29 ก.ค. 2024 เวลา 21:51 • ท่องเที่ยว
มณฑลยูนนาน

Solo trip 5วัน 4คืน คุณหมิง-ลี่เจียง 2024

พอเริ่มต้นปี2024ได้ไม่กี่เดือน คนรักการท่องเที่ยวเเบบเราก็เริ่มวางเเผนการท่องเที่ยว นี่จะเป็นทริปไปต่างประเทศครั้งที่2ของเรา ประเดิมทริปเเรกของปีด้วยการไปจีน เพราะจีนเปิดฟรีวีซ่าพอดี เเพลนไว้ว่าจะไปลี่เจียงเพื่อไปดูภูเขาหิมะมังกรหยก เเต่ต้องบินไปลงคุณหมิงก่อนเเล้วต่อรถไฟตู้นอนไปลี่เจียงรวมค่าตั๋วทุกอย่างเเล้วราคาถูกกว่าบินตรงไปลี่เจียง เเถมจะได้เที่ยว2เมืองเลย ตั๋ว กรุงเทพ-คุณหมิง ได้ถูกสุดเวลานั้นของหางเเดง ไป-กลับ 5135 บาท ราคานี้ไม่ได้เลือกที่นั่งเเละซื้อน้ำหนักกระเป๋า จองล่วงหน้าเดือนกว่า
2
12.30 น. เวลาจีน(ช้ากว่าไทย1 ชม) ถึงเเล้วคุณหมิงใช้เวลาบินเเค่2 ชม เอง
Day1: BKK-Kunming ลืมบอกเราเดินทางมาช่วงเดือนมีนาคมนะ ตอนเเรกกังวลเรื่อง ตม เพราะมาคนเดียว เเต่ไม่มีปัญหาอะไร ตม ถามเเค่ตั๋วค่ากลับ ที่เราเขียนใน arriving card ไว้เเล้ว ออกมาเเล้วก็หารถบัสเพื่อนั่งไปสถานีรถไฟคุณหมิงเราจะเดินทางไปลี่เจียงวันนี้ รถมีเยอะมากเเต่ถ้าอยากนั่งเเบบถูกก็มีราคา13 ฃหยวน เเต่เราหาไม่เจอเลยขึ้นรถบัสราคา25หยวน
ข้างในรถก็ดีเลยเเหละนั่งสบาย นั่งไปสุดสายเลย
ใช้เวลา1 ชม เราก็มาถึงสุดสายคนทั้งรถลงที่นี่หมดเราก็ลงละเดินตามคนส่วนมากไปเเบบมั่วๆ คือคิดไว้เเล้วว่าคนส่วนใหญ่ที่ลงที่นี่ก็มีจุดหมายปลายทางเหมือนกับเรา สถานีรถไฟไมาไกลจากที่รถบัสจอด
ถึงสถานีรถไฟเเล้ว เเต่มันไม่เห็นมีกระทิงเลย
กลัวมาผิดเพราะอ่านรีวิวมาเขาบอกว่ามีกระทิง เเต่พอเดินเข้ามาข้างในมันก็ใช่สถานีนี้นะ เรารีบไปต่อคิวเพื่อจะเอาตั๋วที่จองผ่านเเอพ railway12306 รอบ 21:30
คนเยอะมากกกกก
พอถึงคิวเเละเเล้วก็เกิดปัญหา เลขไอดีพาสปอร์ตไม่ตรงกับที่จอง ไม่เเน่ใจว่าเราเผลอไปกดตัวโอเเทนเลขศูนย์ตอนจองหรือเปล่านะ เเต่กว่าจะสื่อสารกับพนักงานได้ก็นาน เพราะฝั่งนั้นพูดได้เเค่จีน เเต่โชคดีมีผู้หญิงคนจีนที่พูดอิ้งได้ช่วยเป็นล่ามให้ ก็เลยต้องกดยกเลิกเเล้วจองใหม่ ทั้งสองเที่ยว ไป-กลับ เซ็งเลย เเล้วก็ได้ตั๋วมาเเล้ว
รอบเดิม21:28 เเต่ขากลับจากลี่เจียงได้ตั๋วรถไฟเร็วมาเเทนจริงๆจองตู้นอนทั้งสองเที่ยว เเต่น่าจะเต็มเเล้ว
พอเปลี่ยนตั๋วไปเเพลนก็รวนนิดหน่อยเเต่เงินนี่สิ เอามาเเค่พอดี เลยคิดว่าคงไม่ได้ขึ้นไปภูเขาหิมะมังกรหยกเเล้วกลัวเงินไม่พอ เเต่ก็พอทำใจได้ พลาดเอง
15:00 น.
เหลืออีกหลาย ชม. ก็เลยทักหาเพื่อนจีนที่รู้จักผ่านเเอพหนึ่ง เดี๋ยวเราจะพากันไปสวนหยวนทง ระหว่างรอก็เดินไปเข้าห้องน้ำก็เจอculture shock เลย ห้องน้ำกลอนไม่ดีคนเขาก็นั่งทำธุระไปโนสนโนเเคร์ พิกัดห้องน้ำอยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟคุณหมิง เราเจอห้องน้ำเเบบนี้เเค่ที่นี่ที่เดียวที่อื่นสกปรกจริงเเต่ประตูกลอนดี เวลาผ่านไปเพื่อนก็มาละ จิน คือชื่อเพื่อนใหม่คนนี้
เราพากันมาสวนหยวนทง
สวนนี้เหมือนสวนสัตว์เลย มีช้าง มีนก เเละช้าง อื่นๆอีกมากมาย เเต่เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปเพราะมัวเเต่คุยกัน เดินต่อสักพักก็หิวน้ำเลยเเวะซื้อ
ได้ชามาเเล้ว สดชื่นเลยทีนี้ เเต่จำชื่อชาไม่ได้เลย
เราเดินวนรอบสวนเสร็จก็เริ่มหิวเลยจะไปหาอะไรทาน เราเลยเดินหาร้าน พอได้ร้านก็ดูเมนูมีเเต่ภาษาจีน ให้จินเเนะนำให้ เป็น ก๋วยเตี๋ยวข้าวเราสั่งมาคนละเซท
มาเเล้ว เส้นคล้ายๆเฝอเลย พอลองกินรสชาติจืดๆตอนเเรกเเต่กินไปกินมาอร่อยเฉย เเต่ก็กินไม่หมดหรอก เเต่อิ่มมาก
หลังจากกินเสร็จ เราขอจินให้พาไปซุปเปอร์มาร์เก็ต จะซื้อของไว้กินบนรถไฟคืนนี้ เราเลยพากันเดินไป ย่อยอาหารไปด้วย
บรรยากาศระหว่างเดินไป
ถึงที่หมายซื้อของเสร็จ จินก็พามาส่งเรากับสถานีรถไฟ จากที่พวกเราอยู่เดินไปขึ้น metroไม่ไกล พวกเราต้องนั่ง metro ไปที่สถานีรถไฟ
เเละก็มาซื้อบัตรที่ตู้ก่อน ได้บัตรมาเเล้ว
นั่งรถไฟมาจนถึงทางเข้าสถานีรถไฟคุณหมิง เเต่จินมาส่งได้เเค่ด้านหน้าเราเลยต้องsay good bye กันตรงนี้เเหละ เเล้วเราก็ไปขึ้นรถไฟตู้นอนไปลี่เจียง โชคดีตู้ที่เรานอนมีเเค่2คน เป็นผู้หญิง เป็นส่วนตัวดี พี่ผู้หญิงก็หลับยาวจนเช้าเลย จนพนักงานต้องมาปลุกเราไม่กล้าปลุก
นี่คือที่เรานอนคืนนี้ มีปลั๊กเสียบเเบตอยู่ตรงทางเดินด้วย
Day:2 07:10 น.
มาถึงลี่เจียงตอน ตามเวลาเป๊ะๆไม่มีเลท
อากาศหนาวกว่าที่คุณหมิงนะ อุณหภูมิตอนนี้ราวๆ 10-12 องศา
วิวด้านหน้าของสถานีรถไฟ sunrise สวยมาก
เอาละถ่ายรูปเเล้วก็ไปหาป้ายรถเมล์ไปที่พัก หาข้อมูลมาว่ามีสาย18 วิ่งไปถึงเเถวที่พัก เเต่มาช้าเราเลยไม่เเน่ใจ ก็เลยไปถามเจ้าหน้าที่ คาดว่าน่าจะเป็นตำรวจ เขาก็พูดอิ้งไม่ค่อยได้ เเต่ก็ดูเป็นมิตรดูพยามช่วยอยู่ พยามสื่อสารกับเราๆเลยขอยืมโทรศัพท์โทรหาที่พัก ที่พักก็บอกรอสาย18 โทรเสร็จเราก็ขอบคุณเขา เเละคุณเขายังชี้ให้เรานั่งรอสาย18 ที่ป้ายนั้น ประทับใจอะ
เดินไปอีกนิดก็จะเจอป้ายรถเมล์
จริงๆคนจีนน่ารักนะขนาดตำรวจที่เราเคยกลัว มาเจอตำรวจที่นี่เขาใจดีนะ เเละยังพยามช่วยเเม้สื่อสารกันไม่ค่อยได้ยังพยามช่วยเราเลย ต่างกับตำรวจบางประเทศ คุยภาษาเดียวกันเเต่เวลาประชาชนเดือดร้อนก็ยังไม่เเม้เเต่จะสนใจ ไม่ดูดำดูดีเขาเลย oops! พูดไป จะโดนเเบนไหมนะ
เรานั่งรอรถสาย18นานก็ไม่มาสักที เลยหาใน du maps เห็นว่าสาย4 ก็ไปได้ เราเลยนั่งสาย4เอา รถมาพอดีเลย เราขึ้นมาคนเเรกมั้งสถานีต้นสาย(ก่อนขึ้นรถบัสทุกครั้งเราจะโชว์ที่หมายใน du maps appให้คนขับดูก่อน เพื่อความเเน่ใจถ้าเขาพยักหน้าก็ขึ้นได้เลย)
Hello lijiang ชมวิวระหว่างนั่งบนรถบัสเมืองนี้มองไปทางไหนก็สวยด้วยวิวภูเขาที่รายล้อม
ขับไปสักพักลุงคนขับก็จอดป้ายๆหนึ่งสักพักใหญ่ๆเลย นึกว่ารถเสียเเต่ที่เเท้ลงไปสูบบุหรี่เเล้วก็กลับขึ้นมา รถเมล์ก็มาจอดที่หมาย
08:40 น.
เราก็เดินลงไปหาที่พัก เราไม่ได้พักใน old town นะ พักโรงเเรมข้างนอกที่ใกล้ๆเดินเเค่15นาทีถึง old townเลย ที่พักเราชื่อ mama Nexi guesthouse ราคาคืนละ 136 หยวน ตีเป็นเงินไทยก็เกือบ700 มาถึงก็ทำการเชคอิน
ระหว่างรอเชคอินพนักงานเอาขนมมาให้อร่อยดีเเต่เคี้ยวยากติดฟันไปหน่อย
คืนนี้เรานอนที่นี่นะขอบอกเลยว่าห้องกว้างมากเลยสำหรับคนเดียว
ถึงห้องก็ขอนั่งพักสักเเปบเเล้วก็ออกเดินทางต่อจะไป blue moon valley ต่อ ถามพนักงานได้เขาก็ให้เเอด wechat เขาเเล้วเขาก็ปักหมุดป้ายรถเมล์มาให้ ดีมากไปตามหมุดได้เลย ไปโลด มาถึงป้าบเราต้องรอรถสาย 101 ไปที่อุทยาน รถบัสมาเเล้วก็ขึ้นเลย ราคาก็ 25 หยวนนะ
ดูวิวข้างทางมาจนถึงข้างในอุทยาน ได้ตั๋วมาราคา50หยวนใช้บัตรนักศึกษาไทย
11:15 น.
พอเข้ามาถึงเขตอุทยานจะเจอเจ้าหน้าที่เอาใบมาให้สเเกนจ่ายเงิน เเต่เราสเเกนไม่ได้ก็สามารถบอกเจ้าหน้าที่ขอจ่ายผ่าน Alipay รถพามาจอดที่ทางเข้าที่ซื้อตั๋วเลย ข้างบนนี้อากาศเย็นๆนะมีลมด้วย เเนะนำให้ใส่เสื้อกันหนาวหนาๆมาถ้าจะขึ้นไป ภูเขาหิมะมังกรหยก เเต่เราจะไปเเค่ blue moon valley นะ เนื่องจากเสียเงินซื้อตั๋วรถไฟมาใหม่กลัวงบไม่พอ
ฝั่งตรงข้ามกำลังโชว์ impression Lijiang เลยดูจากบนนี้สักพักก่อนเข้าไปซื้อตั๋ว
ได้ตั๋ว shuttel bus มาเเล้ว ราคา20หยวน เเละรถบัวก็มาเเล้วคนเต็มรถเลย ทั้งต่างชาติเเละคนจีนเองก็เยอะมาก
12:13 น. รถจะจอดตรงจุดที่2 จุดเเรกรถจะจอดตรงจุดขึ้นกระเช้าก่อน เเละจุดที่2 คือ blue moon valley ที่เราจะไปกัน เเล้วก็มาถึงจุดนี้ ต้องเดินลงไปดูจุด highlights ต่างๆของที่นี่ ก่อนเดินไปก็เตรียมโทรศัพท์กับขาตั้งกล้องให้พร้อม เเล้วลุยกันเลย
เเละนี่คือจุดต่างๆที่สวยเป็นhight lights ที่พูดถึง ภาพทะเลสาบสีฟ้าเเละวิวภูเขาหิมะด้านหลัง ดึงดูดผู้คนได้เป็นอย่างดี เเม้เเต่ตัวเราเองยังต้องมาดูเเละสัมผัสถึงที่นี่เลย
ยังไม่หมดที่นี่คนนิยมมาถ่ายพรีเวดดิ้งมาก
มีอีกหลายจุดมากที่ยังไม่ได้ไป เราใช้การเดินสำรวจตามจุดต่างๆ จริงๆมีรถบัสฟรีรับส่งไปเเต่ละจุดนะ เเต่เราชอบเดินมากกว่า มันได้เห็นอะไรมากกว่า เราเดินเล่นมาเเค่สองชั่วโมง อยากไปต่อ เเต่ร่างกายไม่ไหว อาจเพราะไม่ได้กินอะไรมาหรือไม่ก็เพราะมาเจออากาศที่ไม่ชินด้วย รู้สึกเหนื่อยง่ายกว่าปกติ
รูปสุดท้ายก่อนกลับเป็นรูปดอกซากุระสีอ่อนตัดกับท้องฟ้าสีคราม
14:00 น.
นั่งรถบัสเขียวกลับไปด้านหน้าเเล้วขึ้นรถเมล์สาย101 กลับลี่เจียงราคาเดิม 25 หยวน ถึงที่พักก็อาบน้ำเเต่งตัวนั่งพักนอพักให้หายเหนื่อยก่อน
17:30น. Lijiang old town
ถึงเเล้วเราเข้าทางนี้เเหละ สารภาพตามตรงคือเดินไปถึงเเต่ละจุดเเบบมั่วๆเอา มีเเผนที่นะเเต่ดูไม่รู้เรื่องเลย ข้างในมันกว้างมากเเละทางก็ซับซ้อน
ข้างในจะมีร้านค้าเยอะเเยะเต็มไปหมด มีร้านชุดให้เช่าถ่ายรูปด้วย เราเดินผ่านเห็นคนสวยๆหล่อๆกันมาถ่ายทั้งนั้นเลยพอท้องฟ้าเริ่มมืดคนก็เริ่มครึกครื้น ใจกลางเมืองมี local dance ด้วย คนมุงเยอะมาก คนท้องถิ่นจะมารวมตัวกันdanceตรงนี้เเละคนอื่นๆนักท่องเที่ยวก็สามารถjoinได้ น่าสนุกดีเเต่คน introvert เเบบเราคงขอเเค่เก็บภาพมาฝากดีกว่า เเฮร่ๆ
เเละเราก็เดินมาถึงจุดนี้คิดว่าเป็นจุดถ่ายรูปที่วิวสวยที่สุดของที่นี่ ณ ตอนนี้
20:00 น.
ต้องเดินออกจากที่นี่เเล้ว เเต่ว่าหลงทิศ อยู่ตรงไหนของเมืองยังไม่รู้เลย คนเริ่มทยอยเก็บของบ้างเเล้ว
ระหว่างหาทางกลับ เห็นวิวสวยดีเลยถ่ายมา สรุปเป็นทางตันสุดทางมีโรงเเรม ขาเดินกลับก็เเวะถ่ายรูปตัวเองอีกหนึ่งเเซะ นี่ขนาดกดดันหาทางออกยังไม่เจอนะเนี้ย ยังมีอารมณ์ถ่ายรูป
เดินวนอยู่นานดู du maps ก็ไม่รู้เรื่องดู apple map ก็ยังหาไม่เจอ เเต่สุดท้าย Apple Maps ก็พาเราออกมาได้เเบบงงๆ ใน คหสต ของเรา du maps ใช้กับการขึ้นรถเมล์ รถไฟ จะเเม่นสุด ส่วน apple maps ใช้ในการเดิน หลังจากเดินออกมาได้ก็ได้ยินคนพูดไทยที่เดินตามหลังเราออกมา น่าจะเป็นเเฟนกัน เขาก็บ่นกันใหญ่กว่าจะหาทางออกได้ โอเค เข้าใจละไม่ใช่เราคนเดียวสินะ
20:30น.
รู้สึกหิวเลยหาของกินก่อนกลับที่พักดีกว่า
เลือกซื้อเป็นมาม่าเเบบมั่วๆเเละนม รสชาติมาม่าคือกินกันตายจืดชืดมาก เเต่กินหมดเพราะความหิว ส่วนนมคือช่วยชีวิตเราได้มาก เเปลได้ว่านมข้าวโอ๊ต ชอบนมอันนี้สุดในทริปนี้
วันที่3 Lijiang 07:46น.
เปิดหน้าต่างห้องมองไปก็เห็นพระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี
วันนี้ต้องกลับไปคุณหมิงเลยตื่นเเต่เช้าเก็บกระเป๋าเเล้วเชคเอ้าท์ออกเเละฝากกระเป๋าไว้ก่อน ก่อนกลับมีอีกที่ๆต้องไปคือ สระมังกรดำ ซึ่งอยู่ในสวนสาธารณะยู่วฉวน จากที่พักต้องนั่งรถเมล์สาย8 ไป รถจะมาจอดไม่ไกลจากสวนยู่วฉวน หลังจากลงรถก็เดินไป
ทางเข้าสวนเต็มไปด้วยซุ้มดอกซากุระ
09:30 น.
ที่จริงเเล้วมีค่าเข้าสวน 50 หยวนนะ ถ้าจะไปดูสระมังกร เเต่วันนี้อากาศไม่ดี พนักงานเเจ้งว่าอาจไม่เห็นวิวของภูเขา ตอนเเรกเลยว่าจะไม่เข้า เเต่เปลี่ยนใจเพราะไหนๆก็มาเเล้ว เเต่เดินไปอีกประตู พนักงานก็บอกให้ดูที่ป้ายเเล้วสเเกนจ่าย เรากำลังจะจ่าย เขาก็ถามว่ามาคนเดียวหรอ เป็นภาษาจีน เดาจากบริบทเอา เราก็พยักหน้า เขาเลยบอกให้เข้าไปได้เลย เราก็ขอบคุณเเล้วเดินเข้ามาเเบบงงๆ สรุปไม่ได้จ่าย
ข้างในสวนมีการรำอะไรสักอย่างด้วย เเล้ววิวสระมังกรดำที่เราเห็นก็เป็นไปตามคาดเเทบไม่เห็นวิวภูเขา ท้องฟ้าไม่เปิด
12:20น.
เดินได้ชม.กว่าๆก็กลับ เราจะไปหาอะไรกินเเถวที่พักก่อนไปสถานีรถไฟก็เห็นมีร้านก๋วยเตี๋ยวของคุณยายท่านหนึ่ง ยายพูดอิ้งไม่ได้ เเต่ดูใจดีเเละเป็นมิตร เราเลยสั่งก๋วยเตี๋ยวไก่กิน ใช้เเปลภาษาเอา
ดูน่าอร่อย เเต่ไม่อร่อยส่วนตัวเราไม่ชอบกลิ่นไก่เลย มันสาบเเปลกๆไม่ถูกจริตพยามกินเเค่เส้น เเละก่อนกลับก็ไปซื้อนมข้าวโอ๊ตมาอีก2กล่อง ทริปนี้เราชอบนมข้าวโอ๊ตที่สุดเเล้ว
12:50 น.
มาเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่พักเเละนั่งเล่น wifi สักพัก เวลาจะใช้wifiที่จีนต้องมีVPN นะถึงจะเข้าเเอพ google,facebook,Ig ที่พวกเราเล่นเป็นประจำได้ เเต่ถ้าใครใช้โรมมิ่งก็ไม่ต้องก็ได้ เเต่ขอบอกไว้ก่อนมันเปลืองเน็ตมากเลยนะ เราใช้ของAIS โปร399เน็ต6gb วันเดียวเน็ตหมดเกินครึ่ง เลยต้องซื้อเพิ่มอีกโปร เน็ต7 gb 10 วัน สมัครเอาจากเเอพ MY AIS หลังจากใช้wifiหาข้อมูลที่เที่ยวที่ต้องไปเสร็จ ก็เดินไปป้ายรถเมล์นั่งสาย 4 ไปส่งที่สถานีรถไฟเลย
14:30 น. ถึงสถานีรถไฟลี่เจียง
รูปถ่ายเเถวๆสถานีรถไฟตอนนี้ท้องฟ้าสวยมากเลยนะตอนเช้ายังมืดๆอยู่เลย
วันสุดท้ายที่อยู่ที่นี่เเล้วสินะ เวลาช่างผ่านไปไวจริงๆ คิดว่าถ้ามีโอกาศเเละเงินพร้อมกว่านี้จะกลับมาเที่ยวอีกนะ ตกหลุมรักเมืองนี้สุดๆ ก่อนเข้าสถานีรถไฟเหลือกเวลาอีกหลายชั่วโมง รถไฟออก 17:30น ก็เลยหาร้านกาเเฟเเถวๆนั้น ร้านกาเเฟจะอยู่ใกล้ๆ MC เลย เราสั่งลาเต้ร้อนมา
ลาเต้ร้อนเเก้วเล็ก 135 บาทไทย เเพงนะเเต่ถือซะว่าจ่ายค่านั่งเล่นwifi
16:00น. นั่งเล่นจนเวลาล่วงเลยมา ตอนนี้ต้องเดินกลับไปที่สถานีรถไฟพอเข้ามาข้างในสถานี เราก็สามารถเชคหมายเลขกับเวลาออกได้เลย
ดูที่ตรงนี้ได้เลย ดูเเค่เวลากับหมายเลขรถ
17:00น.
พนักงานก็เรียกให้ไปเชคอิน คนเยอะมากเบียดกันสุดๆเเละที่ไม่ชอบเลยคือคนที่มาเเซงคิว มาเเทรกเราเเละดูคนส่วนมากที่นี่เป็นเเบบนั้น เราก็ต้องตามสัญชาติญาณ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามเเทรกมาเเซงกลับ ไม่โกง ดั้นด้นเข้ามาจนได้ เดินตามทางจะมีเจ้าหน้าที่เชคตั๋วดูตั๋วให้อยู่ไม่ยาก เเค่อย่าสายก็พอ รถไฟที่นี่ออกตรงเวลามาก ดีนะเวลาไปไหนก็ตามเราจะเผื่อเวลาอย่างต่ำ3 ชม. อยู่เเล้ว ไม่เคยมีปัญหาเรื่องตกรถ ตกเครื่อง ไปไม่ทันเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว
เราได้ตู้13 ที่นั่ง2Bคือตรงกลาง ไม่มีปัญหาอะไรยังไงก็มาคนเดียวอยู่เเล้ว นั่งยาวไป4ชม.
21:40น. ถึงคุณหมิงเดินตามๆคนอื่นออกมา
จริงๆจะมีรถเมล์วิ่งไปที่พักอยู่ เเต่ขี้เกียจเดินหาป้ายเลยตัดสินใจเดินดูในเเอพบอกว่าใช้เวลาเดิน40นาที การเดินเเค่40นาทีมีกระเป๋าลาก1ใบกับกระเป๋าสะพาย1ใบ สำหรับเราชิวๆอยู่เเล้ว เเต่…อย่าได้ทำตามการเดินไม่ใช่ปัญหาเเต่ทางที่mapsพาไปมันทั้งมืด ทั้งเปลี่ยว ยิ่งตอนกลางคืน ยิ่งน่ากลัว ไม่มีคนเลย เลยรีบๆเดินกึ่งวิ่งที่ๆเปลี่ยวเเบบนี้ไม่อยากเดินๆอยู่เเล้วเจอคนเลยจริงๆเจอผียังดีกว่านะ เดินประมาณ40นาทีจริงๆก็ถึงที่พัก ก็เข้าเชคอิน
เราได้พักห้องหญิงรวมเตียงบนโดยรวมก็ดีนะ
ที่พักชื่อ The Hump hostel อยู่ใกล้ๆ golden horse and jade cock gate จองจาก trip.com ตกคืนละ383บาท เรานอนที่นี่2คืนก็766บาท โดยรวมที่พักดีเลยเเหละ อยู่ใกล้สถานที่สำคัญ พนักงานก็ดูเเลดีถามได้ตอบได้ ราคาก็ไม่เเพงมาก น้ำฟรี มีเเค่ห้องน้ำที่อาจจะสกปรกนิดหน่อย ตามสไตล์hostel เเต่เราชินเเล้ว ทุกอย่างก็อยู่ในเกณฑ์ดี
23:10น . เรามาถึงก็ดึกเเล้วเเต่ยังมีน้านอาหารตามทางเปิดอยู่เพียบ เราอยากกินหม่าล่าเลยหาร้านหม่าล่าก่อน
เจอร้านนี้พอดีเเละดูหม่าล่าสิ เราชอบมากโดยเฉพาะเห็ดฉ่ำน้ำซอส ข้าในคือดีมาก นุ่มมาก เเล้วกัดไปเจอน้ำซอสหม่าล่าข้างในคือฟินเลย เเต่เอาจริงไม่รู้ใช่หม่าล่าจริงไหมเพราะไม่เผ็ดชาลิ้น เเต่ซอสออกหวานๆ
กินคาวเเล้วต้องกินหวาน เข้าไปหาซื้อจากร้านเเถวนั้น กรุบๆเคี้ยวเพลินดี
00:30 น. เดินเล่นย่อยอาหารสักพักกลับที่พักไปอาบน้ำนอน ดูนาฬิกาคือตี1 นอนละ ฝันดี
Day:4 เวลา : 11:00 น.
วันนี้ตื่นสายเเละตื่นมารู้สึกเหมือนจะเป็นหวัด ไม่สบาย ร้อนหน้าผ่าว หน้าเเตก ลอก น่าจะเป็นเพราะอากาศเเห้งเราเลยหาครีมว่านหางจรเข้มาทารู้สึกเเสบๆเลย เเต่ก็ยังพาตัวเองลุกจากที่นอนไปเที่ยวต่อ มันวันเที่ยววันสุดท้ายก่อนกลับเเล้วจะให้นอนพักเพราะเรื่องเเค่นี้ไม่ได้หรอก เเต่วันนี้ไม่ได้ไปไหนเยอะเท่าไหร่ ออกจากที่พักก็มาถ่ายรูปที่นี่
golden horse and jade cock gate พอดีเจอพี่คนไทยด้วยเลยช่วยถ่ายรูปให้กัน
12:25น.
จากนั้นก็เดินไปวัดหยวนทงใช้เวลาเดิน30-40นาที เหนื่อยนะวันนี้ เพราะไม่สบายด้วยเเต่ก็พาตัวเองมาจนถึงวัดจนได้เสียค่าเข้าไป30บาท
ระหว่างทางเดินไปเราก็ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่
ข้างในวัดก็มีผู้คนมากมายที่มาเยี่ยมชมบางคนก็มาเพราะความศรัทธาเเละเชื่ออะไรบางอย่าง
อย่างตรงนี้เป็นบ่อปลา เเต่เห็นมีคนเอามือจุ่มน้ำในบ่อเเละเอามือมาลูบหีวก็เดาได้ว่าน่าจะเป็นความเชื่ออะไรบางอย่าง
เดินวนลูปอยู่ในนี้ไปสักพัก เรารู้สึกเหนื่อยจริงๆไม่ไหวเลยว่าจะเดินกลับละ เเต่นึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นคนรีวิวกาเเฟ luckin coffee ไว้ว่าอร่อยเราเลยว่าจะไปลองดู ก็เปิด mapsหาเเละเดินไป
ร้าน lukin coffee เเบบ take away นะ
13:38 น.
กาเเฟสั่งค่อนข้างยากเพราะไม่มีภาษาอังกฤษ เราต้องให้พนักงานช่วย กดๆให้ เเล้วเราก็สั่งกาเเฟเเบบมั่วๆเพราะอ่านไม่ออก รู้อีกทีคือเป็นลาเต้มะพร้าวร้อน เเก้วใหญ่ ราคา 70 บาท หืมม หอมมาก กินเเล้วรู้สึกหวัดหายไปเลย รสชาติดีเลยละเเต่หวานไปหน่อย เราไม่ชอบกินหวาน เเต่โดยรวมก็ถือว่ารสชาติดี กินเสร็จก็เดินกลับที่พัก
ระหว่างทางเดินกลับที่พักเจอเซียวจ้าน จ้านเกอ เว่ยอิงด้วยเห็นเเค่รูปก็มีความสุขเเล้วเป็นเเฟนคลับพี่จ้าน
14:39 น.
ถึงที่พักเเล้ว ก็ไม่รอช้ารีบไปนอนพักผ่อนเอาเเรงก่อน ตอนเย็นค่อยลงมาเดินเล่นเเละหาข้าวกิน ตอนเย็นๆ เอา เเต่ไม่อยากออกไปคนเดียวเลยทักหา จิน เพื่อนคนจีนอีกครั้งเขาทำงานถึงห้าโมงครึ่ง เดี๋ยวเขามาหา พอใกล้เวลานัดเราเลยเดินลงไปรอข้างล่าง
19:00น. พระอาทิตย์กำลังตกพอดี ผู้คนก็มาถ่ายภาพกัน
รอสักพักจินก็มาถึง เขาบอกว่าเดี๋ยวไปกินมื้อเย็นกัน เราก็ตกลงไปกินมื้อเย็นกัน
19:37น.
จินเป็นคนเลือกร้านอีกครั้งๆนี้เป็นข้าวกับผัดต่างๆเเละมีซุปหนึ่งถ้วย เราว่ามันเยอะมากๆเลยนะเชทนี้ มีชาร้อนด้วย ถ้าตีเป็นเงินไทยก็ประมาณ500 ถ้าหาร2 ก็ตกคน250 เเค่เห็นก็รู้ละว่ากิน2คนไม่หมดหรอก มีข้าวพูนๆให้ด้วย2ถ้วย ข้าวเติมได้ เห็นจินเขาเติมข้าวอยู่นะเเต่เรากินไม่หมดข้าวเหลือตั้งครึ่ง
ชุดเซตที่เลือกมาสำหรับ2 คน
เมนูนี้เราชอบสุดสำหรับอาหารเซตนี้ อาหารที่นี่จะมันๆกินเเล้วอาจเลี่ยน เเต่เมนูนี้สำหรับเราคือไม่เลี่ยนเลย ก็เลยชอบ
ระหว่างกินข้าวจินก็สั่งชาจากอีกร้านมาให้ เหตุเกิดจากวันเเรกที่เรามาถึงที่ไปกินก๋วยเตี๋ยวข้าวกับเขาตอนนั้นจินสั่งเเบบร้อนของนางเป็น rose milk tea ของเรากับเป็น jasmine lemon tea เเต่พอซิมของนางเเล้วดันชอบไง วันที่กลับมาคุณหมิงเลยทักถามว่ามันคืออะไร อยากกินให้ได้ วันนี้มากินข้าวกันนางเลยสั่งมาให้
Ice rose milk tea มันจะเป็นชานมหอมๆหวานๆมีเหมือนเนื้อกุหลาบเเห้งใส่มาให้ด้วยได้เคี้ยวเล่นๆ เป็นอีกอย่างที่ต้องลอง
หลังกินข้าว ก็นั่งพักสักห้านาที เราไม่ได้ซื้ออะไรเป็นของฝากให้เขาเลยมีเเค่นมเม็ดที่อ่านรีวิวมาเขาบอกว่าคนจีนชอบซื้อกลับก็เลยเอานมเม็ดให้ไปเเล้วก็ให้เงินเหรียญ เเบงค์20 ของไทยไปด้วย บอกว่าเป็นของที่ระลึกก็ไม่รู้จะให้อะไรจริงๆเเต่ขอให้ได้ให้ คุยกันไปอีกสักเเปบก็ไปเดินเล่นรอบๆในตรอกซอกซอยจะมีร้านขายของ ขายอาหาร ของฝากอยู่ เยอะมากเดินย่อยอาหารวนไป
ตรงนี้พอมีไฟเเล้วสวยมาก
20:48น.
เดินสักพักเราก็อยากเข้าห้องน้ำ ก็เลยเดินกลับ hostel ไปเข้าห้องน้ำ พอดีข้างบน hostel ที่เราพักเปิดเป็นบาร์ด้วย เลยพากันขึ้นไปดื่มคนละเเก้ว เป็นครั้งเเรกเลยที่เราดื่มในบาร์ เลือกเป็น white Russian ส่วนจินก็สั่งเป็น gin tonic
The thump bar
21:32น.
ดื่มไปสักพักจนหมดก็ต้องเเยกย้ายกันเเล้ว เลยลงมาสั่งเขารอเเท็กซี่ จนเเท็กซี่มาเราก็กอดลากันตรงนี้เเหละ จนจินขึ้นเเท็กซี่กลับ เราก็โบกมือลา ปกติไม่ชอบการบอกลาเลย มันเหมือนกับว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีก จนิงๆมันก็เป็นเรื่องปกติ มีพบก็มีจาก
22:11น. Bye jin Thank you for everything and always welcome you to Thailand
23:04น.
หลังจากนั้นก็ยังไม่ไปนอนนะ ไปเดินเล่นเห็นน้ำส้มคั้นสดบวกกับรู้สึกเป็นหวัดด้วยเลยซื้อมา1เเก้วๆละ15 หยวน เเต่สเเกนไม่ได้เพราะเป็นวีเเชทเลยขอจ่ายเงินสดเเทน เเต่เงินสดขาดไป1หยวน คุณยายเจ้าของบอกไม่เป็นไรๆ น่ารักมาก เราก็ขอบคุณ เราเเอบเห็นที่ป้ายสเเกนมีภาษาไทยเขียนว่า คิดถึง ด้วย เราเลยทักไปว่าว่อซื่ิอไท่กั๋วเหริน คุณยายก็ยิ้มหัวเราะให้
น้ำส้มคั้นสดไม่มีน้ำตาลดื่มเเล้วสดชื่นมาก
หลังดื่มน้ำส้มเสร็จก็นั่งพักสักพักก่อนไปอาบน้ำนอน วันนี้ไม่ได้ไปไหนมากรู้สึกไม่สบายจริงๆ เเต่ก็ยังถือว่าเป็นวันที่ดี
Day5: วันเดินทางกลับ วันนี้ไม่มีอะไรมาก ขึ้น metro line 6 ไปสนามบินคุณหมิง ถึงสนามบินก็เดินตามๆคนอื่นมา เราต้องเชคอินกับ AirAsia ก็มองหาเค้าท์เตอร์ J รอเปิดให้เชคอิน พอเชคอินเเล้วก็เข้าเดินเข้าไปตรวจกระเป๋า ผ่าน ตม เเละ เข้า gate เลย
การเดินทางด้วยรถไฟที่จีนสะดวกมากเเถมยังถูกมากเเค่2หยวนหรือ10บาทไทย
เราเห็นมีเซเว่นใน gate เลยลองไปดูได้ซาลาเปาเห็ดกรอบมา อร่อยดีนะ จากนั้นก็รอเวลาขึ้นเครื่องกลับ
เป็นการจบทริปนี้เเบบจริงๆเเล้วจะร้องไห้ยังไม่อยากกลับเลย การมาเที่ยวจีนครั้งนี้เปิดประสบการณ์มาก มีเรื่องให้ช็อค เเละได้เจอปัญหาเรื่องตั๋วอีกก็ยังโชคดีที่ตอนนั้นตั๋วยังไม่เต็มเลยจองใหม่ได้ คราวหน้าจะต้องรอบคอบกว่านี้ เราจะบอกว่าเราไม่ได้มีประสบการณ์ท่องเที่ยวในต่างเเดนเยอะ นี่ก็เป็นครั้งที่2เอง เเต่เราชอบเที่ยวเเละชอบเที่ยวคนเดียวมากๆ ใจรัก เเละ ใจสู้ กับเรื่องเที่ยวมาก สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณที่อ่านกันจนจบ หวังว่าการเเชร์ประสบการณ์ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังจะไป
เราเขียนไม่เก่งยังอ่อนหัดมากๆเพิ่งฝึกเขียนยังไงก็ขอโทษไว้ก่อนเลยถ้าอ่านๆไปเเล้วสะดุด จะพยามฝึกเขียนให้ดีขึ้น
เราจะสรุปค่าใช้จ่ายคร่าวๆทริปนี้
ค่าตั๋วไปกลับ=5131บาท
ค่าตั๋วรถไฟไปกลับคุณหมิง-ลี่เจียง= 1679บาท
ค่าโรงเเรม3คืน= 1478บาท
ค่าเข้าอุทยานใช้บัตรนักศึกษาลดครึ่งหนึ่ง=262บาท
ค่ารถเมล์เขียวไป blue moon valley =105บาท
ค่าฝากกระเป๋า =400บาท
ค่ากิน +-ไม่เกิน1500 บาท
ค่าเข้าวัดหยวนทง=30บาท
ค่ารถบัส+metro =350บาท
ค่าเน็ตเราสมัคร2ครั้ง =819บาท
ประกันการเดินทาง=380 บาท
ค่าเข้าวัดหยวนทง = 30 บาท
รวม=12164 บาท
การเดินทางเรานั่งรถเมล์กับเดินมากกว่าสะดวกดี ถ้าจะไปไหนเราจะเชคจาก bu maps เเอพจีน เเต่ต้องใช้ภาษาจีนนะ ไม่ยากก็เเค่เข้ากรูเกิล เเล้วหาสถานที่ๆจะไปเป็นภาษาจีน copy มาใส่ใน เเอพเเค่นี้ เหมือนเเอพบ้านเราเเหละ อ่อเเล้วอย่าลืมโหลด VPN ก่อนไปด้วยนะ ย้ำอีกครั้ง ถ้าใช้ไวไฟจีนต้องมี vpn ถึงเข้าพวกที่พวกเราใช้ประจำได้ google,facebook,IG คิดว่าหลายคนคงขาดไม่ได้ เราก็เช่นกันเพราะงั้นอย่าลืมโหลดไปก่อนนะ
เรื่องการใช้จ่ายก็เราใช้ Alipay เราผูกบัตรกับ true money wallet เราไม่มีบัตรอื่น ใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนเงินสดบางร้านก็รับนะ ซุปเปอร์มาเก็ตในห้าง เรายังจ่ายเเบงค์100หยวนได้อยู่เลย ซื้อตั๋ว metro ก็จ่ายเป็นเงินสดได้นะ เเละร้านคุณยายขายน้ำส้มเราก็จ่ายเงินสดนะ เเต่เเค่ส่วนใหญ่เขาใช้จ่ายผ่านเเอพมากกว่าเเค่นั้น ทางที่ดีก็ถามก่อนว่ารับเงินสดไหม ใช้เเปลภาษาถามเอา
สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่าจริงๆคนจีนน่ารักนะ ถึงเขาจะไม่พูดภาษาอังกฤษกัน เเต่เขาจะใช้เเปลภาษาสื่อสารกับเราเวลาเราขอความช่วยเหลือ ไม่ได้ภาษาจีนอาจลำบากเเบบเราเเต่มันก็สนุกดี ได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ถ้าใครที่ยังลังเลกลัวนั่นกลัวนี่ เราจะไม่ได้ไปไหนเลยนะ ทุกประเทศมีข้อดีเเละข้อเสีย
Let’s see the world when you still young it’s worth it
LuckyToGo
1
โฆษณา