Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Alisa Forex Investment
•
ติดตาม
8 ต.ค. 2024 เวลา 01:24 • หุ้น & เศรษฐกิจ
อุปสงค์ (Demand) และอุปทาน (Supply) คืออะไร?
อุปสงค์ (Demand) หมายถึง ปริมาณความต้องการซื้อสินค้าหรือสินทรัพย์ในตลาด การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ทำให้ราคาสินทรัพย์มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น หากมีความต้องการซื้อสูงแต่สินค้ามีจำกัด ผู้ซื้อจะยอมจ่ายราคาสูงขึ้นเพื่อให้ได้ครอบครองสินค้านั้น ตัวอย่างเช่น เมื่อมีการเปิดตัวสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาด หากปริมาณสินค้ามีน้อย ความต้องการที่มากเกินไปจะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มสูงขึ้นตาม
ในทางกลับกัน อุปทาน (Supply) หมายถึง ปริมาณความต้องการขายสินค้าหรือสินทรัพย์ หากมีความต้องการขายมากกว่าความต้องการซื้อ ราคาของสินค้านั้นจะลดลงตามไปด้วย เนื่องจากผู้ขายต้องการปล่อยสินค้าออกไปให้มากที่สุด การลดราคาจะช่วยดึงดูดผู้ซื้อเพื่อทำให้เกิดการซื้อขายมากขึ้น เช่น กรณีของสินค้าลดราคาหรือโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ดึงดูดความสนใจของผู้ซื้อโดยตรง
ความสำคัญของอุปสงค์และอุปทานในตลาด Forex
ในตลาด Forex อุปสงค์และอุปทานเป็นปัจจัยหลักที่กำหนดทิศทางของราคาสกุลเงิน การเพิ่มขึ้นของความต้องการซื้อสกุลเงินหนึ่งจะทำให้ราคาสกุลเงินนั้นพุ่งสูงขึ้น ในขณะที่การเพิ่มขึ้นของความต้องการขายจะส่งผลให้ราคาลดลง แนวคิดนี้ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในโซนอุปสงค์ (Demand Zone) และโซนอุปทาน (Supply Zone)
ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดกลับตัวของกราฟราคาได้อย่างแม่นยำ โซนอุปสงค์จะเป็นช่วงราคาที่ผู้ซื้อมีมากกว่าผู้ขาย ซึ่งทำให้ราคาสกุลเงินมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่วนโซนอุปทานจะเป็นช่วงราคาที่ผู้ขายมีมากกว่าผู้ซื้อ ส่งผลให้ราคาสกุลเงินลดลง
ตัวอย่างของอุปสงค์และอุปทานในชีวิตประจำวัน
หลักการของอุปสงค์และอุปทานสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนในชีวิตประจำวัน ตัวอย่างเช่น สินค้าที่เป็นที่ต้องการสูงอย่างตุ๊กตาลาบูบู้ เมื่อมีกระแสความต้องการซื้อมากกว่าความต้องการขาย ราคาของตุ๊กตานี้ก็จะพุ่งสูงขึ้นตาม เมื่อผู้ขายไม่สามารถผลิตสินค้าทันตามความต้องการ ราคาสินค้าจะถูกปรับเพิ่มขึ้นตามกลไกตลาด
แต่เมื่อมีการผลิตสินค้าเพิ่มเพื่อตอบสนองความต้องการที่สูง ราคาของสินค้าจะค่อย ๆ ปรับลดลงเมื่อสินค้ามีมากเพียงพอต่อการซื้อขาย ตัวอย่างนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับตลาด Forex ได้อย่างชัดเจน โดยสกุลเงินที่มีความต้องการซื้อมากจะมีราคาสูงขึ้น และสกุลเงินที่มีความต้องการขายมากจะมีราคาลดลง
วิธีการหา Demand และ Supply Zone
การหาโซนอุปสงค์(Demand Zone)และโซนอุปทาน (Supply Zone) บนกราฟราคาสามารถช่วยให้นักเทรดระบุจุดกลับตัวของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การดูกราฟราคาที่มี "Imbalance" ความไม่สมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานเป็นสิ่งสำคัญ หากผู้ซื้อมีมากกว่าผู้ขาย จะทำให้กราฟเกิดทิศทางขาขึ้น ส่วนหากผู้ขายมีมากกว่าผู้ซื้อจะทำให้กราฟเกิดทิศทางขาลง การเกิด Imbalance ที่ชัดเจนสังเกตได้จากกราฟที่มีแท่งเทียนยาว และมีเนื้อเทียนเต็มแท่ง ซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีความต้องการซื้อหรือขายที่มากในช่วงเวลาดังกล่าว
โซนอุปสงค์จะเป็นพื้นที่ของกราฟที่ราคามีแนวโน้มที่จะพุ่งขึ้นเมื่อผู้ซื้อเข้ามามากขึ้น ในทางตรงกันข้าม โซนอุปทานจะเป็นพื้นที่ที่ราคามีแนวโน้มลดลงเมื่อผู้ขายมีจำนวนมากเกินกว่าผู้ซื้อ
การใช้งาน Demand และ Supply Zone ในการเทรดจริง
นักเทรดสามารถใช้โซนอุปสงค์และอุปทานในการวางแผนการซื้อขายได้ เริ่มจากการมองหาจุดที่เกิด Imbalance ในกราฟราคา หากพบว่ามีโซนอุปสงค์ที่มีความสดใหม่และไม่เคยถูกทดสอบมาก่อน นั่นหมายความว่าราคามีโอกาสที่จะกลับตัวขึ้นได้สูง ในกรณีของโซนอุปทาน หากพบว่าโซนนั้นมีความสดใหม่ จะมีโอกาสที่จะกลับตัวลงได้ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เช่น MACD หรือรูปแบบกราฟแท่งเทียน Hammer ยังช่วยยืนยันแนวโน้มของราคาและเพิ่มความแม่นยำในการวางแผนการซื้อขาย
ตัวอย่างเช่น หากกราฟแสดงรูปแบบแท่งเทียน Hammer ในโซนอุปสงค์ที่สดใหม่ และเครื่องมือ MACD บ่งชี้ถึงสัญญาณขาขึ้น นักเทรดสามารถเปิดคำสั่งซื้อ (Buy) ได้อย่างมั่นใจว่าราคาจะมีโอกาสกลับตัวขึ้นสูง
ตัวอย่างการใช้ Demand Zone และ Supply Zone ในการเทรด
เมื่อเราพบโซนอุปสงค์ (Demand Zone) หรือโซนอุปทาน (Supply Zone) ที่เหมาะสม สามารถใช้เป็นจุดอ้างอิงในการเปิดคำสั่งซื้อหรือขายได้ ตัวอย่างเช่น หากพบโซนอุปสงค์ที่เกิดจาก Imbalance ขาขึ้น และมีแท่งเทียนยาวและแข็งแรง แสดงว่ามีความต้องการซื้อสูง และอาจเป็นจุดที่ราคาจะกลับตัวขึ้น นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือ MACD เพื่อยืนยันแนวโน้มจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการวางคำสั่งซื้อนั้นมีความน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างการเทรดจริงอาจเป็นการเปิดคำสั่งซื้อเมื่อพบกราฟที่แสดงรูปแบบ RBR (Rally Base Rally) ซึ่งเป็นรูปแบบที่แสดงถึงโซนอุปสงค์ขาขึ้น และเมื่อใช้ MACD ในการวิเคราะห์เพิ่มเติม พบว่ามีสัญญาณขาขึ้นที่ชัดเจน นักเทรดสามารถตั้งค่า Take Profit (TP) และ Stop Loss (SL) เพื่อควบคุมความเสี่ยงในการซื้อขายได้
สรุป
หลักการของอุปสงค์และอุปทานเป็นพื้นฐานสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ตลาดการเงิน โดยเฉพาะในตลาด Forex การทำความเข้าใจในแนวคิดเหล่านี้ช่วยให้นักเทรดสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาและหาจุดกลับตัวได้อย่างแม่นยำ การใช้โซนอุปสงค์และอุปทานในการวางแผนการซื้อขาย รวมถึงการใช้เครื่องมือช่วยในการวิเคราะห์ เช่น MACD หรือรูปแบบแท่งเทียน Hammer จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและโอกาสในการทำกำไร
อ่านเพิ่มเติม
thaibrokerforex.com
Demand & Supply คืออะไร สิ่งพื้นฐานของการลงทุน ทุกประเภท
หนึ่งในโครงสร้างตลาดที่มีความสำคัญเป็นอันดับดับต้นๆเลยก
การลงทุน
forex
หุ้น
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย