Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ปันสุข
•
ติดตาม
27 ส.ค. 2024 เวลา 03:26 • การศึกษา
แนวทางการจัดการกับอดีต
อดีตคือเรื่องราวหรือเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ว่าจะดีหรือร้าย หากเป็นเรื่องที่ดี ต่อให้อีกกี่ 10 ปี ก็ยังอยากจดจำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคนรัก พ่อแม่ ญาติเพื่อนที่รัก เพราะเมื่อนึกถึงทีไร ก็นำความสุขมาให้แก่จิตใจของตน
แม้ยามเดิน ยืน นั่ง นอน ก็สุขได้ตลอดเวลา บางครั้งก็อาจเผลออมยิ้มไว้อย่างไม่รู้ตัวเลย แต่หากเป็นเรื่องร้ายหรือเรื่องแย่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไปขโมยของผู้อื่น ทำร้ายคนอื่น แย่งสามีหรือภรรยาของผู้อื่น เมื่อนึกถึงทีไร ก็นำความทุกข์มาสู่จิตใจของตน และบางครั้งก็อาจปรากฏความรู้สึกให้เห็นผ่านทางสีหน้าเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ความปรารถนาที่ต้องการให้ความสุขอยู่กับตนก็เกิดขึ้นและในขณะเดียวกันก็ไม่ปรารถนาต่อความทุกข์ กลายเป็นพยายามขับไล่อดีตที่ไม่ดีออกไป พยายามไม่นึกถึง พยายามนึกถึงแต่เรื่องที่มีความสุขอย่างเดียว
ซึ่งจากประสบการณ์ของผู้เขียน หากเรื่องอดีตที่เป็นทุกข์นั้นมีกำลังน้อยกว่า อดีตที่เป็นสุข การไม่นึกถึงย่อมเป็นไปได้ หากเรื่องอดีตที่เป็นทุกข์นั้นมีกำลังมากกว่า การไม่นึกถึงย่อมเป็นไปได้ยากหรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม การที่ไม่นึกถึงใช่ว่าอดีตเหล่านั้นมันจะหายไปจากจิตใจ มันยังคงฝังอยู่ภายในจิตใจเช่นเดิม ไม่หายไปไหน แค่รอเวลาที่จะออกมา เวลานั้นก็คือ เวลาที่นอนหลับ มันจะออกมาในรูปแบบของความฝัน ฉะนั้น หากจะให้กล่าวตามความเป็นจริงแล้ว ไม่สามารถกำจัดอดีตที่ไม่ชอบไปจากจิตใจได้
อดีตจึงอยู่กับเราเสมอ ไม่ไปไหน ทั้งอดีตที่ดีและอดีตที่ร้าย การรับมือเมื่อต้องเผชิญอดีตที่ไม่ดี ก็ต้องฝึกฝนสติและปัญญา เพราะสติเป็นเครื่องมือที่สำคัญ สติจะช่วยกำกับตัวเราในเวลาที่นึกถึงอดีตที่ไม่ดี เป็นสิ่งที่คอยดึงไม่ให้ตัวเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต
สำหรับคนที่ขาดดสติ เวลาที่เรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีตเข้ามาปรากฏในจิตใจ เขาก็จะหลงเข้าไปสู่ห้วงของเรื่องราวหรือเหตุการณ์ในอดีตที่ไม่ดีนั้น เหมือนกับคนที่ตกลงไปในห้วงน้ำอันมืดมิด เกิดอาการตกใจ ทำตัวไม่ถูก ประกอบกับความมืดมิดอีก ก็จะยิ่งตื่นตระหนกคูณสองหรือบางคนก็ยกกำลังเลยทีเดียว สุดท้ายคุณก็จะจมลงไปในห้วงน้ำนั้น เช่นเดียวกับอดีตที่ไม่ดีหรือเลวร้าย หากคุณขาาดสติก็จะเหมือนการที่คุณตกลงสู่ห้วงน้ำอันดำมืด
ดังนั้น สติจึงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าคุณจะตกลงสู่ห้วงน้ำ แต่ถ้าคุณตั้งสติได้ทัน รู้สึกตัวได้เร็ว คุณก็จะรู้ว่าขั้นตอนต่อไปต้องว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง การที่อดีตมันถาโถมมาสู่จิตใจก็เช่นกัน หากมีสติรู้สึกตัวว่า ณ ตอนนี้ตัวเองกำลังถูกดึงเข้าไปสู่อดีตที่ไม่ดีแล้ว วิธีต่อไปคือ พาตัวเองออกมาด้วยการว่ายออกมาสู่ความเป็นจริง การว่ายนี้คือ การใช้ปัญญาคิดใตร่ตรองด้วยเหตุและผล และในที่สุดคุณก็จะค่อย ๆ ออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงมากขึ้น
วิธีการนี้ไม่ได้ใช้ได้แค่เฉพาะการดึงตัวเองออกมาจากอดีตอันเลวร้ายเท่านั้น แม้อดีตอันดีที่งดงามก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เพราะการที่ติดอยู่กับอดีตที่เป็นสุข ย่อมส่งผลเสียต่อตนเอง ดังนี้
1.
อาจพลาดโอกาสการพัฒนาตนเองและการสร้างความสุขใหม่ในปัจจุบัน อาจหลีกเลี่ยงการที่จะต้องเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริง
2.
อาจทำให้เกิดการคาดหวังว่าปัจจุบันและอนาคตจะต้องมีความสุขแบบเดียวกัน ครั้นไม่เป็นดังที่หวังก็รู้สึกทุกข์ใจ
3.
อาจทำให้เรามองข้ามหรือไม่ให้ความสำคัญต่อปัจจุบัน จนความสัมพันธ์ที่ดีในชีวิตสูญเสียไป
การยึดติดกับอดีตที่เป็นสุขจึงเป็นอุปสรรคต่อการก้าวไปข้างหน้าและการสร้างความสุขในปัจจุบันและอนาคต
การที่จะมีสติดึงตนเองออกมาจากอดีตได้นั้น ใช่จะเกินวิสัยของมนุษย์ แต่จำต้องฝึกฝนให้ชำนาญ เมื่อเวลาที่พบเจอกับสถานการณ์จริง สติที่ฝึกฝนมาอย่างเต็มที่ก็พร้อมต่อการใช้งาน แต่เพียงแค่สติเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกระชากตัวเราให้ออกมาจากอดีตเหล่านั้นได้สมบูรณ์ แน่นอนว่า หากขาดซึ่งปัญญาแล้ว อย่างไรเสียก็จะถูกดูดกลืนเข้าไปในห้วงของอดีตเหมือนเก่าก่อน
อุปมาการเล่นชักกะเย่อกับอดีต หากสติมีกำลังมากพอ มันก็อาจจะดึงกลับมาอยู่โลกแห่งความจริงได้ แต่หากสติมีกำลังน้อยหรืออ่อนล้าเพราะมัวแต่ดึงกันไปมา สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การที่สติหมดกำลังที่จะดึงต่อไปและต้องยอมแพ้ไปในที่สุด
ปัญญาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งที่จะคอยตัดอดีตเหล่านั้นเหมือนกับการตัดเส้นทางน้ำไม่ให้ไหลผ่านจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เมื่อสติดึงตัวเราให้ค่อย ๆ หลุดออกมาจากอดีตได้ ปัญญาก็จะเป็นเหมือนกรรไกรรหรือของมีคมที่จะไปตัดให้เราหลุดออกจากอดีตได้อย่างถาวร แต่ก็ขึ้นอยู่ที่กำลังของปัญญาด้วยว่า มีกำลังมากเพียงใด หากมีกำลังมากยิ่งก็เหมือนมีดอันคมกริบย่อมตัดได้ขาดสะบั้นลงได้ แต่หากปัญญามีกำลังอ่อนเหมือนมีดที่ไร้คม การจะตัดให้ขาดเพียงครั้งเดียวย่อมเป็นไปไม่ได้
จึงต้องฝึกฝนพิจารณาอยู่บนรากฐานของเหตุและผลบ่อย ๆ เป็นเหมือนการรับมีดเสมอ เมื่อฝึกฝนอยู่เป็นนิตย์ สติและปัญญาก็พร้อมต่อการใช้งานและครั้นใช้แล้วย่อมก่อผลอย่างมีประสิทธิภาพอย่างสูงสุด
การศึกษา
blockdit
พัฒนาตัวเอง
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย