Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
live and learn วิเคราะห์เรียนรู้ไปด้วยกัน
•
ติดตาม
2 ส.ค. 2024 เวลา 13:29 • ไลฟ์สไตล์
7 นิสัยง่ายๆที่ช่วยให้เราเป็นคนฉลาดและประสบความสำเร็จ ทั้งในองค์กรและการใช้ชีวิต
• พูดถึงเรื่องความฉลาด
สิ่งที่เราจำเป็นต้องมีนอกเหนือจากความฉลาดทาง
อารมฌ์คืออะไร?
คือความฉลาดทางความคิดหรือ ( intelligent ) นั่นเอง
และสิ่งนี้สามารถฝึกกันได้ ถามว่าทำไมสิ่งนี้ถึงสำคัญและจำเป็นในยุคปัจจุบัน?
แน่นอนหลายๆองค์กรหรือหลายๆบริษัทต่างต้องการคนที่ดี ซื่อสัตย์ มีความฉลาดทางอารมฌ์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาก็อยากได้คนที่เก่ง ปรับตัวได้ เรียนรู้ไว มีความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาด้วยจริงมั้ย?
นอกจากนั้นคนที่ฉลาดยังสามารถแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว หรือความสัมพันธ์
ดังนั้นถ้าเรามีทั้งความฉลาดทางอารมฌ์ + ความความฉลาดทางปัญญา ชีวิตเราก็จะประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
• แล้วเราจะฝึกความฉลาดทางปัญญาหรือ ( intelligent ) ได้ยังไงบ้าง? เรามีนิสัยง่ายๆ ที่ทำได้ทุกวันมาฝากกันครับ
1. ฝึกการคิดเชิงกลยุทธ์: ใช้เวลาในการวางแผนล่วงหน้าและคิดเกี่ยวกับเป้าหมายของคุณอย่างเป็นระบบ
ในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ เช่น
การจัดตารางเวลาและการวางแผนงานว่าวันนี้มีงานสำคัญอะไรที่ต้องทำให้เสร็จบ้าง งานไหนควรทำก่อนทำหลัง หรือวางแผนว่าสุดสัปดาห์นี้จะทำอะไร หรือวางแผนว่าจะโน้มน้าวให้แฟนกลับบ้านเร็วขึ้นได้ยังไงบ้าง หรือวางแผนว่าจะทำยังไงให้ลูกค้าตอบรับข้อเสนอของบริษัท การฝึกวางแผนในหลายๆเรื่องแบบนี้จะช่วยให้สมองตื่นตัว และได้ฝึกการใช้สมองส่วนหน้า ซึ่งช่วยในเรื่องของการคิดและการวางแผนอย่างเป็นระบบ
2. ฝึกการวิเคราะห์สถานการณ์: ฝึกการวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ที่คุณเผชิญอยู่และประเมินข้อดีและข้อเสียของทางเลือกต่างๆ เพื่อทำการตัดสินใจที่ดีที่สุด เช่น
สมมุติลูกค้าคนนึงไม่พอใจและโวยวายการบริการจากทางร้านอาหารของเรา ให้เราลองวิเคราะห์ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร จากพนักงานมั้ย หรือเรื่องความสะอาด อาจจะถามจากลูกค้าโดยตรงก็ได้เพื่อทราบสาเหตุที่แท้จริง เมื่อรู้แล้วเราอาจหาทางแก้ไขหลายๆทาง และเลือกทางที่ดีที่สุดเช่น ลองพูดคุยแบบประนีประนอมก่อนมั้ยหรือถ้าไม่เกิดผลลองเสนอส่วนลดให้ลูกค้ารอบหน้ามั้ย เพื่อให้เขายังคงอยากกลับมาใช้บริการอีก การฝึกคิดแบบนี้ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ในแต่ละวันจะช่วยให้สมองของเราเฉียบคม มีความยืดหยุ่น และฉลาดขึ้นได้
3. ฝึกการควบคุมอารมณ์: ฝึกการควบคุมอารมณ์ของคุณเมื่อเผชิญกับความเครียดหรืออุปสรรค เช่น การฝึกการหายใจลึกๆ หรือฝึกการสังเกตุเพื่อรู้เท่าทันอารมฌ์ของตัวเอง ถ้าเราทำแบบนี้เป็นประจำ เราจะคิดและตัดสินใจดีขึ้นโดยไม่ให้อารมฌ์มาบดบังเหตุผล
4. ฝึกการอ่านคนอื่น: ฝึกการสังเกตพฤติกรรมและแรงจูงใจของคนรอบตัวคุณ เช่น ลองฝึกสังเกตุว่าสิ่งที่เพื่อนร่วมงานของเราพูด เขาอาจมีเจตนาอะไร เขารู้สึกยังไง
หรือลองสังเกตุว่าแต่ละคนมีบุคลิคแบบไหน นิสัยยังไง
การฝึกนี้จะช่วยให้เรารู้ว่าควรเข้าหาแต่ละคนยังไง หรือควรพูดแบบไหนเพื่อให้เขาพอใจ ทักษะนี้จะช่วยให้เราเข้ากับคนอื่นได้ดีขึ้น
5. ฝึกการจัดการทรัพยากร: เรียนรู้การจัดการทรัพยากรที่คุณมี เช่น การบริหารเวลาและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย
เช่น ถ้าฉันมีเวลา 1 ชม ฉันจะทำงานนี้ให้เสร็จได้ยังไงบ้าง การฝึกนี้จะกระตุ้นสองให้ทำงานหลายๆส่วน เช่น การวางแผน การคิดวิเคราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในเวลาที่จำกัด
6. ฝึกการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์: ฝึกการคิดนอกกรอบเมื่อเผชิญกับปัญหา เช่น การหาวิธีใหม่ๆ หรือแนวทางที่สร้างสรรค์ในการแก้ไขปัญหาที่คุณเจอ เช่น
เราลืมเอาเอกสารสำคัญที่ต้องใช้พรีเซนต์ในบริษัท แทนที่จะคิดว่าต้องรีบกลับไปเอา ลองคิดว่ามีทางอื่นอีกมั้ยเช่น ขอคนที่บ้านส่งมาให้ทาง grab มั้ย หรือถ้าไม่มีใครช่วยได้ อาจจะลองคิดดูว่าเราได้ backup ไฟล์นี้บน cloud ด้วยมั้ย การคิดแบบนี้ก็จะช่วยฝึกความคิดสร้างสรรค์ได้ครับ
7. ฝึกการเก็บข้อมูลและเรียนรู้: ใช้เวลาในการศึกษาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่คุณสนใจ เช่น การอ่านหนังสือ การศึกษาความรู้ใหม่ๆ หรือการวิเคราะห์เหตุการณ์ในชีวิตประจำวันเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงตัวเอง การเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นประจำจะช่วยให้เราเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ได้เร็วขึ้นด้วยครับ
ดังนั้น ถ้าเราทำตามทั้ง 7 อย่างนี้เป็นประจำทุกวัน รับรองว่าเราจะมีทักษะการคิดที่ดีขึ้น และฉลาดขึ้นแน่นอนครับ
Reference
- (Diamond, A. (2013). Executive functions. Annual review of psychology, 64, 135-168.)
- (Kahneman, D. (2011). Thinking, Fast and Slow. Farrar, Straus and Giroux.)
- (Gross, J. J. (2002). Emotion regulation: Affective, cognitive, and social consequences. Psychophysiology, 39(3), 281-291.)
- (Goleman, D. (1995). Emotional Intelligence: Why It Can Matter More Than IQ. Bantam Books.)
- (Macan, T. H. (1994). Time management: Test of a process model. Journal of Applied Psychology, 79(3), 381-391.)
- (Runco, M. A., & Acar, S. (2012). Divergent thinking as an indicator of creative potential. Creativity Research Journal, 24(1), 66-75.)
- (Ericsson, K. A., & Charness, N. (1994). Expert performance: Its structure and acquisition. American Psychologist, 49(8), 725-747.)
แนวคิด
พัฒนาตัวเอง
เรื่องเล่า
2 บันทึก
4
1
2
4
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย