21 ก.ค. 2024 เวลา 08:00 • ไลฟ์สไตล์

Work Hard อย่างเดียว อาจยากที่จะสำเร็จ ต้องรู้จัก Work Smart ด้วย สองสิ่งนี้ต่างกันอย่างไร?

เกิดดราม่าในโลกการทำงานอีกครั้งกับประเด็นที่ว่า “ในยุคเศรษฐกิจผันผวนสูงแบบนี้ คนที่ทำงานชิลๆ หรือทำงานแบบ Work life balance อาจจะอยู่ไม่รอด แต่ต้องเข้าสู่โหมด Work Hard ถึงจะอยู่รอดได้” เมื่อประเด็นดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีทั้งกระแสของคนเห็นด้วยและคนไม่เห็นด้วย พร้อมเกิดคำถามตามมาว่า การทำหนักงานอย่างเดียวทำให้อยู่รอดได้จริงหรือ?
เรื่องนี้มีความคิดเห็นในอีกมุมหนึ่งจาก “โตมร ศุขปรีชา” นักคิดนักเขียนชื่อดัง ที่ได้โพสต์ข้อความสะท้อนมุมมองถึงประเด็นดังกล่าวผ่านเพจส่วนตัว Tomorn Sookprecha ไว้ว่า จริงๆ แล้วมีคนจำนวนมากในสังคมเป็นกลุ่มที่ Work Hard ในระดับ Hardest จนไม่สามารถจะทำงานหนักไปมากกว่านี้ได้อีกแล้ว และแม้จะทำงานหนักขนาดนั้นแต่ก็ยังไม่สามารถลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งพวกเขาถูกจัดลำดับทางสังคมให้เป็น ‘คนชั้นล่าง’
เขามองคำว่า Work Hard เป็นคำที่ถูกสงวนเอาไว้สำหรับคนที่ยังมีหนทางมากพอจะขยับขยายตัวเองให้มีศักยภาพในการ 'ดึงทรัพยากร' เข้ามาอยู่กับตัวเองมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่คือคนที่ถูกจัดลำดับทางสังคมให้เป็น ‘คนชั้นกลาง’ และต่อให้เป็นคนชั้นกลางที่มีหนทางจะขยับฐานะของตนเอง ด้วยการทำงาน Work Hard แต่ด้วยสภาพสังคมปัจจุบันที่ปราศจากความเป็นธรรม บิดเบี้ยว และเอื้อต่อคนเพียงบางกลุ่ม คนชนชั้นกลางก็ไม่มีทาง ‘รวย’ ในระดับเจ้าสัวได้อีกต่อไปแล้วในยุคนี้
2
เนื่องด้วยการ Work Hard หรือทำงานหนักนั้น เม็ดเงินส่วนใหญ่ที่ถูกผลิตขึ้นมาไม่ได้ตกอยู่กับคนที่ Work Hard จริงๆ แต่มันกลับตกไปอยู่กับกลุ่มคนที่ถูกมองว่าอยู่ในลำดับชั้นทางสังคมแบบ Elite แทบทั้งนั้น
ด้าน สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระ ก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว Sarinee Achavanuntakul เกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้เช่นกัน โดยระบุว่า “เห็นมีดรามาในเน็ตเรื่อง slow life / work hard / work-life balance ไม่มีเวลามาชวนคุยเรื่องนี้ แค่อยากบอกว่า ยุคนี้เราควรก้าวให้พ้นจากคำเหล่านี้ได้แล้ว และไปเน้นถกกันเรื่อง “decent work” (งานที่มีคุณค่า) แทนดีกว่า ซึ่งอยู่ในเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG8 ด้วย”
อย่างไรก็ตาม คนที่มีอุดมการณ์ Work Hard หรือการทำงานหนักเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมาย ย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่ในขณะเดียวกัน หากต้องการให้งานออกมาดีมีประสิทธิภาพสูงสุด อาจต้องพิจารณา Work Smart ด้วย
ข้อมูลจาก Indeed ซึ่งเป็นเว็บไซต์ให้คำแนะนำเรื่องหน้าที่การงานและอาชีพ ระบุถึงความหมายและความแตกต่างของคำว่า Work Hard และ Work Smart เอาไว้ดังนี้
Work Hard หมายถึง ลักษณะหรือคุณสมบัติของคนที่ทำงานหนัก เริ่มต้นทำงานเร็วกว่าคนอื่น เลิกงานช้ากว่าคนอื่น ใช้แรงงานทางกายภาพที่เข้มข้น มีความอดทนที่สูงเพื่อทำภารกิจให้สำเร็จ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ มีการวางแผนงานในระดับต่ำ
ในขณะที่ Work Smart หมายถึง การทำงานอย่างชาญฉลาด มักจะมองหาวิธีสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หรือวิธีการทำงานที่ประหยัดเวลาอยู่เสมอ อาจใช้เวลาไปกับการวางแผน สร้างเครือข่าย หรือทำข้อตกลง ขณะเดียวกัน ก็มองหาทางลัดเพื่อบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น และเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น มีการวางแผนงานในระดับสูง
แม้ว่าทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันพอสมควร แต่ก็อาจไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าแบบไหนดีกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ ถ้ามีทั้งสองอย่างมาส่งเสริมกัน ย่อมทำให้งานออกมาดีมีประสิทธิภาพมากกว่าแค่ทำงานหนักอย่างเดียว
อ้างอิง: Tomorn Sookprecha https://shorturl.asia/OlYXV
โฆษณา