19 ส.ค. 2024 เวลา 02:55 • นิยาย เรื่องสั้น

บทที่ 8 เฮียตั้นต้องผ่าตัด (ต่อ)

หลังกลับจากร้านอาหารญี่ปุ่น ชินพุ่งตรงกลับห้องพัก หยิบโทรศัพท์มือถือมาเปิดเฟซบุ๊ก พิมพ์ชื่อเฟซที่จำได้คร่าว ๆ จนเลื่อนเจอคนที่คิดว่าใช่น้องบุ๋มบิ๋ม กดเข้าไปในหน้าโปรไฟล์ เข้าไปดูที่หมวดเพื่อนและเลื่อนหาโปรไฟล์ของจิ๊บ
น้องบุ๋มบิ๋มมีเพื่อนในเฟสบุ๊กเกือบหนึ่งพันคน เขาจำไม่ได้ว่านอนไถอยู่อย่างนั้นนานเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็หาเจอ
‘Peeranee Mahanak’
ในรูปโปรไฟล์จิ๊บกำลังยืนอยู่ที่ชายหาด มีฉากหลังเป็นทะเลสีน้ำเงินเข้มตัดกับท้องฟ้าสีคราม ตรงกลางภาพคือจิ๊บที่มองจ้องมายังกล้องถ่ายรูป หยีตาสู้แสง ย่นจมูกเล็กน้อย ยิ้มกว้างอวดฟันซี่โตที่เรียงตัวสวยอยู่หลังริมฝีปากสีชมพู รอยยิ้มที่ทำให้เขาอดยิ้มตามไม่ได้
ชินกดเข้าไปอ่านรายละเอียดโปรไฟล์ มันไม่ได้ขึ้น In relationship กับใคร จึงกดดูรูปอื่น ๆ ที่โชว์ให้เห็น ไม่มีรูปคู่กับผู้ชายคนไหน เขากดดูรูปโปรไฟล์อีกครั้งและอ่านคอมเมนต์ซึ่งมีแต่เพื่อนผู้หญิงมาพิมพ์ตอบ จากนั้นก็เลื่อนลงมาเห็นบทสนทนาหนึ่งที่ทำให้ใจเต้น
เป็นคอมเมนต์พูดคุยจากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา
‘สวยมากเจ้’
จิ๊บกดไลค์คอมเมนต์นั้นพร้อมกับพิมพ์ตอบว่า ‘โสดมากด้วย’
แล้วนิ้วมือก็กดขอเป็นเพื่อนไปก่อนที่สมองจะทันรู้ตัว ชินลังเลอยู่เสี้ยววินาทีว่าจะกดยกเลิกดีมั้ย แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้น
“ชิน ป้าอนงค์เตียง 5 เหนื่อย กูกำลังจะใส่ทิวบ์นะ” เสียงพี่กายรายงานอาการคนไข้อย่างเร่งร้อน
“หื้อ คนไหนนะพี่” ชินถามกลับอย่างตกใจ
การใส่ทิวบ์ (Tube) คือการใส่ท่อเข้าไปในหลอดลมโดยตรงเพื่อเปิดทางเดินหายใจให้หายใจได้สะดวก ผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจมักมีอาการอยู่ในขั้นวิกฤติ เช่น หายใจลำบาก หมดสติ หรือมีภาวะหายใจล้มเหลว เป็นต้น ดังนั้นเมื่อคนไข้ในความรับผิดต้องทำหัตการดังกล่าวจึงทำให้ชายหนุ่มตกใจ
“ป้าที่อาจารย์ประชาทำ Thyroidec เมื่อเช้าอ่ะ”
“ทำไมอยู่ดี ๆ เหนื่อยล่ะ”
“ไม่รู้ดิ ดูคอบวม ๆ ด้วยนะ” พี่กายที่ยืนอยู่กับคนไข้บรรยายลักษณะที่มองเห็นให้ชินฟัง
“เดรนเป็นไงนะครับ”
“ออกแค่ 20 เอง เป็นเลือดเก่า ๆ” พี่กายบอก เลือดเก่ามักจะมีสีคล้ำเข้ม ไม่แดงสดเหมือนกับเลือดออกใหม่
“Stridor มั้ยพี่”
“เหมือนจะมีว่ะ”
สมองเขาเริ่มประมวลผลข้อมูลที่ได้รับอย่างรวดเร็ว คนไข้เพิ่งได้รับการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ติดกับหลอดลม และตอนนี้มีอาการเหนื่อย หายใจลำบาก มีเสียงหายใจแหลมสูงของอากาศที่ไหลผ่านหลอดลมตีบแคบ (Stridor) ลำคอของคนไข้มีอาการบวม ดูคล้ายอาการเลือดออกในแผลหลังผ่าตัด แต่สายระบาย (Drain) ที่ต่อออกจากลำคอกลับไม่มีเลือดหรือของเหลวไหลออกมาเท่าที่ควร
“ผมว่าน่าจะ Upper Airway Obstruct จาก Hematoma แล้วมั้งครับ พี่ยังไม่ต้องใส่ทิวบ์ก็ได้ ตัดไหม Bedside แล้วเอา Clot ออกเลย เดี๋ยวผมรีบไปครับ” ชินสั่งการพร้อมกับลุกไปสวมเสื้อให้เรียบร้อย
“ให้กูทำเลยหรอ” พี่กายถามด้วยน้ำเสียงกังวล
สิ่งที่ชินบอกให้ทำคือการตัดไหมที่เย็บแผลผ่าตัดออกในขณะที่ผู้ป่วยยังนอนอยู่บนวอร์ด โดยแผลนั้นเพิ่งเย็บมาได้ไม่นานและอยู่บริเวณลำคออันเป็นที่อยู่ของหลอดลม มันซับซ้อนเกินกว่าที่เรสซิเดนต์หนึ่งซึ่งทำงานมาไม่ถึงปีจะกล้าลงมือทำเพียงลำพัง
“ทำเลยพี่ ผมกำลังออกไปละ” ชินแจ้ง ก่อนจะวางสาย แล้วใบหน้าชวนมองในหน้าเฟซบุ๊กที่เปิดค้างไว้ก็ยิ้มตอบกลับมา เขาจำใจละสายตาจากรูปนั้น เก็บมือถือใส่กระเป๋าและวิ่งออกจากห้องพักเพื่อไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว
Post Operation Thyroidectomy Complication หรืออาการแทรกซ้อนหลังผ่าตัดต่อมไทรอยด์คือสิ่งที่เรสซิเดนต์ศัลยกรรมควรรู้ และภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวของหัตถการนี้ก็คือภาวะเลือดออกหลังผ่าตัด
ในการผ่าตัดที่ต้องกรีด ตัด เฉือนอวัยวะภายในร่างกาย เส้นเลือดต่าง ๆ ที่ไหลเวียนแตกแขนงไปทั่วเป็นสิ่งหนึ่งที่จะถูกตัดโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และการห้ามเลือดหรือหยุดเลือดก็เป็นเรื่องพื้นฐานที่ศัลยแพทย์ทุกคนต้องทำ อีกทั้งเมื่อผ่าตัดเสร็จแพทย์จะต้องมั่นใจว่าไม่มีเลือดออกตรงที่ไหนก่อนจะทำการปิดแผล
แต่บางกรณีเส้นเลือดบางเส้นกำลังหดตัวก็อาจทำให้เลือดไม่ไหลออกมาขณะทำการผ่าตัด หรือบางครั้งก็มีรอยรั่วที่ไหลซึมช้า ๆ จนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น และแม้แต่การไอ จาม กระแอม หรือความดันโลหิตสูงก็สามารถก่อให้เกิดการปริฉีกจนมีเลือดออกในบริเวณที่เพิ่งทำการผ่าตัดได้
หลังผ่าตัดเสร็จจึงต้องมีการใส่สายเดรนเข้าไประบายเลือดหรือของเหลวเหล่านี้ออกมาในช่วงแรก แต่ในคนไข้รายนี้กำลังมีปัญหาที่ซับซ้อนกว่านั้นเล็กน้อย
ตอนที่ชินวิ่งเข้าไปในวอร์ดพี่กายกำลังยืนงก ๆ เงิ่น ๆ อยู่หน้าถาดเครื่องมือที่พยาบาลเตรียมไว้ให้ ด้านข้างคือคนไข้ที่นอนหนุนหมอนสูงอยู่บนเตียง หายใจเข้าออกด้วยความหิวโหยอากาศราวกับปลาที่ถูกลากขึ้นมาบนบก เสียงลมหายใจดังระรัวคล้ายจะขาดใจแม้มีหน้ากากออกซิเจนครอบอยู่บนใบหน้า มือทั้งสองข้างปัดป่ายไปมาอย่างเสียสติ
ชินเหลือบมองหน้าจอมอนิเตอร์สัญญาณชีพตรงหัวเตียง และเห็นว่าระดับออกซิเจนในเลือดและความดันโลหิตของคนไข้ยังอยู่ในช่วงปกติ แต่อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มสูงขึ้นถึง 130 ครั้งต่อนาที ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่เจเจในทันที เสียงรอสายดังเพียงสองครั้งรุ่นพี่ก็กดรับ
“พี่เจเจครับ ป้าอนงค์เตียง 5 Post-op Thyroidec ตอนนี้ Stridor คอบวมมาก น่าจะมี Bleeding ครับพี่ แต่เดรนไม่เวิร์คออกแค่ 20 ผมจะขอทำ Re-explore Wound Evac blood clot นะครับ”
“หะ มึงทำได้หรอ” พี่เจเจถามเสียงแหลมด้วยความตกใจทั้งกับภาวะเร่งด่วนของคนไข้และหัตการที่ชินกำลังจะทำ
“น่าจะได้ ว่าจะลองดูครับ”
“เออ เอาเลยเดี๋ยว Arrest กูรีบไปเดี๋ยวนี้ละ”
ปริมาณเลือดสดที่ไหลออกมาจากสายเดรนคือสัญญาณที่ชัดเจนแสดงถึงการรั่วของเส้นเลือดในบริเวณที่ผ่าตัด แต่ในกรณีที่มีอาการผิดปกติแต่เดรนออกมาไม่มากเช่นคนไข้รายนี้ อาจเกิดจากสายระบายอุดตันซึ่งจะทำให้แพทย์ไม่ทันนึกถึงอาการเลือดออกหลังผ่าตัด และสุดท้ายเลือดที่ออกก็จะคั่งค้างอยู่ในแผลผ่าตัด จับตัวเป็นก้อน กดทับหลอดลมจนทำให้ผู้ป่วยหายใจไม่ออกและมีอาการหอบเหนื่อย คนไข้กลุ่มนี้มักถูกช่วยเหลือด้วยการใส่ท่อช่วยหายใจแต่ใส่ไม่ค่อยเข้าเพราะก้อนเลือดเหล่านั้นได้กดทับหลอดลมจนบี้แบน
ความจริงทั้งชินและพี่เจเจต่างไม่เคยเจออาการเช่นนี้มาก่อน แต่เคยได้รับฟังใน Morbid and Motility Conference (MM Conference) หรือการประชุมในหน่วยงานที่เหล่าแพทย์จะรายงานและทบทวนเหตุการณ์ที่ทำให้คนไข้ทุพลภาพหรือเสียชีวิต และที่รุ่นพี่ไม่คัดค้านอะไรเป็นเพราะอาการนี้คือภาวะเร่งด่วนที่ต้องลงมือช่วยเหลือในหลักนาทีก่อนที่คนไข้จะเริ่มมีภาวะหัวใจหยุดเต้นเนื่องจากขาดออกซิเจน
ชินเริ่มต้นสวมถุงมือปราศจากเชื้อสำหรับทำหัตการและสั่งงาน
“ขอ MO 3 mg แล้วก็ยาชาด้วยครับ” เขาแจ้งพี่พยาบาล “พี่กายเพนต์แล้วปูผ้าเลยครับ” ตามด้วยการบอกพี่กาย
หัตการที่กระทำบนวอร์ดเช่นนี้จะถูกเรียกว่า Bedside ซึ่งไม่ได้เข้าไปดมยาสลบในห้องผ่าตัด ชินเลือกให้มอร์ฟีน (Morphine : MO) กับยาชาเพื่อลดความเจ็บปวด และทำการเพนต์หรือทายาฆ่าเชื้อบริเวณผิวหนัง พร้อมกับปูผ้าปราศจากเชื้อรอบ ๆ เพื่อให้สะอาดพอที่จะเริ่มลงมือ
เมื่อได้มอร์ฟีนคนไข้ก็ดูสงบลงเล็กน้อย หยุดหวดมือไปมาในอากาศ
หลังฉีดยาชาเสร็จชินก็ใช้มีดตัดสะกิดไหมที่บริเวณลำคอของคนไข้บริเวณเหนือจุดที่ไหลปลาร้าทั้งสองมาบรรจบกัน มันเป็นไหมละลายที่เย็บซ่อนไว้ใต้ผิวหนังเพื่อความสวยงามของแผลผ่าตัด ชายหนุ่มเลาะไปเรื่อย ๆ จนเปิดเข้าไปเจอชั้นกล้ามเนื้อที่เย็บติดกันก็เปลี่ยนมาใช้กรรไกรตัดไหมให้แยกออกจากกัน จากนั้นจึงแหวกเข้าไปเห็นก้อนเลือดจำนวนมากภายในแผลผ่าตัด กองเลือดตัวการที่อุดตันสายระบายและเบียดหลอดลมจนคนไข้ไม่สามารถหายใจได้
ชินใช้ผ้าก๊อซโกยลิ่มเลือดเหล่านั้นออกมาใส่ชามเหล็ก พอดีกับพี่เจเจปรากฏตัวขึ้นที่ข้างเตียง มองดูสิ่งที่เขากำลังทำ
“ดีมาก ถ้าควักออกมาหมดแล้วก็ยัดก๊อซไว้ก่อนนะ” พี่เจเจพูด แม้ก้อนเลือดจะถูกควักออกไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ห้ามเลือดให้หยุดไหล ผ้าก๊อซเหล่านี้จะเป็นตัวช่วยซึมซับเลือดและสารคัดหลั่งต่าง ๆ ที่ไหลออกมา
“รู้สึกเป็นยังไงบ้างครับ” พี่เจเจหันไปคุยกับคนไข้ที่ไม่ได้ดูเหมือนปลากระหายน้ำอีกต่อไป ตอนนี้ลมหายใจเริ่มช้าลงและสม่ำเสมอ อีกทั้งควบคุมสติกลับมาได้
“ดีขึ้นค่ะ” คุณป้าตอบเสียงแผ่วผ่านหน้ากากออกซิเจน
จากนั้นพี่เอิร์นก็โผล่มาจากการโทรรายงานของพี่เจเจ และแน่นอนว่าทุกคนก็ต้องรอพี่ชีฟดูคนไข้จนเรียบร้อยก่อนจะโทรไปแจ้งอาจารย์
หลังจากได้รับคำสั่งสุดท้ายจากอาจารย์พี่เอิร์นก็ประกาศให้ทุกคนได้ยิน “Set OR Re-Explore wound to stop bleed fast track” รุ่นพี่พูด “กูจะไปรอในโออาร์นะ” แล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
คนไข้รายนี้ต้องเข้าไปในห้องผ่าตัดอีกรอบอย่างเร่งด่วนเพื่อเปิดแผลผ่าตัดเดิมเข้าไปหยุดเลือด และการนำคนไข้เข้าไปผ่าตัดซ้ำเพื่อแก้ไขอะไรบางอย่างจะถูกเรียกว่า Re-Operation หนึ่งในสิ่งที่ศัลยแพทย์ทุกคนต่างเกลียดชัง ความรู้สึกของการทำ Re-op นั้นเปรียบได้กับการโดนประกาศว่าสอบตกและถูกเรียกไปสอบซ่อมเลยทีเดียว
เรสซิเดนต์ประจำหน่วยทั้งสี่คนอยู่ที่ห้องผ่าตัดกันพร้อมหน้าและคนไข้ก็ได้รับการดมยาสลบเรียบร้อยแล้ว พี่เอิร์นจึงเริ่มพิธีกรรมโทรศัพท์เรียนเชิญอาจารย์เจ้าของไข้มาทำการผ่าตัดซึ่งก็คืออาจารย์ประชา
“อาจารย์คะดมยาแล้ว กำลังห่มผ้าค่ะ” พี่ชีฟแจ้งอย่างเกรงใจเข้าไปในสาย
ไม่ว่าจะเป็นวงการไหนผู้ที่สำคัญที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดจะต้องเป็นผู้ที่ปรากฏตัวช้าที่สุดเสมอ แม้แต่หน่วยศัลยกรรมก็ไม่มีข้อยกเว้น
ราวสิบนาทีร่างสูงผอมที่ดูน่าเกรงขามของอาจารย์ประชาก็โผล่เข้ามาจากประตูห้องผ่าตัด และด้วยบุคลิกอันมั่นใจแม้จะอยู่ในชุดสครับธรรมดากับรองเท้าแตะแต่กลับเสมือนสวมชุดสูทที่ได้รับการตัดเย็บอย่างประณีต
พยาบาลราวสองคนเข้าไปช่วยอาจารย์สวมชุดคลุมผ่าตัดทับชุดสครับ หลังจากนั้นก็เดินมายืนประจำตำแหน่ง Surgeon พร้อม ๆ กับพี่เอิร์นที่รีบไปอยู่ตรงตำแหน่ง 1st Assist ปล่อยให้คนที่เหลือขยับตัวหาตำแหน่งยืนของตนลดหลั่นไปตามลำดับยศ
การผ่าตัดแต่ละประเภทต่างมีตำแหน่งยืนของแพทย์ผ่าตัดต่างกันเรียงตามความสำคัญในการผ่าตัด เริ่มจาก Surgeon หรือแพทย์ผู้ลงมือผ่า ตามมาด้วย 1st Assist หรือผู้ช่วยลำดับที่หนึ่ง และอาจมี 2nd Assist หรือผู้ช่วยลำดับที่สองเพิ่มเข้ามาในบางหัตการที่ยุ่งยากและซับซ้อน สำหรับการผ่าตัดต่อมไทรอยด์ตำแหน่งของศัลยแพทย์จะอยู่ที่ด้านขวาของคนไข้ซึ่งใกล้หัวเตียงที่สุด มีผู้ช่วยลำดับที่หนึ่งยืนอยู่ทางซ้ายของคนไข้ในจุดตรงกันข้าม
เมื่อทุกคนประจำที่ อาจารย์ประชาก็ก้มมองลงคนไข้อยู่ชั่วครู่ราวกับทำใจลงมีดไม่ได้
“คนไข้อ้วกรึเปล่า” อาจารย์ถามขึ้น
“ไม่ค่ะ” พี่เอิร์นตอบ ซึ่งชินรู้ว่าเป็นการตอบโดยไม่มีข้อมูลแม้แต่น้อยว่าคนไข้อาเจียนมาก่อนหรือไม่ และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาจารย์ถามทำไม แต่ที่ตอบเช่นนั้นเพื่อทำให้ตนเองรอดชีวิต หากตอบว่าไม่อาเจียนก็ไม่น่าจะมีคำถามอะไรเพิ่มเติมจากอาจารย์อีก
“ไอรึเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
“BP Shoot รึเปล่า”
“ไม่ค่ะ”
ตอนนี้เรสซิเดนต์ทุกคนแอบสบตากันเงียบ ๆ เริ่มเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์ประชาซักไซ้ ศัลยแพทย์ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยความภาคภูมิใจไม่อาจยอมรับความจริงที่ตนเองถูกเรียกมาทำข้อสอบซ่อมได้ อาจารย์กำลังพยายามหาสาเหตุที่ทำให้คนไข้รายนี้มีเลือดออกภายในแผลผ่าตัดเพื่อจะได้ไม่ต้องยอมรับว่าตนเองอาจห้ามเลือดไม่ดีก่อนปิดแผล
แต่เมื่อค้นพบว่าไม่มีสาเหตุใดที่น่าจะทำให้เกิดการปริแยกของหลอดเลือด อาจารย์ก็สูดหายใจเข้าปอดอย่างจำยอมและเริ่มลงมือ แล้วก็เจอว่าปัญหานั้นมีต้นตอจากหลอดเลือดดำขนาดเล็กในชั้นกล้ามเนื้อที่ไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้มีเลือดออกเป็นจำนวนมากได้
“มึงเผลอเอามือไปโดนตอนเย็บปิดกันละสิ” อาจารย์พูดขึ้นขณะทำการผูกซ่อมแซมเส้นเลือดเจ้าปัญหา
การผ่าตัดในโรงเรียนแพทย์อาจารย์จะเป็นผู้ดำเนินการผ่าเฉพาะส่วนที่ยากที่สุดของเนื้องานเท่านั้น และเมื่อผ่านพ้นกระบวนนั้นไปแล้วก็จะส่งต่องานเก็บกวาดให้แก่พี่ชีฟทำต่อ และเมื่อพี่ชีฟเก็บกวาดงานที่เหลือจนเรียบร้อย ก็จะส่งต่องานที่ไม่ต้องใช้สมองมากเช่นการเย็บปิดเนื้อเยื่อให้แก่เดนท์เล็ก ๆ ทำจนจบกระบวนการ ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้อาจารย์ตั้งข้อสังเกตว่าปัญหาที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ฝีมือของตนเอง
ไม่มีใครพูดอะไรออกมา หากการคิดเช่นนั้นจะทำให้อาจารย์รู้สึกสบายใจทุกคนก็ยินดี อาจารย์ที่มีความสุขย่อมทำให้การทำงานราบรื่นกว่าอาจารย์ที่ฉุนเฉียว
จากนั้นอาจารย์ก็ลงมือเย็บปิดด้วยตัวเองอย่างบรรจง
“ผมผ่าตัดมา 20 กว่าปี นี่เป็นเคสแรกของผมที่ต้องมา Re-op เพราะ Bleeding” อาจารย์ประชาประกาศขึ้นหลังจากเย็บแผลเสร็จ โดยที่ไม่มีใครกล่าวโทษว่าสิ่งนี้เป็นความผิดของอาจารย์เลยแม้แต่น้อย อาการเลือดออกหลังผ่าตัดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ และต่อมไทยรอยด์ก็เป็นอวัยวะที่มีหลอดเลือดมาเลี้ยงเป็นจำนวนมาก เรสซิเดนต์ทุกคนทำได้แค่พยักหน้าหงึกหงักอย่างพร้อมเพรียง
ยกเว้นชินที่คิดอย่างน้อยใจในโชคชะตาว่าทำไมครั้งแรกของอาจารย์ต้องมาเกิดขึ้นในวันนี้
หลังจาก 2 ชั่วโมงที่แสนยาวนาน ชายหนุ่มก็กลับมาที่ห้องด้วยความอ่อนล้าและง่วงนอน
เขาอาบน้ำแปรงฟันด้วยความรวดเร็วเพื่อจะได้ทิ้งตัวลงพักผ่อน พลางหยิบมือถือไถกล่อมตัวเองก่อนนอน แล้วเฟซบุ๊กก็แจ้งเตือนขึ้นมาว่าจิ๊บตอบรับคำขอเป็นเพื่อนเรียบร้อยแล้ว
หัวใจเริ่มเต้นแรงสูบฉีดเลือดไปทั่วร่างไล่ความง่วงและความอ่อนเพลียไปจนหมด ชินกดดูโปรไฟล์ของจิ๊บอีกครั้ง
มีรูปหมู่กับกลุ่มเพื่อนผู้หญิงสองคน รูปร้านคาเฟ่ขนมหวาน แชร์โพสต์สัตว์เลี้ยงน่ารักต่าง ๆ คอมเมนต์คุยกันทั่วไป ไม่มีสเตตัสบ่นระบายปัญหาชีวิต ไม่มีโพสต์อะไรล่อแหลมหรือดูผิดปกติ ไม่มีอะไรที่เขาไม่ชอบ
ตอนนี้เป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว แต่บรรยากาศที่ชวนให้หงอยเหงาในช่วงใกล้ลอยกระทงและความมั่นใจประหลาด ๆ ที่ติดมาจากอาจารย์ประชาก็ทำให้ชินพิมพ์ทักแชทไปอย่างไม่ลังเลว่า
‘หวัดดีครับ’
คำอธิบายท้ายบท
Thyroidec หรือชื่อเต็มคือ Thyroidectomy : การผ่าตัดต่อมไทรอยด์
Upper Airway Obstruct : ทางเดินหายใจอุดตัน
Hematoma : อาการห้อเลือด/เลือดคั่ง
Clot : ก้อนลิ่มเลือด
BP ย่อมาจาก Blood Pressure : ความดันโลหิต
BP Shoot : ความดันพุ่งสูงขึ้น
โฆษณา