6 ก.ย. 2024 เวลา 04:45 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
วัดปันเสา

อจินไตย ๔ ประการ คือสิ่งที่สนใจไปก็ไม่เกิดประโยชน์

ในพระไตรปิฎกฉบับเก่าแก่ที่สุดในโลกซึ่งคัดลอกบาลีปกรณ์มาจากจารึกอักษรเทวนาครีบนเสาหินของพระเจ้าอโศกมหาราช ได้จาระถึงอจินไตย ๔ ประการไว้ดังนี้
#อจินไตย #กรรม #วิบากกรรม
ภิกขุทั้งหลาย!  อจินไตย ๔ อย่างนี้ไม่ควรคิด
ผู้ที่คิดก็จะพึงมีส่วนแห่งความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
อจินไตย ๔ คืออะไรบ้างเล่า ? คือ
๑. พุทธวิสัยแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่ง
ความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
๒. ฌานวิสัยแห่งผู้ได้ฌาน
เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่ง
ความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
๓. วิบากแห่งกรรม
เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่ง
ความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
๔. โลกจินดา (ความคิดในเรื่องของโลก)
เป็นอจินไตยไม่ควรคิด ผู้ที่คิด ก็จะพึงมีส่วนแห่ง
ความเป็นบ้า ได้รับความลำบากเปล่า.
ข้อความจากพระพุทธโอษฐ์ข้างต้น รับรองไว้ว่า อจินไตย ๔ คือ เรื่องที่ไม่สามารถจินตนาการถึงได้ (อะจินตัยยะ) โดยเฉพาะเรื่องของ ฌาน วิบากกัมม์และเรื่องการจินตนาการถึงภพภูมิต่างๆ เพราะจะทำให้คนหลง โดยเฉพาะหลงยึดติดในความมหัศจรรย์ และหลงยึดติดใจในความงมงาย ความหลงนี้เองจะทำให้สัตตานังติดอยู่ในวัฏสงสารตลอดไป ต้องเวียนตายเวียนเกิด ตกนรกซ้ำๆ ตายซ้ำๆอย่างไร้แก่นสาร
อาทิเช่น การวัดบุคคลว่าได้ฌานขั้นไหนแล้ว แม้แต่ตนเองว่าบรรลุฌานถึงระดับไหนแล้ว จะทำให้จิตเกิดพันธะผูกให้หลุดพ้นไปจากความยึดมั่นถือมั่นไปไม่ได้ แม้พระพุทธองค์จะสอนเรื่องฌานเอาไว้ด้วยกันว่ามีถึง๙ระดับ ตามความแก่กล้าของอำนาจสมาธิ แต่การมานั่งวัดฌานนั้นไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ แถมมักจะเกิดเป็นโทษจากการโต้แย้งกันอีกด้วย
นอกจากนี้ วิบากของกรรม หรือผลของกรรมนั้น ไม่สามารถระบุได้ว่า กระทำกรรมเช่นนี้ จะเกิดผลเช่นไหน เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆแต่หนหลังปางก่อนมาร้อยรัดพันตูไว้ ทำให้เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่าผลกรรม หรือ วิบากกรรม จะออกมาในรูปแบบไหน เพราะไม่มีเครื่องวัด และวิบากกรรมก็ไม่ได้มีสภาวะที่แน่นอนตายตัว มันมีผลข้างเคียงหรือผลลัพธ์ร่วมที่ถูกหล่อหลอมมาอย่างหลากหลาย สามารถย้อนกลับหลังไปได้หลายสมัย หลายชาติภพ
ดังนั้นเรื่องของวิบากกรรมหรือผลแห่งกรรมจึงไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะชั่งตวงวัดหรือประเมินได้เลย มีเพียงพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ทรงประเมินได้และรู้แจ้งแท้จริง แต่เมื่อพระองค์ทรงรู้ว่าสังสารวัฏมีสมัยอันเป็นอนันต์ ไม่อาจนับได้ถ้วน ไม่อาจเล่าได้หมด หากจะเล่าให้หมดได้จะต้องใช้เวลาเป็นล้านล้านล้านกัปกัลป์ถึงจะเล่าหมดว่าบุคคลหนึ่งเคยเกิดเป็นอะไร เคยก่อกรรมอะไร และจะมีผลกรรมอย่างไร ดังนั้น ทั้งเรื่องวิบาก เรื่องภพชาติและโลกธาตุวัฏสงสารจึงไม่อยู่ในฐานะที่จะนำมาคิดมาตรึกตรองได้ แถมยิ่งคิดก็ยิ่งเป็นบ้า
แอดมินอันตราปรินิพพายี แห่งเพจเฟ๊ซบุ๊ค "ธรรมะแฟนตาซี"
โฆษณา