Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Main Stand
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
29 ส.ค. เวลา 12:30 • กีฬา
ดีลโค้งสุดท้าย : เจาะลึก เฟเดริโก้ เคียซ่า หมดสภาพไม่คุ้มเสี่ยงจริงหรือ ? | Main Stand
เฟเดริโก้ เคียซ่า ตกลงย้ายซบ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 11 ล้านปอนด์
Sound Check จากเสียงของแฟนบอลในโลกโซเชี่ยล ดูเหมือนว่าภาพจำของเขาในตอนนี้จะออกแนวนักเตะที่เจ็บจนหมดสภาพ ไม่เหลือเค้าเดิมในช่วง ยูโร 2020 ที่เขาพา อิตาลี เป็นแชมป์ยุโรป
ทว่าจริง ๆ แล้ว ถ้าเราลองลบภาพเก่า ๆ ทิ้งไปให้หมด จากนั้นมองที่สถิติตัวเลข เคียซ่า ยังมีดีที่จะพอไปต่อในเวทีระดับสูงหรือไม่ ?
หาคำตอบที่ Main Stand
ปีกที่ไม่เคยหยุดวิ่ง
เฟเดริโก้ เคียซ่า ถือเป็นนักเตะที่แจ้งเกิดในวงการฟุตบอลอิตาลีมานานแล้ว ถ้าใครติดตาม เซเรีย อา จะพอเข้าใจถึงความสามารถของเขาในวันที่เขาแจ้งเกิดกับ ฟิออเรนติน่า เมื่อฤดูกาล 2016-17
ณ ตอนนั้น หลายคนคิดว่าเขามาถึงจุดที่ได้ขึ้นชุดใหญ่ของม่วงมหากาฬ ก็เพราะว่าเป็นลูกชายของ เอ็นริโก้ เคียซ่า ฮีโร่ของสโมสร เพียงแต่ว่า วิธีการเล่นของเคียซ่าคนลูกนั้น แตกต่าง
ไม่ว่าจะด้วยตำแหน่งที่คนพ่อเป็นกองหน้าตัวต่ำ แต่ลูกชายเป็นตัวริมเส้นตามโลกฟุตบอลที่เปลี่ยนไป นักเตะตำแหน่งหน้าต่ำหมายเลข 10 แบบคลาสสิก เล่นเกมรุก 100% ตายไปพร้อมกับโมเดิร์นฟุตบอล ดังนั้นนักเตะที่มีความเร็วรอบจัด มีเซ้นส์ฟุตบอลสูง จะถูกขยับออกมาเล่นด้านข้าง ซึ่ง เฟเดริโก้ เคียซ่า ก็เป็นแบบนั้น
เขาถูกสร้างมาเพื่อเป็นตัวริมเส้น แม้เรื่องของเซ้นส์ฟุตบอลทั้งการจ่ายและการยิงถือเป็นตัวท็อปของรุ่นในระดับเยาวชน คนที่มั่นใจว่า เคียซ่า จะเหมาะกับตำแหน่งริมเส้นกว่าคือ เปาโล ซูซ่า อดีตโค้ชของ ฟิออเรนติน่า คนที่ให้โอกาสเขาเป็นครั้งแรก
"เขาเป็นลูกของ เอ็นริโก้ เคียซ่า แต่แนวทางของผมไม่มีเรื่องของระดับขั้นหรือความสนิทชิดเชื้อนอกสนาม เฟเดริโก้ ไม่ได้เป็นนักเตะที่เหมือนกับพ่อของเขาเสียทีเดียว แต่ถ้าเรื่องการเดินตามรอยเท้า ผมอยากให้พวกคุณดูเด็กคนนี้เอาไว้ดี ๆ" ซูซ่า กล่าวในปี 2016
"เฟเดริโก้ เป็นนักเตะหนุ่ม แต่ผมให้ความเคารพกับเขา เขาจะเล่นในตำแหน่งริมเส้นเป็นหลัก แต่จุดเด่นของเขาคือการรู้วิธีที่จะโจมตีและครองบอลเมื่ออยู่ด้านใน เขามีความสามารถในการวิ่งตัวเปล่าเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเก่งกาจในการหาจังหวะยิงประตู"
"สัญชาตญาณของเขาคือยอดนักเตะ คล้ายกับพ่อของเขา เพียงแต่เขาเป็นนักเตะที่เกิดมาเพื่อเล่นในฟุตบอลสมัยใหม่ ... ผมไม่เคยมีข้อสงสัยใด ๆ ทั้งนั้นในตัวเด็กคนนี้"
ช่วงเวลาหลังจากนั้น เคียซ่า คือปีกที่ดีที่สุดในประเทศ วิธีการเจาะทะลวงที่หลากหลาย เล่นได้การพาบอลออก้านกว้างและการตัดเข้าในเพื่อหาโอกาสยิงประตู เหนือสิ่งอื่นใดคือการพร้อมจะวิ่งไล่บอลทุกครั้งที่โค้ชสั่ง ไม่ว่าโค้ชคนไหนก็บอกแบบนั้น นี่คือนักเตะริมเส้นที่โค้ชทุกคนใฝ่ฝัน แข็งขันในการเล่นเกมรับ มีวินัยตอนที่ไม่มีบอล และมีจินตนาการตอนที่เล่นเกมรุก 3 สิ่งนี้ทำให้เขาไต่ระดับสูงอีกเรื่อย ๆ นับตั้งแต่วันแรกที่ได้กับ ฟิออเรนติน่า
ฤดูกาล 2020-21 ยูเวนตุส ยืมตัวเขาด้วยค่าตัว 3 ล้านยูโร พร้อมออปชั่นซื้อขาด 40+10 ล้านยูโรในอนาคต แต่การเปลี่ยนน้ำเปลี่ยนฟ้าก็ไม่ได้เปลี่ยนคุณภาพ เคียซ่า ยังโดดเด่นเหมือนเดิม เขาแย่งตัวจริงในตำแหน่งริมเส้นฝั่งซ้ายสำเร็จ และกลายเป็นตัวเลือกแรกในทีมชาติอิตาลีในยุคของ โรแบร์โต้ มันชินี่ ที่บอกว่า เฟเดริโก้ อาจจะเก่งกว่าพ่อของเขาด้วยซ้ำ
"เอ็นริโก้ เป็นกองหน้าที่คล่องตัวสูง แต่ เฟเดริโก้ นั้นเป็นปีกที่ทำได้ทุกอย่างที่คุณร้องขอ สิ่งที่ไม่มีใครทำได้เหมือนกับเขาก็คือการวิ่ง นี่คือนักเตะที่วิ่งเยอะมาก มากกว่าพ่อเขาหลายเท่าเลย" มันชินี่ ที่เป็นนักเตะรุ่นราวคราาวเดียวกับเคียซ่าผู้พ่อแซว
"การมาอยู่กับ ยูเวนตุส ถูกต้องทุกประการ เขาเติบโตขึ้นมากโดยเฉพาะเรื่องสภาพจิตใจ เขาจะเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติ และตลอดช่วงการทำงานกับผม ผมไม่เคยเห็นเขามีผลงานแย่เลย"
ทุกอย่างเป็นแบบนั้นจริง ๆ เคียซ่า แจ้งเกิดในฟุตบอล ยูโร 2020 (ที่แข่งในปี 2021) ทุกลีลาการเล่นของเขาประจักษ์แก่สายตาแฟนบอลทั่วโลก ณ ตอนนั้นมูลค่าของเขาพุ่งไปถึง 90 ล้านยูโร ...กลับกันในตอนนี้เหลือเพียง 35 ล้านยูโร ลดจากเดิมเกือบ 3 เท่า ขณะที่ราคาซื้อขายจริงคาดว่าจะเหลือแค่ 15 ล้านยูโรเท่านั้น อะไรที่ทำให้มันตกลงขนาดนีได้ ?
เกรดตกเพราะอะไร ?
ตอนนี้ เคียซ่า อายุ 26 ปี แล้ว เขาไม่ใช่ดาวรุ่งอีกต่อไป จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2022 ที่เขาได้รับบาดเจ็บที่เข่าอย่างรุนแรง
เขาหายหน้าหายตาจากฟุตบอลไปหลายเดือน และการกลับมาจากการเจ็บหนักนั้นเป็นอะไรที่ยากเสมอ โดยนับตั้งแต่วันนั้น เคียซ่า ไม่เคยอยู่ในระดับการเล่นที่เคยทำได้ใน ยูโร 2020 หรือก่อนหน้านั้นอีกเลย
"อาการบาดเจ็บของเขาส่งผลหนักมาก เขาหายไปหลายเดือน และมันส่งผลกับเขาโดยเฉพาะเรื่องจิตใจ ผมคิดว่า เคียซ่า มั่นใจในศักยภาพของร่างกายตัวเองน้อยลง" สเตฟาโน่ บูโอฟิโญ่ นักข่าวแถวหน้าของวงการฟุตบอลอิตาลีว่าแแบบนั้น
ย้อนบันทึกอาการบาดเจ็บของเคียซ่าหลัง ยูโร 2020 (ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2021) เคียซ่า ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 15 ครั้ง ครั้งที่นานที่สุดคือที่หัวเข่าในฤดูกาล 2021-22 ที่เขาเจ็บนาน 269 วัน พลาดเกมไปถึง 45 นัด
คราวนี้เรามาลองดูเรื่องอื่น ๆ นอกจากอาการบาดเจ็บกันบ้าง สิ่งที่กูรูฟุตบอลอิตาลีหลายคนบอก คือเรื่องของความสัมพันธ์กับกุนซือ ยูเวนตุส คนเก่าอย่าง มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ที่ไม่เคยคืบหน้าตั้งแต่วันที่ทั้งคู่ทำงานร่วมกัน เหตุผลน่ะเหรอ ? เขาบอกว่าไม่ใช่เรื่องนอกสนาม เรื่องวินัยหรืออะไรทำนองนั้น มันเป็นเรื่องของทัศนคติการทำทีม และวิธีการเล่นที่ไม่ตรงกันของคนสองคน
จิโอวานนี่ อัลบาเนเซ่ สายข่าวจากฟลอเรนซ์ ถิ่นเก่าของ เคียซ่า บอกว่า "ทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกัน จริงอยู่ที่เรื่องเจ็บคือปัญหา แต่เรื่องของเทคนิคและแท็คติกการเล่นก็เป็นปัญหาเหมือนกัน อัลเลกรี มองว่า เคียซ่า ไม่สม่ำเสมอ และมักจะทำผลงานได้แย่แบบน่าใจหายในบางเกม เขาอยากให้นักเตะคงเส้นคงวากว่านี้"
"แต่ปัญหาที่สอง ใหญ่กว่านั้นมาก ๆ มันคือเรื่องของวิธีการเล่น อัลเลกรี มักชอบให้ เคียซ่า เล่นเป็นวิงแบ็กในระบบ 3-5-2 หรือไม่ก็เป็นกองหน้าตัวต่ำ ซึ่งนักเตะมองว่าไม่ว่าตำแหน่งไหนก็ไม่เหมาะกับความสามารถของเขา เขาอยากเล่นตัวรุกริมเส้นมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้ในระบบของ อัลเลกรี"
นั่นคือสิ่งที่นักข่าวอิตาลีบอก ซึ่งไม่ใช่แค่คนเดียว สื่ออย่าง La Gazzetta dello Sport ก็เขียนข่าวคล้าย ๆ กัน โดยพวกเขาได้หยิบเอาบทสัมภาษณ์ที่สนับสนุนความไม่ลงรอยกันระหว่าง อัลเลกรี กับ เคียซ่า ที่ฝั่งของ เคียซ่า โมโหไม่พอใจการโดนเปลี่ยนตัวออกหลังนาทีที่ 60 เป็นประจำ จนบ่นผ่านสื่อว่า "ผมเป็นคนแรกที่โดนเปลี่ยนออกเสมอ"
การใช้งานที่ผิดแปลกไปจากตำแหน่งที่ดีที่สุดของนักเตะ อีกทั้งฟอร์มโดยรวมของทีมก็ไม่สามารถช่วยยกระดับของนักเตะขึ้นมาได้ ซึ่งคุณจะพบได้ว่าปัญหามากมายเกิดขึ้นใน ยูเวนตุส ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เรื่องทั้งหมดสะท้อนผลงานในแต่ละปีของพวกเขา จนกระทั่ง อัลเลกรี โดนปลดไป และเอา ติอาโก้ ม็อตต้า เข้ามาคุมทีมแทน
ว่ากันว่า โค้ชใหม่ = นักเตะต้องเริ่มใหม่ทุกคน ทว่าสำหรับ เคียซ่า ไม่ใช่แบบนั้น ม็อตต้า ก็เป็นอีกคนที่เชื่อมั่นและแจ้งเกิดกับระบบการเล่นแบบเซ็นเตอร์แบ็ก 3 ตัว ใช้วิงแบ็กเป็นตัวขึ้นเกมริมเส้น เขามาที่ ยูเวนตุส และยึดมั่นกับแผนนั้น และนั่นทำให้เป็นอีกครั้งที่ เคียซ่า ไม่สามารถเล่นในระบบการเล่นที่เหมาะกับตัวเองได้ อีกทั้งสัญญาของเขาเหลืออีกเพียง 1 ปีเท่านั้น
ถ้าปีนี้ไม่ใช้ ไม่ได้เป็นตัวหลัก นักเตะก็จะไม่ต่อสัญญา ซึ่งปลายทางก็เท่ากับเสียไปฟรี ๆ ดังนั้น เคียซ่า จึงเป็นนักเตะที่ถูกเททิ้งในราคาลดกระหน่ำเหลือเพียง 10-15 ล้านยูโรเท่านั้น
แต่นั่นก็ยังเกิดคำถามอยู่ดีว่า ราคานี้จะคุ้มเหรอสำหรับนักเตะขาลงอย่างเขา ?
เคียซ่า ที่แท้ทรู
จริง ๆ แล้วเรื่องอาการบาดเจ็บที่หลายคนกังวลเกี่ยวกับเขา รวมถึงตัวเลขที่เราเสนอไปว่าเขาบาดเจ็บถึง 15 ครั้ง นั้น ถ้าเจาะเข้าไปลึก ๆ จะพบว่าจริง ๆ แล้วมีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่ เคียซ่า เจ็บยาวเกิน 1 เดือน ส่วนใหญ่การเจ็บของเขาจะเป็นช่วงพักสั้น ๆ ราว ๆ 7-10 วันแทบทั้งนั้น
สิ่งนี้บอกได้ว่าร่างกายของเขาไม่ได้กรอบถึงขั้นเละแหลกเป็นข้าวเกรียบโดนทุบแบบที่ใครเข้าใจ จริงอยู่ที่ 15 ครั้งในรอบ 3 ปี ก็ถือเป็นตัวเลขที่เยอะอยู่ แต่การพักสั้น ๆ 7-10 วัน ก็เป็นตัวเลขค่าเฉลี่ยที่ไม่สูงเกินกว่านักเตะทั่วไปอย่างที่ใครคิด
ทีนี้ปัญหามันขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเอา เคียซ่า ไปใช้แบบไหน ? ถ้าคุณจะเอาเขาไปเล่นตัวจริงในทุกสัปดาห์ การันตี 11 ตัวจริงให้กับเขา ดูเหมือนมันจะไม่ใช่แบบนั้น เคียซ่า จะเป็นนักเตะที่เหมาะกับการเสริม Sqaud Depth ของทีม
และเป็นตัวเลือกทางแท็คติกที่ดีมาก ๆ เพราะเขาเป็นนักเตะที่เล่นได้หลายแท็คติกจากตำแหน่งการเล่นที่หลากหลาย ตั้งแต่วิงแบ็ก ลากยาวไปจนถึงปีก แถมได้หมดทั้งฝั่งซ้ายและขวา หรือแม้กระทั่งกองหน้าตัวต่ำ หรือหัวหอกแบบ False 9 อย่าลืมว่านี่คือปีกตัวรุกที่เล่นเกมรับได้อย่างมีวินัย สั่งคำไหนคำนั้น ซึ่งกับราคา 10-15 ล้านยูโร ถ้าการใช้งานเคียซ่า ในรูปแบบของตัวโจ๊กเกอร์ ก็เป็นอะไรที่ตอบโจทย์มาก ๆ
ถ้าคุณบอกว่า เอ๊ะ การโยกตำแหน่งแบบนี้มันจะซ้ำรอยกับที่ ยูเวนตุส ที่เขาแตกหักกับ อัลเลกรี หรือไม่ ? ... ดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของความไว้ใจกันและกันมากกว่า ก็อย่างที่เล่าไปข้างต้นว่า อัลเลกรี ชอบเปลี่ยนเขาตั้งแต่หลังนาทีที่ 60 แทบทุกเกม
ซึ่งนักเตะบางคนพร้อมจะเล่นทุกตำแหน่งเพื่อโค้ชบางคนที่ได้ใจเขา แม้จะมีข่าวลือเรื่องความไม่พอใจเรื่องตำแหน่ง แต่ เคียซ่า เองก็เคยพูดด้วยตัวเองว่า จริง ๆ แล้วเขาก็เป็นนักเตะที่เล่นได้ทุกตำแหน่ง ... ทัศนคติของเขาก็เป็นสิ่งที่โค้ชหลายคนชื่นชมมาตลอด
"ผมเล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวที่สองได้ ผมเล่นวิงแบ็กได้ ผมเล่นตรงไหนก็ได้ แม้จะต้องเล่นระบบ 3-5-2 ผมก็พร้อมช่วยทีม ผมเป็นนักเตะที่พัฒนาขึ้นจากการผ่านมือโค้ชหลายคนเช่น ซูซ่า และ (สเตฟาโน่) ปิโอลี่ เขาสอนให้ผมเล่นเกมรับ และผมปรับปรุงเกมรับของผมให้ดีขึ้น ผมเล่นเพื่อพวกเขาได้ไม่เว้นแม้กระทั่งวิงแบ็กฝั่งขวา" เคียซ่า ว่า
ส่วนสถิติส่วนตัวของ เคียซ่า ที่ถูกชี้ชัดว่าเป็นจุดเด่นของเขา คือการเอาชนะสถานการณ์ในการดวลกันแบบ 1-1 ถ้าเราดูสถิติของ เคียซ่า ในฤดูกาล 2023-24 อยู่ที่ 1.44 ครั้งต่อเกม หากลองเอาไปเทียบกับนักเตะของทีมที่อยากได้เขาอย่าง ลิเวอร์พูล คุณจะพบว่าสถิตินี้มากกว่า ดาร์วิน นูนเญซ (0.79 ครั้งต่อเกม) และ ดิโอโก้ โชต้า (1.11 ครั้ง ต่อเกม) อีกด้วย
อย่างที่บอก เคียซ่า เป็นนักฟุตบอลที่เกิดมาเพื่อเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ คุณจะได้ความหลากหลายหากได้เขามาอยู่ในทีม เหนือสิ่งอื่นใด ใครจะรู้ ถ้าหากเขากลับมาเล่นอย่างมั่นใจ เชื่อในศักยภาพร่างกายตัวเอง เคียซ่า อาจจะกลับไปใกล้เคียงจุดพีกที่เขาเคยทำไว้ก็ได้
บทความโดย : ชยันธร ใจมูล
แหล่งอ้างอิง
https://www.transfermarkt.com/why-juventus-want-to-sell-federico-chiesa-liverpool-make-first-approach/view/news/441079
https://onefootball.com/en/news/he-has-more-running-than-his-father-mancini-praises-juventus-star-32123302
https://sempreinter.com/2020/04/07/inter-target-federico-chiesa-i-have-already-played-in-a-3-5-2-system/
https://football-italia.net/sousa-no-chiesa-doubts/
https://football-italia.net/chiesa-can-follow-enricos-footsteps/
https://football-italia.net/chiesa-allegri-relationship-hits-new-low-as-juventus-star-rages-after-being-substituted/
https://onefootball.com/en/news/juventus-federico-chiesa-frustrated-with-life-under-max-allegri-37731191
2 บันทึก
12
1
2
12
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย