Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
20 ส.ค. 2024 เวลา 12:06 • ประวัติศาสตร์
หลักฐานเรื่อง “การข้ามทะเลแดง (Red Sea Crossing)” ของ ”โมเสส (Moses)”
เหตุการณ์ “การข้ามทะเลแดง (Red Sea Crossing)” เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในคัมภีร์ไบเบิ้ล และเป็นที่พูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์มาอย่างยาวนาน
เป็นเวลานับร้อยปีที่นักประวัติศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามหาความจริงจากเหตุการณ์นี้ หากแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรที่จะสามารถระบุได้ชัดเจน
แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็มีการค้นพบครั้งใหญ่ที่อาจจะทำให้เหตุการณ์การข้ามทะเลแดงนี้เข้าใกล้ความจริงไปอีกหนึ่งก้าว เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้ทำการสำรวจ และก็พบร่องรอยบางอย่างใต้น้ำบริเวณ “อ่าวอคาบา (Gulf of Aqaba)”
อ่าวอคาบา (Gulf of Aqaba)
แต่ก่อนอื่น เราลองมาย้อนดูเรื่องราวของเหตุการณ์การข้ามทะเลแดงกันก่อนดีกว่า
ตามพระคัมภีร์ เหตุการณ์การข้ามทะเลแดงเป็นเหตุการณ์สำคัญเหตุการณ์หนึ่งในพันธสัญญาเดิม โดยบอกเล่าถึงการที่ชาวอิสราเอลหนีออกจากอียิปต์ โดยมีผู้นำคือ “โมเสส (Moses)”
ในทีแรกนั้น องค์ฟาโรห์ผู้ปกครองอียิปต์ได้ทรงอนุญาตให้ชาวอิสราเอลออกไปจากอียิปต์ เนื่องจากพระเจ้าได้ทรงส่งภัยพิบัติต่างๆ และโรคระบาดมายังอียิปต์
1
โมเสส (Moses)
หากแต่ภายหลัง ฟาโรห์ก็ทรงเปลี่ยนพระทัย และส่งกองทัพไปตามจับกลุ่มชาวอิสราเอลกลับมา ทำให้ชาวอิสราเอลซึ่งอยู่ระหว่างทางต้องพะว้าพะวง
ในช่วงเวลาวิกฤตนี้เอง โมเสสได้ชูมือขึ้นเหนือท้องทะเล จากนั้น พระเจ้าก็ได้บันดาลให้น้ำทะเลแยกออกเป็นสอง ทำให้เกิดทางเดินที่ชาวอิสราเอลสามารถเดินไปได้
เมื่อกลุ่มชาวอิสราเอลเดินไปได้อย่างปลอดภัยแล้ว กองทหารของฟาโรห์ก็มาถึง และก็ลงไปตามทางเดินที่เกิดจากน้ำแยกออก แต่ทันใด น้ำที่แยกออกเป็นสองก็กลับมาเหมือนเดิม ทำให้กองทัพของฟาโรห์จมน้ำ และทำให้ชาวอิสราเอลได้รับอิสรภาพในที่สุด ทำให้อิสราเอลกลายเป็นชาติที่ได้รับการปกป้องดูแลโดยพระเจ้า
เหตุการณ์นี้ยังเป็นการแสดงถึงพลังอำนาจและความศรัทธาในพระเจ้า กลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและอิสรภาพ
หากแต่เรื่องเล่านี้ก็กลายเป็นที่พูดถึงมาเป็นเวลานานนับร้อยปี ทั้งนักเทววิทยา นักประวัติศาสตร์ และนักวิทยาศาสตร์ ต่างพยายามหาหลักฐานว่าเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นจริงหรือไม่
นี่คือปาฏิหาริย์จากพระเจ้า? หรือเป็นเหตุการณ์ธรรมชาติ?
นี่คือคำถามที่หลายฝ่ายต้องการคำตอบ
การที่แม่น้ำจะแยกออกเป็นสองสาย ทำให้เกิดทางเดินไปได้ และปิดกลับเข้ามาเมื่อศัตรูมาถึงพอดี เป็นอะไรที่ฟังดูแล้วเป็นไปไม่ได้ ขัดกับกฎธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ ทำให้น้อยคนที่จะเชื่อถือและมองว่านี่เป็นเพียงตำนานที่ไม่มีเค้าความจริงเลย
และเหตุการณ์นี้ตามตำนานก็เกิดขึ้นเมื่อกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ทำให้การหาหลักฐานในทะเลแดงย่อมทำได้ยาก
ถึงจะมีหลักฐาน แต่เวลาผ่านมานานขนาดนี้ หลักฐานต่างๆ ก็คงสูญสลายหรือแทบไม่เหลือแล้ว ต่อให้มีหลักฐาน เช่น ล้อรถม้า หรืออาวุธต่างๆ ก็น่าจะสูญสลายไปหมดแล้ว
นอกจากนั้น การจะระบุตำแหน่งที่เหตุการณ์การข้ามทะเลแดงเกิดขึ้นก็ยังเป็นที่ถกเถียง บ้างก็ว่าสถานที่คือ “อ่าวสุเอซ (Gulf of Suez)” บ้างก็ว่าเป็น “อ่าวอคาบา (Gulf of Aqaba)”
ในทีแรก กลายฝ่ายคิดว่าน่าจะเป็นที่อ่าวสุเอซ แต่ในช่วงหลัง หลายคนเริ่มคิดว่าเป็นที่อ่าวอคาบา ซึ่งลักษณะทางภูมิศาสตร์และน้ำที่ลึกนั้น ดูจะตรงกับที่บรรยายในพระคัมภีร์มากกว่า
แต่ถึงอย่างนั้น การออกสำรวจก็เป็นสิ่งที่ยากลำบาก เนื่องด้วยความลึกของน้ำและความท้าทายต่างๆ ใต้สมุทร อีกทั้งลักษณะทางภูมิศาสตร์ก็ทำให้การออกสำรวจเป็นไปได้ลำบาก อีกทั้งเวลาที่ผ่านมานับพันปี ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากภูมิศาสตร์ใต้น้ำจะมีความเปลี่ยนแปลง
อ่าวสุเอซ (Gulf of Suez)
แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีการค้นพบที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้น
มีการค้นพบหลักฐานหลายชิ้นใต้อ่าวอคาบา ซึ่งบางชิ้นก็ดูเหมือนล้อรถม้า และจากการตรวจสอบความเก่าแก่ ก็พบว่าอยู่ในยุคเดียวกับเหตุการณ์การข้ามทะเลแดง
นอกจากนั้น ยังมีการพบสิ่งที่คาดว่าน่าจะเป็นเศษซากชิ้นส่วนมนุษย์และกระดูกสัตว์ ทำให้เชื่อว่าได้เคยเกิดเหตุอะไรบางอย่างในบริเวณนี้ และจากการค้นพบหลักฐานเหล่านี้ บวกกับความลึกและกว้างใหญ่ของอ่าวอคาบา ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางรายเชื่อว่าบริเวณนี้คือจุดที่เกิดเหตุการณ์การข้ามทะเลแดง
1
และจากการสำรวจทางภูมิศาสตร์ ยังพบว่าใต้น้ำบริเวณนี้มีจุดที่เป็นสะพานใต้น้ำธรรมชาติ ทำให้ดูเหมือนเป็นทางเดินที่ชาวอิสราเอลน่าจะใช้เดินในเวลาที่แม่น้ำแยกออกเป็นสอง
แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีการฟันธงอะไรทั้งสิ้น เพราะหลักฐานเหล่านี้ก็ไม่ได้มีความชัดเจน เช่น ซากล้อรถม้าที่พบก็อาจจะเป็นซากเรือที่มาอับปางในบริเวณนี้ก็เป็นได้
แต่หลักฐานเหล่านี้ก็ทำให้หลายฝ่ายให้ความสนใจในอ่าวอคาบามากขึ้น และทำให้เกิดการถกเถียงและหารือเรื่องราวในพระคัมภีร์กับเหตุการณ์จริงที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์
และเมื่อการค้นคว้าและสำรวจยังดำเนินต่อไป เส้นบางๆ ระหว่างตำนานและประวัติศาสตร์ก็อาจจะชัดเจนขึ้น
หากแต่คำถามบางข้อก็อาจจะเป็นปริศนาไปตลอดกาลก็เป็นได้
สั่งซื้อหนังสือ “ประวัติศาสตร์แห่งความหลอกลวง 5,000 ปีของการต้มตุ๋น ฉ้อโกง โกหก ปลอมแปลง” ได้ตามลิ้งค์นี้นะครับ
https://s.shopee.co.th/1LKwWrxW6Q
References:
https://medium.com/lessons-from-history/scientists-finally-found-evidence-for-mosess-red-sea-crossing-6ea440178d42
https://armstronginstitute.org/339-where-did-the-red-sea-crossing-take-place
https://www.bible.ca/archeology/bible-archeology-exodus-route-goshen-red-sea.htm
https://doubtingthomasresearch.com/red-sea-crossing-not-gulf-of-suez/
ประวัติศาสตร์
2 บันทึก
17
5
2
17
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย