Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มองต่างวัย
•
ติดตาม
2 ส.ค. 2024 เวลา 17:40 • ไลฟ์สไตล์
เมื่อโลกหมุนเร็วขึ้น เราจะอดทนไหม
ถ้าพูดถึงคำว่า ความอดทน ผมเชื่อว่าบทความนี้จะทำให้เข้าใจว่าคนแต่ละรุ่น ชนรุ่น หรือยุค (generation) ให้ความหมายของความอดทนในบริบทที่แตกต่างกัน ตามประสบการณ์ที่เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการสื่อสาร
ถ้าเราสลับบทบาทในปัจจุบัน ให้คุณปู่ใช้ Social Media โต้ตอบสื่อสารที่ตอบสนองได้ทันที อยากจะซื้อสินค้าและบริการ ก็สามารถเลือกสิ่งที่ต้องการ สั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ทันที หรืออยากจะทานอาหารก็สั่งผ่านออนไลน์ให้ส่งมาถึงที่บ้านได้อย่างสะดวกสบายเช่นกัน
1
ขณะเดียวกัน ให้คุณหลานส่งจดหมายติดแสตมป์ส่งไปรษณีย์เพื่อติดต่อสื่อสารกับเพื่อนสนิทที่อยู่ต่างจังหวัด แล้วต้องรออีกหลายวันกว่าเพื่อนจะตอบจดหมาย อยากจะซื้อสินค้า ก็ต้องติดตามพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ให้พาไปห้างสรรพสินค้าเพื่อจับจ่ายใช้สอย อยากจะทานอาหารที่ชอบ ก็ต้องเดินไปที่ร้านอาหาร ยิ่งร้านอาหารอร่อยมาก ๆ อาจจะต้องรอคิว ในสถานการณ์เดียวกันแบบนี้ ใครจะมีระดับความอดทนสูงกว่ากัน
หลายคนมักจะใช้คำว่า คนรุ่นใหม่ไม่มีความอดทน ในความเป็นจริงแล้ว คนที่ทุกวัยทุกรุ่นมีทั้งคนที่อดทนและไม่อดทน แต่ผมไม่เห็นด้วยในการที่พูดแบบเหมาเข่งว่า คนรุ่นใหม่ไม่อดทน ซึ่งคนรุ่นก่อนหน้านี้มักจะกล่าวหาและใช้ประสบการณเก่าแก่ของตนเองมาตัดสินคนรุ่นหลัง ผมจะมาเล่าให้เห็นภาพถึงเทคโนโลยีการสื่อสารและประสบการณ์ในช่วงที่เติบโตของคนแต่ละรุ่นส่งผลต่อความอดทนของคนในแต่ละยุคสมัย
คนรุ่นอาวุโส (Seniors) เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2471-2488 หรือ ค.ศ. 1928-1945 มีประสบการณ์ที่ผ่านความยากลำบากมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ เชื่อมั่นในระบบของกองทัพและระบบราชการ ที่ต้องมีระเบียบวินัย มีความจงรักภักดีต่อประเทศชาติและมีการเสียสละต่อสถาบันและองค์การ จึงถูกสอนให้เชื่อฟังคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ทำงานเพื่อส่วนรวม
คนรุ่นนี้เชื่อว่าการได้คัดเลือกเข้าทำงานทำเป็นสิ่งที่ยากและสำคัญอย่างยิ่ง จึงให้ความสำคัญกับความมั่นคงและทำงานจนเกษียณอายุ ในด้านการรับฟังข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงเป็นการรับฟังผ่านเครื่องวิทยุ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในสมัยนั้น มีการติดต่อสื่อสารกันผ่านจดหมาย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานในการรอคอยกว่าจะส่งข้อความถึงได้และรับข้อความตอบกลับ จากประสบการณ์ต่างๆ ที่กล่าวมานี้ ทำให้คนรุ่นนี้ได้เสริมสร้างความอดทนในระดับที่สูงมาก เมื่อเทียบกับคนยุคสมัยใหม่
1
ต่อมาคนรุ่นเบบี้บูมเมอร์ (Baby Boomers) เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2499-2507 หรือ ค.ศ. 1946-1964 ซึ่งมีสัดส่วนของประชากรมากที่สุดเมื่อเทียบกับคนรุ่นอื่น จากการฟื้นฟูประเทศหลังสิ้นสุดสงครามที่ต้องการเพิ่มประชากรเด็กเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลทำให้คนรุ่นนี้จะต้องแข่งขันเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยเฉพาะการแข่งขันเพื่อให้ได้งานทำ
คนรุ่นนี้จึงนิยมทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอด ในด้านการรับฟังข้อมูลข่าวสารและความบันเทิงผ่านสื่อโทรทัศน์ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากสำหรับคนยุคนี้ มีการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วขึ้นผ่านโทรศัพท์ อย่างไรก็ตามโทรศัพท์ทางไกลในขณะนั้น ก็มีค่าใช้จ่ายสูงมากเช่นกัน จากประสบการณ์ต่างๆ เหล่านี้ ก็หล่อหลอมทำให้คนรุ่นนี้มีความอดทนสูงเช่นกัน เมื่อเทียบกับคนยุคสมัยใหม่ แต่ไม่เท่ากับคนยุคก่อนหน้านี้
ต่อมาเป็นคนรุ่นเจนเอ็กซ์ (Gen X) เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2508-2523 หรือ ค.ศ. 1965-1980 เป็นยุคของสงครามเย็น มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่มีการหย่าร้างสูง พ่อและแม่ออกไปทำงานนอกบ้านเป็นเรื่องปกติ มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีรับรู้ข้อมูลข่าวสารผ่านเคเบิ้ลทีวีและเริ่มมีการใช้อินเทอร์เน็ต รวมถึงการสื่อสารและสร้างความบันเทิงต่าง ๆ เช่น วีดีโอเกมส์ เครื่องติดตามส่วนบุคคล และเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคคล รวมถึงโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งผลให้คนรุ่นนี้สามารถรับรู้ข่าวสารได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น
2
นอกจากนั้น จากการรับรู้ถึงประสบการณ์ของความตกต่ำทางเศรษฐกิจ สภาพสังคมที่มีการหย่าร้างสูง ได้เห็นการปลดพนักงานออกจากงาน แม้ว่าครอบครัวที่พ่อแม่ให้ความสำคัญทุ่มเทกับการทำงานและให้ความภักดีกับองค์กร ส่งผลให้คนรุ่นนี้ไม่เชื่อความภักดีต่อองค์กร จึงมุ่งเน้นการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก
คนรุ่นนี้จึงมองว่าชีวิตไม่ได้อยู่เพื่อทำงาน (live to work) แต่การทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต (live to work) จึงให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (work-life balance) จากประสบการณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยขึ้น ส่งผลให้คนรุ่นนี้มีความอดทนน้อยกว่าคนยุคก่อนหน้านี้
เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิตัล เริ่มจากคนรุ่นเจนวาย (Gen Y) เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2524-2539 หรือ ค.ศ. 1981-1996 ได้เติบโตท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นอย่างมากมาย จากความก้าวหน้าของอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเป็นที่แพร่หลายในปัจจุบัน จึงทำให้คนรุ่นนี้คุ้นเคยกับการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ตลอดเวลา รับส่งข้อมูลได้ทันที มีเครือข่ายสังคมออนไลน์ และนิยมจับจ่ายใช้สอยผ่านอินเทอร์เน็ต
จากความคุ้นเคยในการค้นหาเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว สามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงสร้างความบันเทิงผ่านการรับฟังเพลง เล่นเกมส์ หรือรับชมภาพยนตร์ได้ตลอดเวลา ทำให้คนรุ่นนี้เคยชินกับการตอบสนองต่อความต้องการของตนเองได้ทันที (instant gratification) จึงทำให้คนยุคนี้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการสื่อสาร ซึ่งได้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนรุ่นนี้
ทำให้การทำงานไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในสำนักงานอีกต่อไป จึงทำให้นิยมทำงานนอกสถานที่และต้องการความยืดหยุ่นในเวลาทำงาน จากประสบการณ์เหล่านี้ทำให้คนรุ่นนี้มีความอดทนอยู่ในระดับที่น้อยลงไปกว่าคนยุคก่อนหน้านี้อีก
และคนรุ่นเจนซี (Gen Z) เกิดในระหว่างปี พ.ศ. 2540-2555 หรือ ค.ศ. 1997-2012 รวมถึงคนรุ่นอัลฟ่า (Gen Alpha) เกิดหลังปี พ.ศ. 2556 หรือ ค.ศ. 2013 ที่เติบโตมาในยุคเทคโนโลยีที่ใช้สมาร์ทโฟน สื่อสังคมออนไลน์ และปัญญาประดิษฐ์ ที่ทำให้คนรุ่นนี้คุ้นเคยกับการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วมากและเข้าถึงได้ตลอดเวลา เป็นที่แพร่หลายมากกว่าคนทุกยุคสมัย
ทำให้คนรุ่นนี้มีการรับข้อมูลข่าวสารเป็นจำนวนมหาศาล ส่งผลต่อการลำดับความสำคัญในการรับข้อมูล มีช่องทางการติดต่อสื่อสารที่หลากหลายซึ่งต้องการสื่อสารเป็นจำนวนมากและต้องการการตอบกลับในทันที นอกจากนั้นความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถแปลภาษาต่างประเทศได้ทันที รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลหรือสรุปข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คนยุคนี้ถูกมองว่ามีความอดทนในระดับที่น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับคนทุกยุคก่อนหน้านี้
จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลต่อความอดทนของคนในแต่ละยุค จึงเป็นที่มาของ คนยุคสมัยก่อนหน้าที่อายุมากกว่า มักจะพูดถึงคนยุคใหม่ที่อายุน้อยกว่า ว่ามีความอดทนน้อยกว่า ผมเชื่อว่าคนรุ่นต่างๆ ในปัจจุบัน ก็ไม่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือสมาร์ทโฟนเช่นกัน ทำให้มีความอดทนน่าจะอยู่ระดับใกล้เคียงกันหมด
และในอนาคต หากคนรุ่นเบต้า แกมม่า หรือโอเมก้ามีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านโทรจิตได้ คนรุ่นเจนซี ก็จะพูดแบบเดียวกันกับคนรุ่นก่อนหน้านี้เช่นกันว่า คนรุ่นสมัยใหม่ทำไมมีความอดทนน้อยลง
อ้างอิง
https://anuruckwatanathawornwong.blogspot.com/2024/07/blog-post.html
สังคม
เทคโนโลยี
ไลฟ์สไตล์
4 บันทึก
8
9
4
8
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย