10 ส.ค. 2024 เวลา 15:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ไม่ได้มีแค่ Black Monday! 5 วันทมิฬในประวัติศาสตร์ตลาดหุ้น ที่นักลงทุนต้องรู้จัก

ตลอดประวัติศาสตร์การลงทุนของโลก มีหลายวันที่ถูกขนานนามว่า "วันทมิฬ" หรือ "ทะเลเลือดในกระดานหุ้น" เนื่องจากเกิดเหตุการณ์พลิกผันในตลาดหุ้น เหตุการณ์เหล่านี้มักเริ่มต้นจากความผิดคาดทางการเงินทำให้เกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจตามมา
มาดูกันว่า วันจันทร์ - วันศุกร์ที่ตลาดหุ้นเปิด มีวันไหนบ้างที่นับเป็น ‘วันทมิฬ’ ที่นักลงทุนต้องรู้จัก
[ Black Monday 1987: เหตุการณ์ที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นในตลาดหุ้น ]
หนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในตลาดหุ้นเกิดขึ้นในวันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 1987 วันนั้นราคาหุ้นในตลาดหุ้นทั่วโลกตกอย่างรุนแรง สร้างความเสียหายทางการเงินมหาศาล ความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นลดลง
สาเหตุของ Black Monday
✴️ ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังเผชิญกับปัญหาการขาดดุลการค้าและค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง
✴️การประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงเกินจริง และโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการซื้อขายอัตโนมัติ (Program trading) ที่ทำให้หุ้นถูกขายครั้งละมาก ๆ
✴️ ตลาดปั่นป่วนในช่วงสองสามชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายในวันศุกร์ และตลาดหุ้นที่ลอนดอนก็ปิดก่อนเวลา ความวุ่นวายนี้ไหลต่อไปจนถึงวันจันทร์อีกสัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญในสมัยนั้นบอกว่าเกิดจากอุปทานหมู่ที่ทำให้ตลาดหุ้นตกครั้งใหญ่
เหตุการณ์นี้นำไปสู่การพัฒนากลไก "Circuit Breakers" เพื่อหยุดการซื้อขายชั่วคราวเมื่อตลาดผันผวนรุนแรง และมีการปรับปรุงกฎระเบียบในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย
[ Black Tuesday 1987: คลื่นที่ซัดมาถึงเอเชียและออสเตรเลีย ]
Black Tuesday คือชื่อที่ใช้เรียก Black Monday ในเอเชียและออสเตรเลีย ด้วยความแตกต่างของเขตเวลา
เหตุการณ์ Black Monday (1987) ในสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในเอเชียและออสเตรเลียในวันถัดมา ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลง 45.5% ออสเตรเลีย 41.8% และนิวซีแลนด์ถึง 60% จากจุดสูงสุดของปี และต้องใช้เวลาหลายปีกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว
[ Black Wednesday 1992: วันที่จอร์จ โซรอส ล้มระบบธนาคารกลางของอังกฤษ]
Black Wednesday เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กันยายน 1992 เป็นวันที่ค่าเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษร่วงลงอย่างรุนแรง จนรัฐบาลอังกฤษต้องประกาศถอนตัวออกจากกลไกอัตราแลกเปลี่ยนยุโรป (European Exchange Rate Mechanism หรือ ERM)
สาเหตุของการเกิด Black Wednesday
เหตุการณ์นี้หลายคนบอกว่าคล้ายกับสาเหตุการเกิดวิกฤตต้มยำกุ้งในประเทศไทย
✴️อังกฤษเข้าร่วม ERM ในปี 1990 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ทำให้อังกฤษต้องตรึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินปอนด์
✴️เศรษฐกิจถดถอยในอังกฤษ แต่ยังคงพยายามตรึงอัตราดอกเบี้ยให้สูงเพื่อรักษาค่าเงินปอนด์
✴️ จอร์จ โซรอสและทีมของเขาเข้าซื้อเงินปอนด์เพื่อทำการเก็งกำไรและขายชอร์ตเงินปอนด์
เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลอังกฤษต้องสูญเสียเงินกว่า 3,300 ล้านปอนด์ เหตุการณ์ Black Wednesday ถือเป็นบทเรียนราคาแพงที่รัฐบาลได้เรียนรู้ถึงความเสี่ยงในการผูกค่าเงินกับระบบอัตราแลกเปลี่ยนคงที่ ที่สามารถส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินระดับโลกได้
[ Black Thursday 1929 ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทถล่ม ]
วันที่ 24 ตุลาคม 1929 ถูกขนานนามว่าเป็น ‘Black Thursday’ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท ซึ่งทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression)
สาเหตุของการเกิด Black Thursday
✴️ ในช่วงเวลานั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ ถูกความโลภเข้าครอบงำ มีการเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรอย่างบ้าคลั่งและหุ้นที่ขายมีมูลค่าสูงเกินจริง
✴️นักลงทุนหน้าใหม่หลั่งไหลเข้ามาในตลาด โดยใช้เงินสินเชื่อที่ได้รับจากธนาคาร นักลงทุนจำนวนมากซื้อหุ้นด้วยมาร์จิ้น (กู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในตลาดหุ้นโดยหวังว่าจะทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว)
✴️เมื่อตลาดมีมูลค่าสูงเกินไป นักลงทุนก็เริ่มกังวลและเกิดความตื่นตระหนก รีบเทขายหุ้นเพื่อออกจากตลาด โดยวันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 1929 เป็นวันที่มีการขายหุ้นออกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ ในตอนท้ายของวัน ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 13% ทำให้ความมั่งคั่งของนักลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์หายไปในวันเดียว
✴️ต่อเนื่องมาถึง Black Tuesday 1929 (29 ตุลาคม 1929) มีการซื้อขายหุ้นมากกว่า 16 ล้านหุ้น เป็นสัญญาณสิ้นสุดยุค Roaring Twenties ทุกอย่างในตลาดหุ้นราคาลดลง
2
วิกฤตตลาดหุ้นวอลล์สตรีทที่ถล่มลงมาครั้งใหญ่นี้ ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ตามมา ในช่วงต่ำสุดมูลค่าตลาดหายไปเกือบ 90% และสร้างความเสียหายมูลค่ากว่า 200 พันล้านดอลลาร์ และทำให้สถาบันการเงินกว่า 4,000 แห่งล้มละลาย
[ Black Friday 1869: วันที่แผนเก็งกำไรทองคำพังทลาย ]
เหตุการณ์ Black Friday ที่จะพูดถึงนี้ไม่ใช่วันช้อปปิ้งหลังวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) แต่เป็น Black Friday ที่เกิดขึ้นในวันที่ 24 กันยายน 1869 เมื่อแผนเก็งกำไรทองคำของเจมส์ ฟิสก์และเจย์ กูลด์ล้มเหลว ประธานาธิบดีอุลิสซิส เอส. แกรนต์ ตัดสินใจปล่อยทองคำสำรองออกมา ทำให้ราคาทองคำร่วงฮวบและนักลงทุนจำนวนมากล้มละลาย
สาเหตุของ Black Friday
✴️นโยบายลดหนี้โดยขายทองคำสำรองของประธานาธิบดีอุลิสซิส เอส. แกรนต์
✴️ฟิสก์และกูลด์วางแผนเก็งกำไรโดยใช้ข้อมูลวงใน พวกเขาใช้เส้นสายในการเป็นเพื่อนกับน้องเขยของประธานาธิบดี และส่งนักธุรกิจพวกเดียวกันเข้าไปเป็นที่ปรึกษากระทรวงการคลังของประเทศ
✴️เมื่อรู้ว่าประธานาธิบดียังไม่ขายทองคำ พวกเขาซื้อทองคำจำนวนมากหวังทำกำไรเมื่อราคาสูงขึ้น
✴️แผนการล้มเหลวเมื่อประธานาธิบดีรู้ถึงแผนการเก็งกำไรของพวกเขา และตัดสินใจขายทองคำมูลค่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เมื่อทองคำจากรัฐบาลถูกเทขาย ราคาทองก็ลดลงอย่างรวดเร็วนักลงทุนจำนวนมากขาดทุนหนักและล้มละลาย ความโกลาหลในตลาดทองคำสหรัฐฯ ส่งผลกระทบเป็นโดมิโน ทำให้ราคาสินทรัพย์ทั้งตลาดหุ้น และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ปรับตัวลดลงถ้วนหน้า
ความโกลาหลจากเหตุการณ์ Black Friday แสดงให้เห็นถึงความอันตรายของการเก็งกำไรและการใช้ข้อมูลวงใน จนนำไปสู่การเรียกร้องให้มีการกำกับดูแลตลาดการเงินที่เข้มงวดขึ้น
[ แล้ววันเสาร์ - อาทิตย์ล่ะ? ]
โชคดีสำหรับนักลงทุนทุกท่าน เพราะยังไม่เคยเกิดเหตุการณ์ Black Saturday หรือ Black Sunday เพราะเป็นวันที่ตลาดหุ้นหยุดพักช่วงสุดสัปดาห์ เพื่อให้พวกเรามีเวลาหายใจหรือถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นในวันศุกร์ ทุกอย่างก็จะนิ่งและเห็นผลลัพธ์ในวันจันทร์หน้าที่ตลาดเปิดแทน
ที่มา:
#aomMONEY #makerichgenaration #การลงทุน #การเงิน
โฆษณา