Steilneset Memorial
สถาปนิก Peter Zumthor ร่วมกับศิลปิน Louise Bourgeois
อนุสรณ์สถาน Steilneset สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ถูกข่มเหงรังแกในช่วงการล่าแม่มดและพิจารณาคดีลงโทษแม่มดในเขตฟินน์มาร์กในศตวรรษที่ 17 โดยตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลแบเรนตส์ที่เป็นหินขรุขระในเมืองวาร์เดอ ประเทศนอร์เวย์ ผลงานชิ้นเอกนี้สร้างขึ้นโดยความร่วมมืออันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างสถาปนิกชาวสวิสที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง Peter Zumthor (ชาวเมืองบาเซิล ปี 1943) และศิลปินร่วมสมัยชื่อดังอย่าง Louise Bourgeois (ชาวเมืองปารีส ปี 1911-2010) เปิดอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.2011 โดยพระราชินี Sonja แห่งนอร์เวย์
Zumthor อธิบายการทำงานร่วมกันของเขากับ Bourgeois ไว้อย่างง่ายๆว่า “ผมมีไอเดียแล้ว ผมก็ส่งไปให้เธอ เธอชอบมัน และเธอก็คิดไอเดียของเธอขึ้นมา ตอบสนองต่อไอเดียของผม จากนั้นผมจึงเสนอที่จะล้มเลิกไอเดียของตัวเองแล้วทำตามไอเดียของเธอเท่านั้น แล้วเธอก็บอกว่า ‘อย่าเลย โปรดทำตามนั้นต่อเถอะ’ ดังนั้นผลลัพธ์ที่แท้จริงจึงเกี่ยวกับสองสิ่ง คือ มีเส้นตรงซึ่งเป็นของผม และจุดที่เป็นของเธอ… งานอินสตอลเรชั่นของ Louise เน้นไปที่การเผาไหม้และความก้าวร้าว ส่วนงานอินสตอลเรชั่นของผมเน้นไปที่ชีวิตและอารมณ์ความรู้สึก”
อนุสรณ์สถานประกอบด้วยอาคารที่แยกจากกันสองหลัง: โครงสร้างไม้ยาว 410 ฟุต (120 ม.) ที่ทำเป็นโครงรังไหมที่บรรจุการติดตั้งของ Zumthor และห้องกระจกสีควันสี่เหลี่ยมจัตุรัสซึ่งมีหลังคาด้านละ 39 ฟุต (12 ม.) ที่เก็บผลงานของ Bourgeois
นั่งร้านไม้สนของ Zumthor ทำจากโครงไม้ซึ่งประดิษฐ์ขึ้นนอกสถานที่และประกอบเข้าด้วยกันเพื่อสร้างช่อง 60 ช่องในแนวยาว รองรับรังไหมแผ่นไฟเบอร์กลาสเคลือบที่เรียวลงที่ปลายทั้งสองข้างที่แขวนลอยอยู่ด้วยเชือกค้ำ
ภายในผู้เยี่ยมชมเดินไปตามทางเดินไม้ยาว 328 ฟุต (100 ม.) แต่กว้างเพียง 5 ฟุต (1.5 ม.) และตามทางเดินแคบๆ มีหน้าต่างเล็กๆ 91 บานที่วางแบบสุ่ม ผ่านหน้าต่างแต่ละบานสามารถมองเห็นหลอดไฟเพียงดวงเดียว ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสื่อถึง "โคมไฟในหน้าต่างเล็ก ๆ ที่ไม่มีม่านของบ้านเรือน" ในภูมิภาคนี้ หลอดไฟแต่ละดวงที่แขวนห้อยอยู่ด้านหลังหน้าต่างทั้ง 91 บาน ส่องแสงสว่างเพื่อรำลึกถึงบุคคล 91 คนที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานใช้เวทมนตร์และถูกเผาทั้งเป็น หน้าต่างแต่ละบานมีแผ่นโลหะที่บอกเล่าเรื่องราวของบุคคลแต่ละคน
อาคารที่จัดแสดงผลงานของ Bourgeois นั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับอาคารที่อยู่คู่กัน โครงสร้างสี่เหลี่ยมจัตุรัสของอาคารนี้ทำจากเหล็กกล้าที่ผุกร่อนและกระจกสี 17 บาน โดยก่อเป็นผนังที่ยาวเกือบถึงเพดานและพื้น
ภายในอาคาร Bourgeois ได้สร้างสรรค์ “ผู้ถูกสาป ผู้ถูกสิง และผู้ถูกรัก The Damned, The Possessed and The Beloved” ซึ่งเป็นงานศิลปะจัดวางหลักชิ้นสุดท้ายในชีวิตของเธอ ประกอบด้วยเปลวไฟที่ลุกโชนไม่รู้จบบนเก้าอี้เหล็กที่วางอยู่ภายในกรวยคอนกรีตกลวง เก้าอี้โลหะที่มีเปลวไฟฉายออกมาจากที่นั่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็น "ในกระจกรูปวงรี 7 บานที่วางอยู่บนเสาโลหะเป็นวงแหวนรอบที่นั่งที่ลุกเป็นไฟ ราวกับผู้พิพากษาที่วนเวียนอยู่รอบผู้ต้องโทษ"
นักเขียน Donna Wheeler ได้ไตร่ตรองถึงประติมากรรมของ Bourgeois ที่มีเปลวไฟลุกโชนอยู่ภายในเก้าอี้ตัวเดียว โดยกล่าวว่า "เปลวไฟที่ไม่มีวันดับ - เกาลัดเก่าแก่แห่งการรำลึกและการไตร่ตรอง - ที่นี่ไม่มีคุณสมบัติในการไถ่บาปใดๆ ส่องสว่างเพียงภาพแห่งการทำลายล้างของมันเองเท่านั้น"
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
