27 ก.ค. 2024 เวลา 13:13 • ข่าวรอบโลก

ไบเดนยังถือ “รหัสเข้าใช้นิวเคลียร์” กับ “กระเป๋านิวเคลียร์”

ไม่กี่วันที่ผ่านมามีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากจากคำกล่าวของ “คิม ดอตคอม” (Kim Dotcom) นักธุรกิจด้านบริการบนอินเทอร์เน็ตชาวเยอรมันที่ว่า “ไบเดนซึ่งถอนตัวที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าทำเนียบขาวอยู่และยังคงใช้ ‘รหัสเข้าถึงอาวุธนิวเคลียร์’ เดิมได้อยู่ อาจก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์กับรัสเซียเพื่อรักษาอำนาจไว้” - อ้างอิง: [1]
3
Kim Dotcom ชื่อจริงคือ “คิม ชมิตซ์” เกิดเมื่อปี 1974 ในประเทศเยอรมนี เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทโฮสต์ไฟล์บนอินเทอร์เน็ตชื่อ Megaupload ในปี 2012 เอฟบีไอเริ่มดำเนินการไล่ล่าตัวเขาเพื่อส่งตัวไปยังอเมริกาในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ และชอบทำตัวโดดเด่นบนโลกออนไลน์เย้ยอเมริกา โพสต์วิจารณ์เรื่องการเมือง – X @KimDotcom
2
เครดิตภาพ: X @KimDotcom
ต้องเข้าใจก่อนว่า ปธน.สหรัฐฯ ตามหลักการเป็นคนเดียวที่สามารถสั่งยิงอาวุธนิวเคลียร์ได้ โดยกระเป๋าเจมส์บอนด์สำหรับสั่งการใช้นิวเคลียร์ (มีศัพท์เฉพาะเรียกกันว่า Nuclear Football หรือบางทีก็เรียกสั้นๆ เข้าใจกันว่า “ฟุตบอล”) ที่มีผู้คุ้มกันคอยถือติดตามตัวประธานาธิบดีอยู่ตลอดนั้น จริงแล้วไม่ได้มีปุ่มให้กดเพื่อยิงได้เลยหรือนาฬิกาจับเวลาถอยหลังอย่างที่เข้าใจ ข้างในเป็นเครื่องมือสื่อสารและคู่มือการทำสงครามตามแผนที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้า โดยเป็นแผนที่ถูกออกแบบมาสำหรับการตัดสินใจอย่างทันด่วน
มี “ฟุตบอล” อย่างเดียวไม่สามารถสั่งการยิงอาวุธนิวเคลียร์ได้ แต่ต้องมี “บิสกิต” ด้วย มันคือแผ่นกระดาษที่เขียนรหัสการเข้าถึงสำหรับให้ประธานาธิบดีถือติดตัวไว้ตลอด กระบวนการเริ่มยิงก็หลังจากใส่รหัสที่อยู่บนบิสกิตเสร็จก็จะเริ่มสื่อสารไปยังประธานคณะเสนาธิการร่วมที่จะต้องรับรหัสเพื่อยืนยันความถูกต้องตรงกับที่มีในมือ เพื่อสั่งการส่วนปฏิบัติการต่างๆ ต่อไป
1
อ้างอิง: [2]
เครดิตภาพ: AT THE BRINK Podcast
ดูแล้วคิมมีแนวโน้มที่จะปั่นกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้เกินจริง? แต่มันก็สะท้อนถึงความรู้สึกฉงนสงสัยของประชาชน และเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจว่าใครและสิ่งที่เป็นอำนาจในมือของสหรัฐฯ ตอนนี้
ก็มีคนเอาไปโยงกับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อย่างเช่น ทันทีหลังจากที่ไบเดนเข้าสู่การกักตัวหลังรู้ว่าติดโควิด สหรัฐฯ ก็เริ่มเพิ่มการเดิมพันด้วยอาวุธทางยุทธศาสตร์รวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ เริ่มต้นจากมีความพยายามที่จะยั่วยุรัสเซียด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ 2 ลำ (U.S. В-52Н) บริเวณชายแดนรัสเซียในทะเลแบเรนตส์ โดยเครื่องบินขับไล่รัสเซียได้สกัดกั้นไว้ - อ้างอิง: [3]
หลังจากนั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์รุ่นเดียวกัน B-52H Stratofortress พร้อมขีปนาวุธร่อนพิสัยไกลจำนวนสองลำก็บินมาถึงโรมาเนียเป็นครั้งแรก – อ้างอิง: [4]
ก่อนหน้านี้เครื่องบินอเมริการุ่นนี้ถูกจำกัดให้เพียงลาดตระเวนในพื้นที่เท่านั้น เมื่อกันยายน 2020 ก่อนสงครามในยูเครนเริ่มไม่กี่ปี เครื่องบิน B-52 สองลำรุ่นนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมบูรณาการกับกองทัพยูเครนเหนือ “เมลิโตปอล” และ “เฮอนิเชสก์” ซึ่งตอนนี้รัสเซียยึดไว้ได้อยู่ - อ้างอิง: [5]
เครื่องบินทิ้งระเบิดของอเมริกา В-52Н จำนวน 2 ลำ เข้ามาลาดตระเวนในยูเครนใกล้ชายแดนรัสเซีย เมื่อปี 2020 ซึ่งอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมรบ เครดิตภาพ: The War Zone
การจุดประเด็นเรื่องนี้ของ คิม ดอตคอม มันบอกอะไรเราได้บ้าง?
  • ประการแรก: ความสงสัยในกระบวนการควบคุมการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของอเมริกา เรื่องนี้คิมอาจพูดผิดไปหน่อยที่บอกว่ากระบวนการใช้นิวเคลียร์ที่ต้องมีรหัสเข้าถึงหรือบิสกิตทำได้โดย “โจ ไบเดน” ซึ่งนั่งเป็นประธานาธิบดีเท่านั้น
ตามที่นิวยอร์กโพสต์ซึ่งเป็นสื่อโปรรีพับลิกันเขียนไว้ประมาณว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ไบเดน ซึ่งได้รับการเข้าถึงการควบคุมอาวุธนิวเคลียร์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายในกรอบขั้นตอนที่จัดทำขึ้นในสหรัฐฯ โลกไม่เข้าใจกลไกในการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้มากนัก และพวกเขายอมรับว่า “รหัสการเข้าถึงนิวเคลียร์” สามารถส่งต่อให้คนอื่นได้ถึงแม้ไบเดนยังไม่ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี (แค่ถอนตัวจากผู้ชิง) โดยสมาชิกเดโมแครตสามารถกดดันเขาให้ทำอย่างนั้นได้ – อ้างอิง: [6]
นี่ไม่ใช่สัญญาณครั้งแรกในกระบวนการใช้นิวเคลียร์ของอเมริกา ย้อนไปตอนที่ประธานคณะเสนาธิการร่วม “พลเอกมาร์ก มิลลีย์” เคยออกมาบอกถึงบทสนทนาทางโทรศัพท์กับคู่หูชาวจีนว่าพร้อมที่จะไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ “โดนัลด์ ทรัมป์” (สมัยที่เขาเป็นประธานาธิบดี) ในการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ต่อจีน หากได้รับคำสั่งดังกล่าว บอกเป็นนัยว่านายพลระดับสูงในเพนตากอนอาจขัดคำสั่งประธานาธิบดีไม่ยิงนิวเคลียร์ก็ได้ แต่จะลงโทษยังไงก็อีกเรื่องหนึ่ง – อ้างอิง: [7]
ลองอ่านเพิ่มเติมดูได้จากลิงก์ด้านล่าง
  • ประการที่สอง: ประเทศทั้งทางฝั่งอเมริกาและยุโรปเริ่มรู้สึกถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความมั่นคงทางทหาร แม้ว่าจะเคลมว่าได้รับการประกันด้านความมั่นคงหรือความคุ้มครองทางทหารจากอเมริกาอย่างเป็นทางการรวมถึงพวกร่มคุ้มกันนิวเคลียร์ด้วย
การปฏิบัติตามการรับประกันเหล่านี้เริ่มขึ้นอยู่กับไม่เพียงแต่บรรยากาศทางการเมืองในทำเนียบขาวเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความสมดุลของอารมณ์ของกลุ่มต่างๆ ในวอชิงตันด้วย และนี่เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงวิกฤตโลกาภิวัตน์ ซึ่งการได้รับความคุ้มครองทางการทหารและการเมืองจากสหรัฐอเมริกาถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง
เรียบเรียงโดย Right Style
27th July 2024
  • แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
<เครดิตภาพปก: Hindustan Times>
โฆษณา