค. 2024 เวลา 06:18 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

Saab ผลิตเครื่องบินมาตั้งแต่เมื่อไหร่

บริษัท Saab (Svenska Aeroplan Aktiebolaget) เริ่มต้นผลิตเครื่องบินในปี 1937 โดยเริ่มต้นผลิตเครื่องบินสำหรับกองทัพอากาศสวีเดนในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เครื่องบินรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นคือ Saab 17 ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดเบา
บริษัท Saab ผลิตเครื่องบินรบด้วย โดยเครื่องบินรบที่มีชื่อเสียงของ Saab ได้แก่ Saab 35 Draken, Saab 37 Viggen, และ Saab JAS 39 Gripen ซึ่งเป็นเครื่องบินรบมัลติฟังก์ชั่นรุ่นล่าสุดที่มีการใช้ในกองทัพอากาศของหลายประเทศทั่วโลก
JAS 39 Gripen
"Gripen" เป็นภาษาสวีเดน แปลว่า "Griffin" หรือ "กริฟฟิน" ซึ่งเป็นสัตว์ในตำนานที่มีหัวและปีกของนกอินทรี และลำตัวของสิงโต กริฟฟินเป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ ซึ่งเหมาะสมกับการตั้งชื่อเครื่องบินรบที่ทรงพลังอย่าง Saab JAS 39 Gripen
ปัจจุบันมีหลายประเทศที่ใช้เครื่องบินรบ Saab JAS 39 Gripen รวมถึง:
1. สวีเดน
2. สาธารณรัฐเช็ก
3. ฮังการี
4. แอฟริกาใต้
5. ไทย
6. บราซิล
นอกจากนี้ ยังมีบางประเทศที่มีการสั่งซื้อ Gripen และกำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดหาและทดสอบเครื่องบินอีกด้วย
ประเทศที่เลือกใช้ Saab JAS 39 Gripen มักจะพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่:
1. ความสามารถในการปฏิบัติการ Gripen เป็นเครื่องบินรบมัลติฟังก์ชั่นที่สามารถปฏิบัติการได้ทั้งในภารกิจป้องกันภัยทางอากาศ, โจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน และปฏิบัติการลาดตระเวน
2. เทคโนโลยีทันสมัย Gripen มีการติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบอาวุธที่ทันสมัย รวมถึงระบบเรดาร์ AESA, ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และระบบการเชื่อมโยงข้อมูลขั้นสูง
3. ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา Gripen มีค่าใช้จ่ายในการซื้อและบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าเครื่องบินรบอื่นๆ ที่มีสมรรถนะใกล้เคียงกัน เช่น F-35 หรือ Eurofighter Typhoon
4. ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการ Gripen ถูกออกแบบให้สามารถปฏิบัติการได้ในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รวมถึงสามารถขึ้นลงบนรันเวย์ที่สั้นและสนามบินชั่วคราว
5. การสนับสนุนจาก Saab ให้การสนับสนุนและการฝึกอบรมแก่ลูกค้าอย่างเต็มที่ รวมถึงการปรับแต่งเครื่องบินให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละประเทศ
6. ความเชื่อมั่นในคุณภาพ ประเทศที่ใช้ Gripen มักจะมีความเชื่อมั่นในคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์จาก Saab ซึ่งมีประวัติการผลิตเครื่องบินรบที่มีประสิทธิภาพสูงมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่สอง
on Weapon set up
การเปรียบเทียบสมรรถนะระหว่าง Saab JAS 39 Gripen และ F-16 Block 70 สามารถพิจารณาได้จากหลายปัจจัยดังนี้:
ระบบอิเล็กทรอนิกส์และเรดาร์:
- Gripen ใช้เรดาร์ AESA (Active Electronically Scanned Array) ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับและติดตามเป้าหมายที่สูง ระบบอิเล็กทรอนิกส์สมัยใหม่และระบบเชื่อมโยงข้อมูลขั้นสูง
- F-16 Block 70 ใช้เรดาร์ AESA เช่นกัน (AN/APG-83) มีการปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ที่ทันสมัย
สมรรถนะการบิน:
- Gripen
- ความเร็วสูงสุด: Mach 2.0
- พิสัยการบิน: ประมาณ 4,000 กม. (เมื่อมีถังเชื้อเพลิงภายนอก)
- น้ำหนักบรรทุก: 5,300 กก.
- F-16 Block 70
- ความเร็วสูงสุด: Mach 2.05
- พิสัยการบิน: ประมาณ 4,220 กม. (เมื่อมีถังเชื้อเพลิงภายนอก)
- น้ำหนักบรรทุก: 7,700 กก.
ความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการ:
- Gripen สามารถขึ้นลงได้จากรันเวย์สั้นและสนามบินชั่วคราว มีการบำรุงรักษาง่ายและรวดเร็ว
- F-16 Block 70 เป็นเครื่องบินรบที่ได้รับการพิสูจน์แล้วในการใช้งานมายาวนาน มีสมรรถนะสูงในการปฏิบัติการทุกสภาพแวดล้อม
อาวุธ:
- Gripen สามารถติดตั้งอาวุธหลากหลายชนิดจากหลายประเทศ รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์สมัยใหม่
- F-16 Block 70 รองรับอาวุธหลากหลายชนิดจากสหรัฐฯ และพันธมิตร ซึ่งมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง
ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา
- Gripen มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่าและง่ายต่อการซ่อมบำรุง
- F-16 Block 70 แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาสูงกว่าเล็กน้อย แต่มีการสนับสนุนจากเครือข่ายทั่วโลกและประสบการณ์ในการซ่อมบำรุงมายาวนาน
การสนับสนุนและการปรับแต่ง:
- Gripen: Saab ให้การสนับสนุนและการฝึกอบรมที่ครอบคลุม รวมถึงการปรับแต่งเครื่องบินให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละประเทศ
- F-16 Block 70: Lockheed Martin ให้การสนับสนุนที่กว้างขวางและมีการปรับปรุงเครื่องบินอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของลูกค้า
ทั้งสองเครื่องบินมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการและเงื่อนไขเฉพาะของแต่ละประเทศในการเลือกใช้เครื่องบินรบ
ขอขอบคุณภาพสวยจากพี่ไพบูลย์ พี่บี และข้อมูลดีๆ จาก Chat GPT มากครับ
โฆษณา