6 ม.ค. เวลา 16:00 • อาหาร

‘อะโวคาโด’ มีดีอะไร ทำไมราคาสูง? ผลไม้กึ่งผักอายุกว่าพันปี มาแรงในตลาดตามเทรนด์ ‘อาหารสุขภาพ’

[เรื่อง: ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ | อาหารสมอง]
อะโวคาโดมีหลายรูปลักษณ์เพราะมีนับร้อยพันธุ์ แต่ที่ปลูกและบริโภคกันนั้นมีไม่กี่ชนิดคล้ายกับมะม่วง อะโวคาโดบ้างก็กลม บ้างก็รี บ้างก็ยาวคล้ายแตงกวา
ที่มาของชื่อนั้นถ้าเล่าไปแล้วบางท่านที่บริโภคอาจรู้สึกเขิน avocado ในภาษาอังกฤษมาจากภาษาสเปนว่า aguacate โดยมาจากภาษาพื้นเมืองของชาว Aztec อีกที ซึ่งหมายถึง “อัณฑะ” เข้าใจว่าเนื่องจากมันห้อยลงมาจากกิ่งโดยมีก้านยาวและบ่อยครั้งที่ห้อยเป็นคู่ นับว่าจินตนาการของชาวพื้นเมืองใช้ได้เลย
1
ชาวพื้นเมืองรู้จักอะโวคาโดมานับพันปี มีการพบฟอสซิลในบริเวณตอนกลางและใต้ของเม็กซิโกว่ามีอายุนับล้านปี
นอกจากนี้มีหลักฐานว่ามนุษย์นำมาปลูกเป็นอาหารเมื่อประมาณ 500 ปีก่อนคริสตกาล หรือเมื่อประมาณ 2,500 ปีก่อน ผู้คนในวัฒนธรรมอเมริกากลางไม่ว่า Olmec (ประมาณ 1,200-400 ก่อนคริสตกาล) หรือ Maya (2,000 ปีก่อนคริสตกาล ถึง ค.ศ. 1700) หรือ Aztec (ค.ศ. 1300-1520)) ฯลฯ ล้วนบริโภคอะโวคาโดเป็นอาหาร
จุดเปลี่ยนของมันคือเมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เดินทางไปบริเวณอเมริกากลาง (คนไทยเหมารวมเรียกส่วนนี้ว่าเป็นอเมริกาใต้ด้วย) เมื่อศตวรรษที่ 16 อันนำไปสู่การล่มสลายของหลายวัฒนธรรมของคนพื้นเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาณาจักร Aztec
และเมื่อพวกรุกรานเหล่านี้เดินทางกลับก็นำเอาพืชหลายอย่างของทวีปอเมริกา (โลกใหม่) ติดตัวไปยุโรปและแพร่หลายไปเอเชียในเวลาต่อมา เช่น พริก ข้าวโพด มันฝรั่ง มะเขือเทศ มันเทศ สับปะรด ลฯล และอะโวคาโด
อย่างไรก็ดี อะโวคาโดไม่เป็นที่นิยมเหมือนพืชอื่น ๆ มันเริ่มเป็นที่รู้จ้กเมื่อเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาในต้นศตวรรษที่ 19 และรู้จักกว้างขวางขึ้นในต้นศตวรรษที่ 20 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเป็นประมาณกลางศตวรรษที่ 20 เมื่อมีการพัฒนาการขนส่งและการแช่เย็น จึงเป็นที่นิยมมากขึ้นและแพร่กระจายไปยุโรป ออสเตรเลีย และเอเชีย
อะโวคาโดฮิตมากขึ้นทุกทีในทศวรรษ 1990 และ 2000 อันเป็นผลจากการตลาดซึ่งสอดคล้องกับการพุ่งขึ้นของรสนิยมบริโภคอาหารสุขภาพของชาวโลก
อะโวคาโดอุดมด้วยสารอาหาร ใน 100 กรัมของอะโวคาโดมีไขมันมากถึง 15% โดยเป็นไขมันดีที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กล่าวคือ เป็น ไขันประเภท monounsaturated และ polyunsaturated มีคาร์โบไฮเดรต 9% มีโปรตีน 2% มีเส้นใยอาหาร 7% และมีน้ำตาลเพียงไม่ถึง 1%
โฆษณา