ทำไมจากคลิปหนีบกระดาษถึงแลกเปลี่ยนเป็นบ้านได้
คลิปหนีบกระดาษเป็นเครื่องมือที่เราเอาไว้ใช้ยึดแผ่นกระดาษไว้ด้วยกัน มันมักทำมาจากลวดเหล็กหรือไม่ก็พลาสติกที่ดัดโค้งงอเป็นรูปทรงห่วง แต่นอกจากมันจะทำหน้าที่รวมแผ่นกระดาษไว้ด้วยกันแล้ว เชื่อไหมว่ามันยังสามารถทำให้ได้บ้าน 1 หลังด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปี 2005 คายล์ แมคโดนัลด์ บล็อกเกอร์ชาวแคนาดา เขาชอบไอเดียของเกมสมัยเด็กที่ชื่อ Bigger, Better ที่มีการแลกเปลี่ยนสิ่งของเล็กๆ จนกลายมาเป็นได้ของที่มีมูลค่ากว่าเดิมมาก แมคโดนัลด์จึงนึกสนุกว่าคลิปหนีบกระดาษสีแดง 1 ตัวจะสามารถนำไปแลกเปลี่ยนเป็นบ้านได้ไหม?
แต่ถ้าเขานำคลิปหนีบกระดาษไปแลกเพื่อให้ได้บ้านเลย แน่นอนว่าไม่มีใครยอมแลกกับเขาแน่ แมคโดนัลด์จึงเปิดเว็บไซต์ The Paperclip Challenge ขึ้นมาเพื่อให้คนนำสิ่งของหรืออะไรก็ได้มาแลกกับคลิปหนีบกระดาษสีแดงตัวนี้ของเขา แล้วเรื่องราวไม่น่าเชื่อมันก็เริ่มขึ้น
วันที่ 14 กรกฎาคม 2005 มีหญิงสาวนำปากการูปปลามาแลกกับคลิปหนีบกระดาษของแมคโดนัลด์
ต่อมาก็มีชายจากเมืองซีแอตเทิลนำลูกบิดประตูมาขอแลกกับปากการูปปลา
วันที่ 25 กรกฎาคม 2005 ก็มีคนจากแมสซาชูเชตส์นำเตาสนามสำหรับตั้งแคมป์มาขอแลกกับลูกบิดประตู
วันที่ 24 กันยายน 2005 มีผู้ชายจากแคลิฟอร์เนียอยากไปตั้งแคมป์จึงนำรถตู้คันเก่ามาแลกกับเตาสนาม
จากนั้นความสนุกความไม่น่าเชื่อก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
เมื่อวงดนตรีร็อกอยากได้รถตู้จึงขอแลกกับสัญญาว่าจะอัดเพลงให้
นักดนตรีคนหนึ่งเสนออพาร์ตเมนต์ให้พักฟรี 1 ปี เพื่อแลกกับสัญญาอัดเพลง
ด้านเลขาของอลิส คูเปอร์ นักร้องนักแต่งเพลงชื่อดัง กำลังมองหาที่พักพอดี เธอจึงเสนอการมีโอกาสร่วมกินมื้ออาหารกลางวันกับอลิส คูเปอร์ เพื่อแลกกับการเข้าพักอพาร์ตเมนต์ฟรี 1 ปี
แล้วก็มีคนนำ สโนว์โกลบอัตโนมัติของวงคิสมาแลกกับการได้ท่านมื้อกลางวันกับอลิส คูเปอร์
โคลิน เบิร์นสไตน์ โปรดิวเซอร์ในแวดวงฮอลลีวูด และเป็นนักสะสมสโนว์โกลบ ซึ่งเขายังไม่มีสโนว์โกลบของวงคิส
เบิร์นสไตน์จึงเสนอบทภาพยนตร์เรื่องต่อไปของเขา พร้อมค่าจ้างและเครดิตท้ายเรื่อง เพื่อแลกกับสโนว์โกลบของวงคิส
แล้วเรื่องนี้ก็มาถึงเมืองคิปลิง รัฐซัสแคตเชวัน เมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ มีประชากรราว 1,000 คน และได้สร้างบ้านพร้อมขายไว้หลายหลัง ซึ่งก็มีคนในเมืองได้เสนอบ้านหลักเล็กเพื่อแลกกับบทภาพยนตร์ของเบิร์นสไตน์
แล้ว แมคโดนัลด์ ก็ได้บ้าน 1 หลังจากคลิปหนีบกระดาษได้จริงๆ หากบอกใครตอนแรกคงไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะทำได้แน่ เขาใช้เวลาประมาณ 1 ปี กับการแลกของทั้งหมด 14 ครั้ง แมคโดนัลด์นำคลิปหนีบกระดาษแลกของที่ดีกว่าเดิมเล็กน้อยจากนั้นก็ค่อยๆ ต่อยอดดีขึ้นกว่าเดิมขึ้นไป จนในที่สุดก็มาถึงเป้าหมายที่เขาตั้งไว้ได้
เรื่องราวของแมคโดนัลด์กับ One red paperclip นี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนมากมายไปทั่วโลก เป็นการนำสิ่งที่เราไม่ต้องการไปแลกกับสิ่งที่เราต้องการ โดยไม่ได้ใช้เงินทอง แต่เอาความต้องการเป็นสิ่งสำคัญ แล้วสิ่งของมันก็จะค่อยๆ เพิ่มมูลค่าขึ้นมาเอง
หากให้เปรียบก็คงเหมือนเวลาเราฝากเงิน แม้เราจะฝากเงินไม่กี่บาทแต่หากเราหมั่นสะสมไปเรื่อยๆ ดอกเบี้ยมันก็จะทบทวีคูณกลายเป็นเงินจำนวนมากได้ หรือเวลาเราเรียน เราทำงาน เราอาจเริ่มต้นจากศูนย์ ไม่มีข้อมูล ไม่มีความรู้อะไร แต่หากเราขยันหมั่นเพียรสะสมความรู้ สะสมการทำงาน เมื่อถึงวันหนึ่งเราก็อาจกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่เราต้องการได้
อย่าดูถูกการสะสมสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เพราะวันหนึ่งมันอาจกลายเป็นสิ่งมีมูลค่ามากกว่าเดิมหลายเท่าได้ครับ
อ้างอิง
หนังสือ Crossover Creativity by Dave Trott
- 19
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
