Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Health Story - เฮ้วนี้มีเรื่อง
•
ติดตาม
9 ส.ค. เวลา 06:44 • สุขภาพ
รพ.ขาดทุนอื้อ สปสช.จ่ายต่ำกว่าทุน ลดระดับบัตรทอง
รพ.จวก สปสช.จ่ายค่ารักษาต่ำกว่าต้นทุน ซัดลดระดับบัตรทอง สวนทางนโยบาย รบ. ทำการเงินวิกฤตติดลบ 270 แห่ง จี้ปรับงบปลายเปิดเป็นจ่ายตามต้นทุนจริง
จากกรณีชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) ร่วมกับ คณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายโรงพยาบาล กลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ ยูฮอสเน็ต (Uhosnet) ยื่นหนังสือถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.)
เพื่อขอความช่วยเหลือกรณีจัดสรรงบเหมาจ่ายเพื่อบริการประชาชนและแก้ปัญหางบปลายปิด เพราะกระทบหน่วยบริการ เนื่องจาก สปสช.จัดสรรงบบัตรทองให้โรงพยาบาลไม่ตรงความเป็นจริง ทำให้โรงพยาบาลขาดทุนอย่างมาก ขณะที่นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช.ระบุว่า งบปลายปิดเป็นกติกา หากปรับเปลี่ยนต้องคิดอย่างถี่ถ้วนนั้น
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ประธานชมรมโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป (รพศ./รพท.) ให้สัมภาษณ์ว่า รพ.ในสังกัด สธ. กำลังประสบปัญหางบประมาณไม่เพียงพอ โดยเฉพาะ “งบผู้ป่วยใน” ที่นอนรักษาตัวใน รพ. โดย มิ.ย.ที่ผ่านมาประสบปัญหาทางการเงิน จากการจัดสรรงบของสปสช.
เดิม สปสช.การันตีอัตราจ่ายค่าชดเชยผู้ป่วยในต่อหน่วย คิดเป็น 8,350 บาท/adjRW (ค่าน้ำหนักสัมพัทธ์กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วมด้วยเกณฑ์วันนอน: เป็นเกณฑ์การคำนวณจ่ายเงินให้ รพ.ของ สปสช.) ขณะที่ต้นทุน รพ. อยู่ที่ 13,412 บาท/adjRW
“ปัญหาคือ ตั้งแต่ มิ.ย.ที่ผ่านมาจ่ายแค่ 7,000 บาทต่อหน่วยเท่านั้น ทำให้ รพ.ที่รักษาผู้ป่วยในไปแล้ว ไม่ได้รับเงินคืนมาถึง 236 แห่งจาก 902 แห่ง และยังถูกหักเงินเดือนจากการรวมงบประมาณเหมาจ่ายรายหัวอีก ส่งผลให้เงินบำรุงติดลบหลังหักหนี้ต่างๆ แล้วมีถึง 270 กว่าแห่ง ตัวเลขดังกล่าวส่งผลให้รพ.หลายสิบแห่งเข้าสู่วิกฤติการเงินระดับ 7
ถามว่าขณะนี้มี รพ.วิกฤตระดับ 7 ถึง 24 แห่งจริงอย่างที่มีการพูดกันในแวดวงสาธารณสุขหรือไม่ นพ.อนุกูล กล่าวว่า ใช่ และรพ.ที่ประสบปัญหาวิกฤตระดับ 7 มาจากการจัดสรรเงินของ สปสช. เพราะรายรับส่วนใหญ่ของ รพ.ในสังกัด สธ.มาจากงบบัตรทอง นอกนั้นจะมีเงินจากประกันสังคม และเบิกจากข้าราชการ แต่จะเป็นรพ.ขนาดใหญ่
หากรพ.ขนาดเล็ก ยิ่งรพ.ชุมชน จะอยู่ได้เพราะบัตรทอง หากเปลี่ยนเกณฑ์ก็รับผลกระทบแน่ๆ อย่างรพ.ขนาดใหญ่ ยังมีเงินช่วยเหลือกองทุนอื่นอยู่บ้าง และเงินบริจาค เรียกว่าเป็นเงินหลักๆ
ถามกรณีเลขาฯสปสช.บอกว่างบปลายปิด เป็นกติกา ก่อนหน้านี้ในปี 2565 มีเงินเหลือก็คืนให้เกินกว่าอัตรา 8 พันกว่าบาทต่อหน่วย นพ.อนุกูลกล่าวว่า หากมีการกล่าวเช่นนี้ขอให้นำข้อมูลมาเปิดเผยอย่างมีธรรมาภิบาล ว่าจ่ายเกินจริง หรือเอาเงินที่เหลือไปไหน หากคืน รพ. คืนไปที่แห่งใด เนื่องจากข้อมูลจากชมรม รพศ./รพท.ไม่พบว่ามีการคืนกลับให้รพ.
ส่วนข้อห่วงใยจาก สปสช.ว่า หากเปลี่ยนเป็นงบปลายเปิด เมื่อมีเงินเหลือจะคืนไม่ได้นั้น ก็ไม่เป็นไร ขอเพียงให้สปสช.จ่ายตามต้นทุนจริง เพราะเมื่อรพ.ให้บริการในปริมาณที่มาก ก็ควรได้รับการจัดสรรงบตามการบริการเช่นกัน
จริงๆ การบริหารงบของสปสช. ไม่ใช่ปลายปิดทั้งหมด มีการจ่ายงบแบบปลายเปิดด้วย อย่างนวัตกรรมต่างๆ ทั้งร้านยา คลินิก แล็บ ฯลฯ ยิ่งรักษาเยอะก็สามารถจ่ายตามได้ ด้วยการหางบประมาณมาจ่าย สวนทางกับ รพ. ของ สธ.ที่ให้บริการผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ด้วยงบปลายปิด ทำให้หางบอื่นมาเติมไม่ได้ แบบนี้เหมาะสมเป็นธรรมหรือไม่
ถามว่าสรุปแล้วควรแก้ปัญหาอย่างไร นพ.อนุกูล กล่าวว่า จริงๆ มติบอร์ดสปสช.เมื่อ ธ.ค. 2566 มีมติให้หาเงินจากกองทุนอื่น หรือของบประมาณเพิ่มเติม แต่มติเมื่อวันที่ 3 ก.ค.กลับไม่พบประโยคนี้แล้ว กลายเป็นให้ลดลงตามส่วน เหลือจ่ายเพียง 7 พันบาทต่อหน่วยเท่านั้น
สิ่งที่น่าห่วงคือ สปสช.กำลังสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ยกระดับบัตรทองหรือไม่ เพราะจ่ายต่ำกว่าต้นทุนมาก ถือเป็นการลดระดับบัตรทองมากกว่า
ยกตัวอย่าง ต้นทุนรักษาไส้ติ่งประมาณ 1.4 หมื่นบาท แต่ สปสช.จ่าย 9 พันกว่าบาทมาตลอด 4-5 ปี และ มิ.ย.กลับจ่ายแค่ 7 พันบาท นี่ลดลงเรื่อยๆ ดังนั้น สปสช.ต้องไปอธิบายให้สำนักงบประมาณเข้าใจว่า ต้นทุนจริงเท่าไร การบริการเกิดขึ้นเท่าไร ต้องจ่ายตามจริง ไม่ใช่โยนความเสี่ยงให้ รพ.ทั้งหมด
สปสช.กับรัฐบาลควรทำให้การบริการขั้นพื้นฐานในการดูแลคนไข้ได้คุณภาพมาตรฐานก่อน ส่วนบริการเสริมอื่น หรือนวัตกรรมต่างๆ ค่อยเพิ่มเติมทีหลัง แต่ขณะนี้ สปสช.กลับเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่บริการหลักในการรักษาคนไข้ เช่น ปรับลดงบที่รักษาผู้ป่วยไส้ติ่งอักเสบจาก 8,350 เหลือ 7,000 บาท (ต้นทุน 13,000 บาท)
แต่สปสช.กลับไปเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการผ่าตัดแปลงเพศ ในขณะที่งบประมาณในงานบริการหลักไม่ได้เพิ่มเติมให้เพียงพอ ก็ส่งผลกระทบ หากมีงบเพิ่มเติมคงไม่มีปัญหา แต่นี่มาตัดเงินบริการพื้นฐานเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
สุขภาพ
ข่าว
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย