เหตุการณ์สุดสยอง ในกีฬาโอลิมปิก ยุคกรีกโบราณ และบทเรียนที่ควรค่าแก่การจดจำ
• ที่มาของกีฬาโอลิมปิก
https://pin.it/1nsNwmgYR
กีฬาโอลิมปิกยุคโบราณเริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 776 ก่อนคริสตกาล ที่เมืองโอลิมเปียในประเทศกรีซ โดยมีการจัดขึ้นทุกๆ สี่ปีเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพเจ้า Zeus
นั่นหมายความนี่ถือเป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธ์ของชาวกรีกในยุคนั้นก็ว่าได้ และพวกเขาให้ความสำคัญกับประเพณีนี้เป็นอย่างมากครับ ทำไม?
เพราะนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันมักจะอุทิศชัยชนะของพวกเขาให้กับ Zeus เพื่อขอพรและความเมตตาจากเทพเจ้า และพวกเขาถือว่าเป็นเกียรติมาก และสังคมสมัยนั้นก็ให้ความสำคัญกับ เกียรติยศ ชื่อเสียงอีกด้วย
ดังนั้น นักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมแข่งขันจะต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มที่ในการแข่งที่สำคัญนี้ ถึงแม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม...
ซึ่งนี่ก็เกิดขึ้นกับนักกีฬามวยปล้ำที่มีชื่อเสียงในยุคกรีกโบราณคนนึงนั่นคือชายที่มีชื่อว่า " อาร์ริคคิออน " ครับ
เขาคนนี้เป็นใคร? เกิดเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองอะไรในการแข่งกีฬาครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา? เพจ live and learn จะมาเล่าให้ฟังครับ
• ประวัติของอาร์ริคคิออน
อาร์ริคคิออน เกิดและเติบโตในเมืองฟีกาเลีย (Phigalia) ซึ่งเป็นเมืองในแคว้นอาร์คาเดีย (Arcadia) ของกรีซโบราณ ในเมืองที่เขาเกิดมานี้เองก็เป็นเมืองที่ให้ความสำคัญกับกีฬาและศิลปะการต่อสู้ เป็นไปได้ที่ตั้งแต่เด็กอาร์ริคคิออนอาจได้ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้ที่นี่
https://pin.it/7gjEB9gth
เมื่อโตขึ้น อาร์ริคิออน ก็กลายเป็นนักกีฬาพังคราเทียนที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น แล้วกีฬาที่ว่านี้คืออะไร?
พังคราเทียน เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ผสมผสานการชกมวยและการปล้ำ รวมถึงการเตะและการล็อกข้อที่คล้ายกับ กีฬาต่อสู้ MMA ในยุคปัจจุบันครับ และพังคราเทียน ก็เป็นกีฬาต่อสู้ที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น
แล้วชีวิตของเขาในเส้นทางสายนี้ต้องจบลงอย่างไร?
เกิดเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองอะไรขึ้นจนกลายเป็นที่จารึกในหน้าประวัติศาสตร์จนมาถึงยุคปัจจุบัน?
• เหตุการณ์ช่วงสุดท้ายในชีวิตของอาร์ริคคิออน
ในช่วงยกสุดท้ายของการแข่งขันในชีวิตของเขา
อาร์ริคคิออนต้องเจอกับคู่แข่งที่ยากจะต่อกรตามบันทึกของนักภูมิศาสตร์ที่ชื่อ พอซาเนียส ได้กล่าวว่า..
คู่แข่งคนดังกล่าวได้จับตัวอาร์ริคคิออนก่อนและกอดเขาด้วยขาของเขา พร้อมกับบีบคอเขาด้วยมือของเขา
แต่ในช่วงเวลาที่เสียเปรียบนั้น อาร์ริคคิออนได้ทำสิ่งที่ไม่คาดคิด และสร้างความเจ็บปวดอย่างมากให้กับคู่ต่อสู้ เขาทำอะไร?
อาร์ริคคิออนได้บิดนิ้วเท้าของคู่ต่อสู้จนหลุดออกมา
ซึ้งสร้างความเจ็บปวดให้กับคู่ต่อสู้อย่างมาก แต่...
เขาก็เสียชีวิตเนื่องจากการขาดอากาศหายใจ แต่คู่ต่อสู้ที่ทำให้เขาขาดอากาศหายใจก็ขอยอมแพ้เช่นกันเนื่องจากความเจ็บปวดในนิ้วเท้าของเขา ชาวเอเลียน (Eleans) จึงมอบมงกุฎและประกาศชัยชนะให้กับศพของอาร์ริคคิออน
ฟิโลสตราตัสแห่งเอเธนส์ยังให้ความเห็นว่า
การที่อาร์ริคคิออนไม่ยอมแพ้ต่อคู่ต่อสู้ของเขาเป็นผลมาจากการที่ผู้ฝึกสอนของเขาที่ชื่อ เอริกเซียส (Eryxias) ตะโกนบอกเขาว่า "อะไรคือคำจารึกที่ทรงเกียรติ 'เขาไม่เคยพ่ายแพ้ที่โอลิมเปีย!!! "
นี่คงทำให้อาร์ริคริออนใช้แรงเฮือกสุดท้ายเพื่อเอาชนะคู่ต่อสู้แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม...
• บทเรียน
ชาวกรีกในยุคโบราณให้ความสำคัญและจริงจังมากกับเรื่องของเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ชื่อเสียง และก็ความกล้าหาญ ถึงแม้ว่า พวกเขาอาจจะต้องแลกมาด้วยชีวิตก็ตาม เช่นตัวอย่างที่เราเห็นในการแข่งขันกีฬาที่โหดเหี้ยม ที่เกิดขึ้นในยุคกรีกโบราณ นอกจากนั้นนักกีฬาที่มาจากรัฐต่างๆของกรีก ก็ต้องรับความกดดันเพื่อที่จะคว้าชัยชนะ เพื่อชื่อเสียงของรัฐของพวกเขาอีกด้วย
ดังนั้นเราจะเห็นว่า เราแต่ละคนมักจะให้ค่าความสำคัญ กับบางสิ่งบางอย่างในชีวิตไม่เหมือนกันเช่น
บางคนให้ความสำคัญกับเรื่องของชื่อเสียเงินทอง บางคนให้ความสำคัญกับเรื่องความสัมพันธ์ ความรัก หรือบางคนให้ความสำคัญกับความรู้ หรือการใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในทุกๆวัน
ดังนั้นคุณค่าในชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นถ้าเราให้ความหมาย หรือคุณค่ากับอะไรแล้ว เรามักจะทุ่มเท แรงกาย แรงใจไปกับเรื่องนั้นๆได้ แล้วไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราก็จะไม่ยอมแลกอะไรก็ตามกับสิ่งๆนั้น ที่เรามองว่ามันมีค่า แม้กระทั่งชีวิตของเราเองก็ได้ เหมือนกับตัวอย่าง
ของชายที่ชื่ออาร์ริคคิออน แล้วเมื่อเราทำอย่างเต็มที่สุดความสามารถแล้ว เราก็จะไม่มานั่งนึกเสียใจภายหลังถึงสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำ
ดังนั้นไม่ว่าเราจะมีเป้าหมายอะไรก็ตาม ถ้าเราอยากทำมันให้สำเร็จ ให้เราลองใส่ความหมาย คุณค่า หรือความสำคัญ ต่อเรื่องนั้นๆว่าทำไมเรื่องนั้นถึงมีความหมายต่อตัวชั้นเอง เมื่อเราทำอย่างนี้แล้ว เราจะใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย และมีคุณค่ามากขึ้นนั่นเอง สิ่งนี้จะเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่จะกระตุ้นให้เราอยากตื่นขึ้นมาในทุกๆวัน เพื่อลงมือทำตามเป้าหมายให้สำเร็จได้ครับ
ที่มาของภาพ
reference
Brophy, Robert H. (1978). "Deaths in the Pan-Hellenic Games: Arrachion and Creugas". The American Journal of Philology. 99 (3). Johns Hopkins University Press: 363–390. doi:10.2307/293747. JSTOR 293747. PMID 16411322.
Pausanias. "Description of Greece VIII.xl.1-2". Perseus Project. Retrieved September 13, 2012.
Harris, H. A. (1964). Greek Athletes and Athletics. London: Hutchinson & Co. p. 108.
Matz, David (1991). Greek and Roman Sport: A Dictionary of Athletes and Events from the Eighth Century B.C. to the Third Century A.D. McFarland. p. 32. ISBN 978-0899505589.
Tyrrell, William Blake (2004). The Smell of Sweat: Greek Athletics, Olympics, and Culture. Wauconda, Illinois: Bolchazy-Carducci Publishers, Inc. pp. 138–140. ISBN 0-86516-553-X.
Philostratus the Elder; Philostratus the Younger (1969). Imagines. Loeb Classical Library. Trans. Arthur Fairbanks. Cambridge, Massachusetts; London: Harvard University Press; William Heinemann Ltd. p. 153.
Nicholson, Nigel James (2005). Aristocracy and Athletics in Archaic and Classical Greece. Cambridge: Cambridge University Press. p. 129. ISBN 978-0-521-84522-9.
"Ancient Olympics - Philostratus, Gymnasticus 21". KU Leuven. 2012. Retrieved September 18, 2012.
Hyde, Walter Woodburn (1921). Olympic victor monuments and Greek athletic art. Washington, D.C.: Carnegie Institution of Washington. pp. 326–328.
Harker, Barry R. (1996). Strange Fire: Christianity and the Rise of Modern Olympism. Rapidan, Virginia: Hartland Publications. p. 2. ISBN 0-923309-49-7.
Hyde, Walter Woodburn (1914). "The Oldest Dated Victor Statue". American Journal of Archaeology. 18. Archaeological Institute of America: 156–164. doi:10.2307/497402. JSTOR 497402.
J. T. (September 1848). "Arrichion". The Christian Lady's Magazine. 30 (3). London: Seeleys: 240–243.
Threlfall, Jennette (1873). Sunshine and Shadow. Poems. London: William Hunt and Company. pp. 24–27.
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
